โจเอลซึ่งรู้อยู่แล้วว่าการผ่านตัดในวันนี้จะต้องปลอดภัยแน่
แต่ถึงอย่างไร ถ้าเขาไม่ได้ยินกับหูของตัวเอง เขาก็จะยังคงกังวัลอยู่ไม่ว่าอะไรก็ตาม
ในตอนนี้ ที่การผ่าตัดได้เป็นอันสำเร็จจริง
เขายังเป็นความหวังเดียวของลูซี่อีกด้วย
ในระหว่างที่คิดอย่างนี้ โจเอลปล่อยให้คุณหมอขอตัวและไปพักก่อน
ในตอนนี้ มีบางคนกำลังส่งตัวแม่ของลูซี่ ที่ซึ่งพึ่งผ่าตัดเสร็จไปยังห้องดูแลพิเศษ เพื่อให้สามารถดูแลเธอเป็นการส่วนตัว
ในเมื่อเธอยังไม่ผ่านช่วงเวลาวิกฤต 48 ชั่วโมง ลูซี่จึงยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม
เธอทำได้เพียงมองผ่านกระจกแก้วที่หนาอย่างห่าง ๆ
แม่ของเธอนอนผอมแห้ง และดูซีดเซียวอยู่บนเตียงสีขาวขาวของโรงพยาบาล
อัตราการเต้นของหัวใจจองเธอที่เต้นอย่างปกติ ปรากฏบนหน้าจอของเครื่องวัดชีพจรที่วางตั้งไว้อยู่ข้างเตียง แต่น้ำตากลับเริ่มไหลลงมา ในตอนที่เธอจ้องมองมัน
ด้วยเหตุบางอย่าง โจเอลเดินเข้ามาจากด้านหลังของเธอ
เขาดึงเธอเข้าสู้อ้อมกอดของเขา จากนั้นยกแขนของเขาจับไปที่หลังหัวของเธอและค่อย ๆ กดให้เธอซบลงไปไหล่ของเขา
เขาพูดอย่างอ่อนโยน “ร้องสิ คุณจะรู้สึกดีขึ้นหลังจากร้องไห้”
ลูซี่ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้นานกว่านี้ เธอเกาะเขาไว้ ดึงเสื้อของเขาและร้องไห้ออกมา
หญิงสาวที่อยู่ภายในอ้อมกอดของเขาร้องไห้อย่างหนัก ราวกับกำลังคลายความกังวล ความคับข้องใจ และความกลัวที่เธอสะสมมาเป็นปี ๆ ทั้งหมดออกมาในทีเดียว
โจเอลยืนอยู่อยู่อย่างนิ่ง ๆ ปล่อยให้เธอจับเขาและพักพิงเขาและยอมให้เธอปล่อยน้ำตาของเธอให้ไหลใส่เสื้อของเขา
เป็นความรู้สึกที่มีความสุข และสงบสุขที่ไม่เคยมีมาก่อน ราวกับความอบอุ่นที่พุ่งผ่านเข้าสู่หัวใจของเขา เติมเต็มเข้ามาจนเขาไม่สามารถรับสิ่งอื่นไว้ได้อีกแล้ว
ลูซี่ไม่รู้ตัวว่าเธอร้องไห้มานานขนาดไหน แต่เธอหยุดร้องเมื่อเธอไม่มีน้ำตาหลงเหลืออยู่
เธอปล่อยตัวเขาพร้อมกับค่อย ๆ ถูหางตาของเธอและเมื่อมองย้อนกลับไปทำให้เธอรู้สึกอับอายเล็กน้อย
เมื่อเธอเห็นว่าบนเสื้อของเขามีรอยเปียกขนาดไหนเพราะมาจากน้ำตาของเธอ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับลูกมะเขือเทศ
“นั่น…ฉันขอโทษ ฉันทำให้เสื้อผ้าของคุณเปื้อน”
โจเอลยิ้ม และไม่ได้ใส่ใจ
เขายกมือของเขาขึ้นมา เพื่อจัดผมของเธอที่หลุดลุ่ยและยุ่งเหยิง พร้อมกับพูด “เสื้อผ้าของแฟนเป็นสิ่งที่พร้อมให้คุณทำเปื้อนนะ”
น้ำเสียงที่น่าหลงใหล และสายตาอันอุ่นทำให้หัวใจของลูซี่สั่นระรัวด้วยเหตุผลบางอย่าง
อุณหภูมิบนใบหน้าของเธอเริ่มร้อนขึ้น และหน้าของเธอแดงจากแก้มถึงใบหูของเธอ
เธอบีบมือของเธอและถามอย่างอึกอัก “คุณหิวไหม? คุณอยากกินอะไรก่อนหรือเปล่า?”
โจเอลไม่ได้สังเกตตัวเองมาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้เขาเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อย
ตั้งแต่ที่พวกเขามาถึงตั้งแต่เช้า จนถึงตอนนี้พวกเขาไม่ได้ทานอะไรเลยแม้แต่ขำเดียว
พวกเขาใจจดใจจ่ออยู่ที่คน ๆ เดียวในห้องผ่าตัด ทำไมให้เขาไม่ได้ทานอาหารกลางวันที่คาริน่าซื้อมาให้พวกเขา
โจเองจับมือของเธอและพูด “เดี๋ยวผมพาคุณไปทานเป็ดย่างของโปรดของคุณนะ”
ลูซี่ค้างและหันไปมองแม่ของเธอที่อยู่ในห้องไอซียู
“แต่…”
โจเองรู้ดีว่าเธอจะต้องไม่เต็มใจที่จะไปแน่ ๆ แต่ก็ไม่สามารถที่จะปล่อยท้องว่างได้ อีกอย่างเขาไม่ปล่อยให้เธออยู่ที่นี่ทั้งคืนแน่ ๆ ร่างกายของเธออาจจะรับไม่ไหว
ดังนั้น เขาลดเสียงของเขาลงและพูดอย่างจริงจัง “เราจะรีบกลับมาหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จ คืนนี้คุณเข้านอนตอน 23.00 น. แล้วพรุ่งนี้คุณค่อยกลับมาทันทีที่คุณตื่น ถ้าคุณปฏิเสธล่ะก็ ผมจะไม่อนุญาตให้คุณมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้”
การแสดงออกที่จริงจังของเขาค่อนข้างจะดุร้าย
ลูซี่ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาจริงจังหรือไม่ แต่เธอไม่กล้าแม้แต่ขัดคำสั่งของเขา ไม่อย่างนั้น ถ้าเขาไม่ให้เธอมาพบแม่ของเธอพรุ่งนี้ เธออาจจะต้องกังวลจนตายเลยก็ได้
ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ
“ก็ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก