ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 781

หลังจากการทะเลาะกันครั้งใหญ่ระหว่างมัสซิโมและยูเลียนา ก่อนที่พวกเขาออกไปจากคฤหาสน์

ยูเลียนารู้สึกท้อแท้จากความรู้สึกผิดและพาลให้เธออารมณ์เสีย เมื่อเธอกลับออกมาจากอาคารใหญ่และไปยังอาคารเล็ก เธอได้ขังตัวเองอยู่ในห้องของเธอและไม่ออกไปไหนอีกเลย

ในทางกลับกัน เกรกอรีกำลังอาบน้ำและทำงานด้านธุรกิจของเขาต่อไป

เมื่อถึงเวลาทานอาหารเย็น

เขาบีบบริเวณหว่างคิ้วของเขาพลางมองดูเวลา ที่ขณะนี้เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว

ดังนั้นเขาจึงกดกริ่งเพื่อเรียกพ่อบ้านออสบอร์น

“คุณลุงออสบอร์น เธอกลับมารึยัง?”

แน่นอนว่าพ่อบ้านออสบอร์นรู้ดีว่า 'เธอ' คนที่เกรกอรีหมายถึงนั้นคือใคร

เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยพลางตอบออกไปเบา ๆ ว่า “ยังไม่กลับมาเลยครับ”

ยังไม่กลับเหรอ?

หน้าผากของเกรกอรีย่นขึ้นจนรัดแน่น คลื่นของความหงุดหงิดก่อตัวขึ้นในใจของเขาโดยไม่รู้ตัว

เขาโบกมือไล่พ่อบ้านออสบอร์นให้ออกไป ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างและจ้องมองไปยังแสงที่ส่องประกายระยิบระยับภายใต้ท้องฟ้าในเวลาพลบค่ำ คิ้วของเขาตึงขึ้น

ผู้หญิงคนนี้กำลังทำอะไรอยู่?

ทั้งสองคนมีข้อตกลงกันไว้ว่าจะไม่รบกวนเธอ และอนุญาตให้เธอพักที่คฤหาสน์แห่งนี้ เพื่อแลกกับการที่เธอจะช่วยเขาถอดรหัสความลับของแผนที่นั้น

ท้ายที่สุด มันก็ป็นแค่เพียงความสัมพันธ์แบบให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน และเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปกำหนดที่อยู่ของเธอ

แต่ทว่าลึกลงไปในหัวใจของเขา เสียงของหัวใจก็ดูเหมือนว่ากำลังส่งเสียงร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง และต้องการที่จะออกตามหาเธอเพื่อเก็บเธอไว้ให้อยู่ในสายตาของเขา และเธอจะได้ไม่ต้องจากไปอีก!

เกรกอรีเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยพลางหลับตาลงก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด

ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจหันหลังเดินออกไป โดยไม่ได้โทรหาเธอก่อน

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ แต่ต่างสถานที่

ภายในบาร์ที่ทันสมัยแห่งหนึ่ง วิกกี้กำลังถือแก้วไวน์แดงในขณะที่เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างบาร์ เธอมองดูกลุ่มคนที่อยู่บนฟลอร์เต้นรำอย่างไม่ใส่ใจนัก

ตอนนี้ยังเป็นเวลาประมาณหกโมงเย็นหรือหนึ่งทุ่ม ซึ่งถือว่ายังไม่มืดสักเท่าไหร่ ไฟบนท้องถนนเพิ่งจะถูกเปิดขึ้น ชีวิตกลางคืนที่แท้จริงยังไม่เริ่มต้นขึ้น ในร้านมีลูกค้าอยู่แค่ไม่กี่คน แต่คนส่วนใหญ่ที่มาเป็นพนักงานของบาร์

เจนนี่ เทย์เลอร์ถือค็อกเทลและวางลงบนโต๊ะบาร์ข้าง ๆ วิกกี้ เธอเลียนแบบท่าทางของวิกกี้ในการเอามือดันที่โต๊ะบาร์ และกระโดดขึ้นไปบนเก้าอี้ในคราวเดียว

เธอยิ้มขณะที่พูดว่า “พี่คะ ทำไมวันนี้พี่ถึงได้มาหาฉันอย่างกะทันหันแบบนี้?”

วิกกี้เหลือบมองเธออย่างเฉยเมย เธอเผยยิ้มออกมาและตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ผ่านมาแถวนี้พอดี และก็จำได้ขึ้นมาว่าเธอทำงานอยู่ที่นี่ ฉันก็เลยแวะมาหา”

เจนนี่พยักหน้าก่อนจะถามเธอว่า “แล้วตอนนี้พี่ทำงานอยู่ที่ไหน พี่สบายดีรึเปล่า?”

โดยปกติแล้ววิกกี้จะไม่ใส่ใจกับคำถามแรก เธอจึงตอบเพียงคำถามที่สองเท่านั้น “ฉันสบายดี”

น้ำเสียงของเธอฟังดูเฉยเมย เธอหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ แต่สายตาของเธอก็ยังคงจับจ้องไปที่ฟลอร์เต้นรำอย่างไม่ลดละ

ลูกค้าไวรุ่นสองสามคนกำลังเต้นรำไปกับเสียงเพลง และถึงแม้ว่าบนฟลอร์เต้นรำจะมีคนเพียงไม่กี่คน แต่สิ่งนั้นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาหมดสนุกสนานได้

จู่ ๆ เธอก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา เธอหันไปถามเจนนี่ว่า “เมื่อไหร่เธอจะเลิกทำงานนี้?”

เจนนี่ส่งยิ้มให้กับเธอพลางตอบว่า “ฉันส่งหนังสือแจ้งพวกเขาไปแล้ว และพวกเขาต้องการให้ฉันทำงานอีกครึ่งเดือน ทันทีที่พวกเขาจ้างคนใหม่มาทำงานแทนฉันได้ ฉันก็ไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีกแล้ว”

วิกกี้ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

“อีกครึ่งเดือนเลยเหรอ?”

เจนนี่โบกมือราวกับว่าเธอไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร “ฉันทำงานที่นี้มานานแล้วนะพี่ และพวกเขาก็ปฏิบัติต่อฉันค่อนข้างดีเลยทีเดียว อีกอย่างฉันก็เป็นเพื่อนกับหัวหน้างานของฉัน ฉันไม่สามารถออกไปแบบกระทันหันได้หรอก ที่สำคัญฉันก็ไม่อยากรบกวนพวกเขาด้วยเหมือนกัน”

เมื่อคิดตามคำอธิบายของเธอ วิกกี้ก็พยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ

“โอเค ยังไงมันก็เป็นการตัดสินใจของเธอ แต่ยังไงก็ระวังตัวไว้ด้วยนะ"

เจนนี่พยักหน้ารับ

ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่พักใหญ่ ในช่วงเวลานั้นวิกกี้ก็ทำตัวเหมือนเป็นการมาเยี่ยมแบบปกติ เจนนี่จึงไม่สงสัยอะไรเลย

ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอย่างสนุกสนานนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เจนนี่มองไปรอบ ๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “พี่คะ นี่มันเสียงโทรศัพท์ของพี่หนิ”

วิกกี้หยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาจากกระเป๋าเสื้อ โทรศัพท์ของเธอยังคงเป็นรุ่นเก่าที่เจนนี่เคยเอาให้เธอไว้ แม้ว่าพ่อบ้านออสบอร์นจะเตรียมโทรศัพท์มือถือและซิมการ์ดใหม่มาวางไว้ให้ในห้องของเธอ แต่วิกกี้ก็กลับไม่ใช้มัน

เว้นแต่ว่าหากมีอะไรที่จำเป็นจริง ๆ เพราะเธอไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณของเกรกอรีแม้แต่น้อย

แม้จะเป็นแค่เพียงโทรศัพท์มือถือที่ได้ไม่สำคัญอะไรมากนัก

เมื่อวิกกี้เหลือบมองดูหมายเลขบนหน้าจอโทรศัพท์ของเธอ เธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกดปิดเสียงและเก็บโทรศัพท์ยัดใส่ไว้ในกระเป๋า

เมื่อเจนนี่เห็นว่าเธอทำแบบนั้น เธอก็อยากรู้อยากเห็นขึ้นมาจึงถามว่า “นั่นใครเหรอ? ทำไมพี่ถึงไม่รับสาย?”

วิกกี้ยิ้มจาง ๆ “ก็แค่พวกขายของทางโทรศัพท์น่ะ ฉันขี้เกียจคุยกับพวกเขา”

"โอ้"

เจนนี่ไม่สงสัยในตัวเธอเลยแม้แต่น้อย เธอยกค็อกเทลที่ผสมให้กับตัวเองและชนแก้วกับวิกกี้ด้วยรอยยิ้ม “พี่คะ ขอแสดงความยินดีกับการได้รับการปล่อยตัวและงานใหม่นะคะ นี่คือการอวยพรให้พวกเราทั้งคู่มีชีวิตที่ดีกว่านี้!”

รอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าของเด็กสาวไร้เดียงสานั้นช่างแสนจะบริสุทธิ์

รอยยิ้มของเธอทำให้วิกกี้ร่าเริงขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ยกแก้วขึ้นมาชนกับของเจนนี่อีกครั้งก่อนจะกลืนมันลงคอไป

หลังจากดื่มไวน์เสร็จแล้ว เธอก็ยกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลา “นี่มันดึกมากแล้ว ฉันกลับก่อนนะ”

"กลับตอนนี้เนี้ยนะ? นี่พี่ขับรถมาเหรอ?”

“ไม่ฉันไม่ได้ขับรถมา ฉันกลับกับแท็กซี่”

เธอกระโดดลงจากเก้าอี้พลางตบไหล่ของเจนนี่เบา ๆ “เธอไม่จำเป็นต้องออกไปส่งฉันหรอก อยู่ดีมีสุขนะ ไว้มีเวลาฉันจะกลับมาหาเธอใหม่”

เมื่อได้ยินแบบนั้นเจนนี่เลยไม่ได้ออกไปส่งเธอ เธอพยักหน้ารับและยิ้ม "ค่ะพี่ ฉันรู้"

วิกกี้โบกมือโดยหันหลังให้เจนนี่ ขณะที่เธอเดินออกจากบาร์ไป

ท้องฟ้าข้างนอกมืดหมดแล้ว

เนื่องจากมีเมฆครึมได้มารวมตัวกันบนท้องฟ้า มันจึงเพิ่มความอึมครึมอีกชั้นหนึ่งให้กับท้องฟ้ายามค่ำคืน ซึ่งสิ่งนี้ได้สร้างแรงกดดันประหลาดในใจของผู้คน ราวกับว่าพวกเขาหายใจไม่ออก

วิกกี้หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าของเธออีกครั้ง เมื่อมองไปที่หมายเลขผู้โทรเข้า เส้นเลือดบนหน้าผากของเธอก็กระตุกขึ้น

เกรกอรี เกรแฮม

ทำไมผู้ชายคนนี้เขาถึงได้โทรหาเธอไม่หยุดไม่หย่อนในเวลานี้กันนะ?

ตลอดระยะเวลาที่วิกกี้ได้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนั้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยออกมาข้างนอกคนเดียวเมื่อไหร่ และเขาก็ไม่เคยที่จะตามหาตัวเธอแบบนี้

เป็นไปได้ไหมว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น?

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง วิกกี้ก็เหลือบมองดูเวลาที่ขณะนี้เป็นเวลาแค่เพียงหนึ่งทุ่มครึ่งเท่านั้น ยังเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะถึงเวลาที่เธอได้นัดหมายกับลิตเติ้ลเอทและคนอื่น ๆ เอาไว้ เธอยังพอมีเวลาที่จะรับสาย

ดังนั้นเธอจึงกำเสื้อคลุมของเธอเอาไว้แน่น แล้วรับโทรศัพท์พร้อมกับเดินออกไป

"ว่าไง"

"คุณอยู่ที่ไหน?"

น้ำเสียงของชายที่อยู่ปลายสายดูช่างเย็นชา วิกกี้แทบจะจินตนาการถึงสีหน้าที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเขาออกขณะที่เขาถามคำถาม

เธอตอบอย่างรวดเร็วว่า “ฉันอยู่ข้างนอก ทำธุระอยู่”

“ธุระอะไร?”

วิกกี้เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

น้ำเสียงของเธอเย็นลงโดยไม่ตั้งใจ “นี่คุณเจ้านายเกรแฮมกำลังพยายามตรวจสอบฉันอยู่หรือเปล่า?”

อีกฝั่งของปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง

เธอไม่สามารถบอกได้ว่าอารมณ์ของเขาเป็นอย่างไรในตอนนี้ เพราะน้ำเสียงของเขายังคงราบเรียบและซ้ำซากจำเจ ถึงแม้ว่าจะทุ้มกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อยก็ตาม

“กลับบ้านได้แล้ว ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”

วิกกี้รู้สึกงุนงง

หลังจากนั้นไม่นาน สายก็ถูกตัดไป

เธอกดวางสายโทรศัพท์และมองดูเบอร์ที่เพิ่งจะคุยเสร็จไป และในอีกไม่กี่วินาทีต่อมารอยยิ้มเย้ยหยันก็ได้ปรากฏบนริมฝีปากของเธอ

กลางคืนเวลาสองทุ่ม

ถัดจากโรงงาน รถเอสยูวีสีดำขับตรงไปที่ทุ่งโล่งก่อนจะหยุดที่ต้นไม้ใหญ่ริมทาง

เมื่อประตูรถเปิดออก คนแรกที่ลงมาคือผู้ชายรูปร่างผอมบาง หลังจากนั้น ก็มีผู้หญิงที่รูปร่างผอมเพรียวแต่ว่องไว และดูมีชีวิตชีวาเดินตามลงมาจากประตูด้านหลัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก