วิกกี้ไม่ได้สนใจว่าเธอจะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงในสายตาของยูเลียนาหรือไม่
เพราะตอนนี้เธอคิดว่าเกรกอรีไม่มีความเป็นผู้ชายหลงเหลืออยู่เลย
หลังจากต่อสู้กันมาหลายรอบแล้ว เขาก็ยังดื้อรั้นที่จะไม่ยอมรับให้กับความพ่ายแพ้ของตัวเขาเอง แล้วเขาต้องการอะไรกันแน่? หรือพวกเขาต้องต่อสู้กันจนกว่าจะมีใครตายไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหม?
เมื่อคิดแบบนี้ แววตาที่โหดเหี้ยมก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของวิกกี้
แต่เมื่อมีมัสซิโมอยู่ตรงนี้ เขาจะไม่ยอมให้พวกเขาต่อสู้กันจนมีใครตายไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอน
มัสซิโมรีบคว้าตัวของวิกกี้กลับมาอย่างรวดเร็ว พลางเกลี้ยกล่อมเธอว่า “พอเถอะ พอได้แล้ว เกรกอรีเขาก็แค่ดื้อรั้น อย่าไปใส่ใจกับเขาเลย สำหรับความแค้นระหว่างคุณทั้งสองคน ผมว่าคุณสามารถแก้ไขมันได้ด้วยตัวคุณเอง หากการต่อสู้ครั้งนี้กลายเป็นเรื่องร้ายแรงขึ้นมาละก็ ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? วิก ช่วยเห็นแก่มิตรภาพอันยาวนานของเราเถอะ อย่าทำให้ผมต้องลำบากใจไปมากกว่านี้เลย ผมขอร้อง”
เกรกอรีคายเลือดออกมาเต็มปากพลางพูดต่อว่ามัสซิโม “นายจะไปขอร้องเธอทำไม? นายไม่รู้เหรอว่านายควรจะยืนอยู่ตรงไหน?”
ในเวลานี้ แม้แต่ความอดทนของโมซิมัสก็ได้หมดลง
เขาหันกลับมาและตะคอกใส่เกรกอรีว่า “นายนั้นแหละ หุบปากไปซะ!”
ใบหน้าของเกรกอรีเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขึ้นมาทันที เขาจ้องไปที่วิกกี้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
ด้านของมัสซิโมก็ยังคงพูดจาเกลี้ยกล่อมวิกกี้ต่อไป ในช่วงเวลานี้แม้แต่ตัวของยูเลียนาเองก็สามารถรับรู้ได้ว่า การต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องของเธออีกต่อไป
เพราะนั้นมันเป็นเพราะว่าพวกเขาทั้งคู่มีความแค้นต่อกันอยู่ในหัวใจตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว และพวกเขาก็แค่ต้องการหาทางที่จะระบายมันออกมา นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเขาจะได้ระบายความเครียดแค้นทั้งหมดออกมา
เธอเดินไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือเกรกอรีด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ราวกับว่าเธอกำลังจะร้องไห้ออกมา
“เกรกอรี ฉันขอโทษนะคะ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉันเองที่ทำให้คุณต้องได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ ฉันไม่อยากได้คำขอโทษแล้ว จริง ๆ นะคะ ได้โปรดอย่าต่อสู้กันอีกเลย”
ขณะที่เธอพูด เธอค่อย ๆ ใช้แขนเสื้อของเธอเช็ดคราบเลือดที่มุมปากให้กับเขา
เกรกอรีมองเธอผ่านดวงตาที่หรี่ลง
แต่ทว่าหางตาของเขากลับเหลือบไปมองที่วิกกี้ เธอยืนหันหลังให้กับเขาพลางเอาแขนกอดหน้าอกของเธอเอาไว้ และฟังสิ่งที่มัสซิโมพูด ความโกรธปะทุขึ้นมาในหัวใจของเขาอย่างไม่มีเหตุผล
ทันใดนั้น เขาได้ดึงยูเลียนาเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขา
รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา ขณะที่เขาพูดกับเธอว่า “ไม่เป็นไรหรอกครับที่รัก อย่าได้สนใจกับบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้เลย ตราบใดที่คุณมีความสุข ไม่เพียงแต่ว่าผมจะต่อสู้เพื่อคุณเท่านั้น แต่ว่าผมจะไปคว้าเอาดวงดาวมาจากท้องฟ้าเลยก็ได้ถ้าหากว่าคุณต้องการ”
คำพูดเหล่านั้นทำให้มัสซิโมแทบจะอ้วกออกมา
เขามองดูท่าทางของวิกกี้อย่างระมัดระวัง แต่ทว่าเธอยังคงไร้ความรู้สึกราวกับว่าเธอไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
มัสซิโมกระแอมออกมาหนึ่งครั้ง ก่อนจะประกาศออกมาอย่างเสียงดังว่า “เอาล่ะ เนื่องจากว่าไม่มีใครคัดค้านอะไรแล้ว เรื่องนี้ควรจะได้รับการแก้ไข การต่อสู้ได้จบลงแล้ว เกรกอรีนายไม่สามารถบังคับวิกกี้ให้ขอโทษยูเลียนาได้ และวิก คุณจะไม่สามารถตอบโต้เกรกอรีได้อีกต่อไป”
วิกกี้หันหน้าไปชำเลืองมองเกรกอรี
เธอยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “ตราบใดที่เขาไม่ยั่วโมโหฉัน ฉันจะไม่ตอบโต้เขา”
เมื่อเกรกอรีได้ฟังคำพูดของเธอแล้ว ทั้งหมดที่เขารู้สึกได้ก็คือเลือดในตัวของเขากำลังเดือดพล่าน ราวกับว่ามีเลือดติดอยู่ระหว่างหน้าอกของเขา และมันไม่สามารถขยับเขยือนไปไหนได้ มันคือความคับข้องใจที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้
เขาคิดกับตัวเขาเองว่าเขาได้ละเลยทักษะการต่อสู้ของเขาในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาแล้วจริง ๆ เหรอ ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาควรจะต้องกลับไปฝึกฝนให้หนักขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
ปากของเขายังคงดื้อรั้น เขาพูดจาเยาะเย้ยต่อไปอีกว่า “วันนี้ผมแค่อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมต่างหาก อย่าพูดราวกับว่าคุณจะสามารถเอาชนะผมได้ทุกครั้งเถอะ”
วิกกี้รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนดื้อรั้นตั้งแต่เมื่อได้พบกับเขาเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
ดังนั้นเธอจึงเพียงแค่กลอกตามองบนกับคำตอบของเขา เธอไม่อยากจะโต้เถียงกับเขาอีกต่อไป เธอจึงหันหลังและเดินจากไป
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวนะ!”
ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็เดินออกไปที่ทางออก
มัสซิโมตกใจ เขาถามเธอทันทีว่า “คุณจะไปไหน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก