มีรอยยิ้มของความเยาะเย้ยปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา “คุณห่วงใยคนอื่นมากแค่ไหนกัน”
ยูเลียนามองเห็นสีหน้าของเขาได้ไม่ถนัดนัก เธอจึงลดสายตาลงและพูดกับเขาอย่างนุ่มนวลว่า “ฉันชอบคุณค่ะ และแน่นอนว่าฉันห่วงใยคุณ”
จู่ ๆ เกรกอรีก็รู้สึกคลื่นไส้และหงุดหงิดขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ เขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร เขามองดูเธออีกครั้งก่อนจะก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า
เมื่อรับรู้ว่าเขาไปแล้ว ยูเลียนาก็ตกใจ จากนั้นความรู้สึกประหลาดใจก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างสุดจะพรรณนาได้ เธอจึงรีบเดินตามหลังเขาไป
เป็นอีกครั้งที่กลุ่มของพวกเขากลับเขาสู่สนาม
วิกกี้ยืดข้อมือและข้อเท้าของเธอด้วยความกระฉับกระเฉง เธอพูดกับมัสซิโมที่เดินตามหลังเธอมาไม่ไกลมากนักว่า “นายน้อยโนแลนคะ ได้โปรดยืนให้ห่างออกไปอีกนิดนะคะ พอดีฉันเกรงว่าท่าตีกอลฟ์ของฉันอาจจะมากเกินไป และอาจจะทำให้คุณได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ได้ตั้งใจได้”
มัสซิโมจ้องไปที่คนสองคนที่กำลังจะต่อสู้กัน เพียงเพราะพูดจาไม่เข้าหูกัน เขาดูกังวลเป็นอย่างมากแต่ก็กลับทำอะไรไม่ถูก
ในที่สุดเขาก็ได้แต่ยืนอยู่ข้าง ๆ พลางถอนหายใจออกมา
เกรกอรีเดินไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม
เขาเตือนเธอด้วยความใจดีว่า “วิกกี้ เทคนิคที่คุณใช้ส่วนใหญ่ผมก็เป็นคนสอนมันเอง นอกจากนี้ ตามธรรมชาติแล้วผู้หญิงมักจะเสียเปรียบเมื่อเทียบกับผู้ชายในแง่ของความแข็งแกร่งอยู่แล้ว คุณคิดว่าคุณจะเอาชนะผมได้จริง ๆ อย่างงั้นเหรอ?”
วิกกี้เผยยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
เธอจ้องเขม็งไปที่เขาด้วยสายตาที่คมกริบพลางพูดออกมาอย่างชัดเจนว่า “ไม่ว่าฉันจะชนะหรือแพ้ เราจะรู้กันหลังจากจบการต่อสู้ในครั้งนี้!”
เธอพุ่งตัวเข้าไปหาเขาราวกับคนบ้า
นี่ถือว่าเป็นการต่อสู้ที่เหลือเชื่อโดยแท้จริง
ทั้งสองคนต่อสู้กันได้อย่างเท่าเทียมกันทั้งในด้านของทักษะ เทคนิค และปฏิกิริยาตอบสนอง อย่างที่เกรกอรีได้พูดเอาไว้ เขามีข้อได้เปรียบของผู้ชายด้วยความแข็งแกร่งกว่าจริง ๆ แต่ทว่า ตัววิคกี้เองก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนที่ไร้ความสามารถเสียเมื่อไหร่
เธอได้พบกับปรมาจารย์ยูโดในช่วงสี่ปีที่เธออยู่ในคุก และทุกวันของเธอที่อยู่ข้างในนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากฝึกฝนการต่อสู้ภายใต้คำแนะนำของผู้สอนทุกวัน หลังจากสี่ปีผ่านไป ทักษะการใช้ยูโดของเธอจึงประสบความสำเร็จ
ดังนั้นความแข็งแกร่งของเกรกอรีจึงไม่สามารถเอาชนะ ความสง่างามและความยืดหยุ่นตามธรรมชาติของผู้หญิงได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะผ่านไปสี่สิบหรือห้าสิบกระบวนท่าแล้ว ก็ยังไม่มีผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้เลย กลับกลายเป็นว่าการต่อสู้ยิ่งตึงเครียดขึ้น
ที่สนามมัสซิโมที่ยืนมองดูพวกเขาอยู่ถึงกับไม่กล้าหายใจออกมา
ดูจากเทคนิคการต่อสู้ที่โหดร้ายของทั้งสองคนแล้ว เขาได้แต่คิดว่าสองคนนี้คงเป็นบ้าไปแล้ว!
ยูเลียนาก็รู้สึกเป็นกังวลไม่แพ้กัน เธอไม่ได้กังวลว่าทั้งสองคนจะได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า แต่ว่าเธอกังวลว่าเกรกอรีจะเป็นฝ่ายแพ้ในการต่อสู้ และหากว่าขาเป็นฝ่ายแพ้ขึ้นมาจริง ๆ เขาคงจะรู้สึกอับอายขายหน้าพลางตำหนิต่อว่าเธออย่างแน่นอน
เขาต่อสู้กับผู้หญิงคนนี้เพราะเธอ!
เมื่อคิดแบบนี้ คลื่นแห่งความพึงพอใจอันแสนหวานก็อดไม่ได้ที่จะปะทุขึ้นมาในหัวใจของเธออีกครั้ง
เธอรู้สึกว่าการที่ผู้ชายที่เย่อหยิ่งทะนงตนและยอดเยี่ยมอย่างเกรกอรีมาต่อสู้เพื่อเธอนั้น มันต้องมาจากเสน่ห์ของเธออย่างแน่นอน การที่เขาได้ปฏิเสธเธอในก่อนหน้านี้คงเป็นแค่เพียงเพราะความไม่ลงรอยกันของนิสัยส่วนตัว แต่ว่าในใจของเขาลึก ๆ แล้วคงยังห่วงใยเธอ เธอคิดว่าในไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องตกหลุมรักเธอเป็นแน่
ความวิตกกังวลของยูเลียนายังไม่หมดไป ทันใดนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงดังขึ้น
เกรกอรียื่นขาของเขาไปขัดขาของวิกกี้ โทมัส จึงทำให้เธอสะดุดล้มลง
ยูเลียนาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “ดีค่ะ! เกรกอรี คุณนี่เก่งที่สุดไปเลย!”
มัสซิโมหันหน้าจ้องไปที่เธอ
แต่ก่อนที่เธอจะมีเวลาชื่นชมยินดีนั้น เธอเห็นวิกกี้ที่ล้มลงไปกับพื้นแล้วราวกับว่าตัวเธอไม่มีกระดูกเลย เพราะแค่เพียงชั่วพริบตาเดียว วิกกี้ก็โอบรอบขาของเกรกอรีไว้แล้วดันตัวเองขึ้นไป พวกเขาไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในก่อนช่วงเวลาถัดไป วิกกี้ปีนขึ้นไปบนไหล่ของเกรกอรี
มัสซิโมรู้สึกเบิกบานในใจอย่างบอกไม่ถูก เขาส่งเสียงออกมาอย่างเงียบ ๆ จากก้นบึ้งของหัวใจของเขาเอง
วิกกี้เอามือคล้องคอของเกรกอรีไว้ เธอหายใจออกเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้กับเขาอย่างเย็นชา “เกรกอรี แกรแฮม คุณคิดว่ายังไงล่ะ? จะยอมแพ้ได้รึยัง?”
เกรกอรีได้สูดหายใจเข้าไปหนึ่งครั้ง "ยอมเหรอ? อย่าแม้แต่จะได้ฝันไปเลย!”
จากนั้นเขาก็โยนคำเตือนทั้งหมดทิ้งไป ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าน่องของเธอซึ่งพาดอยู่บนคอของเขา และก้มลงกลิ้งไปกับพื้น และแล้วตัวของวิกกี้ก็ได้ถูกเหวี่ยงออกไป
แต่ว่าวิกกี้จะปล่อยให้เขาสลัดเธอออกไปอย่างง่ายดาย ได้อย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก