กล่าวก็คือ อีกฝ่ายรู้ถึงสถานการณ์และกิจวัตรประจำวันของวิกกี้เป็นอย่างดี ถ้าเรน่าเป็นคนที่วางยาพิษเธอ เธอก็คงจะใส่ยาพิษเข้าไปในอาหารอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าแอนเดรียจะเป็นคนทำอาหาร แต่เรน่าก็เป็นคนจัดอาหาร
แต่ทำไมเรน่าถึงเลือกที่จะใส่ยาพิษลงในซุปเมล็ดบัวราขาวล่ะ?
ไม่ว่าเธอจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากแค่ไหน วิกกี้ก็ไม่สามารถหาเหตุผลได้เลย
เธอเกิดความสงสัย แต่ไม่มีอะไรที่จะมายืนยันความสงสัยของเธอได้ ดังนั้นเธอจึงต้องปล่อยมันไปในตอนนี้
และเธอจะเก็บมันขึ้นมาอีกครั้งในวันข้างหน้า ถ้าเธอมีโอกาส
เมื่อความคิดที่ซับซ้อนได้แล่นเข้ามาในหัว เธอก็ดันได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถดังมาจากชั้นล่าง
วิกกี้ชะงักไปครู่หนึ่ง เนื่องจากว่ารถไม่ได้ขับเข้ามาจากทางด้านข้างของระเบียง เธอจึงมองไม่เห็นว่าเป็นใคร แต่ทว่าเสียงนั้นดังมาจากที่ใดที่หนึ่งซึ่งห่างไกลจากบริเวณนี้ ในเมื่อไม่มีใครออกจากคฤหาสน์ พวกเขาจึงอาจจะต้องเข้ามาแทน
เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ เธอคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเธอจะออกไปดูสักหน่อย เพราะยังไงเธอก็นอนไม่หลับอยู่แล้ว
ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้า และเข็นรถเข็นของเธอออกไป
ในขณะเดียวกันในห้องนั่งเล่นของอาคารหลัก
มัสซิโมเดินยิ้มเข้ามาในห้องนั่งเล่น เขาเห็นสาวใช้สองสามคนกำลังเช็ดของบางอย่างอยู่ เขาจึงเอ่ยถามไปว่า “นายน้อยของพวกเธออยู่ที่ไหน?”
ทุกคนรู้ว่ามัสซิโมเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเกรกอรี ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงปฏิบัติต่อมัสซิโมด้วยความเคารพด้วยเช่นกัน
สาวใช้ตอบอย่างอ่อนโยน “อยู่ในห้องชั้นบนค่ะ”
มัสซิโมพยักหน้ารับ พลางเดินขึ้นไปชั้นบน
พวกเธอไม่ได้ห้ามเขา เพราะเกรกอรีเคยพูดเอาไว้ว่ามัสซิโมเป็นเพื่อนของเขา ถ้ามัสซิโมมาที่นี่ ก็สามารถไปหาเขาได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องใดเลย
มัสซิโมเดินตรงไปที่ชั้นสอง เขาประหลาดใจมากที่เห็นวิกกี้ออกมาจากห้องของเธอก่อนที่จะได้เจอเกรกอรี
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว “วิกกี้ นานแล้วเหมือนกันนะที่เราได้เจอกันครั้งสุดท้าย”
เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนที่แววตาของเขาจะดูหม่นหมองลง เมื่อเหลือบไปเห็นขาของเธอและรถเข็น
“ฉันได้ยินมาว่าเธอได้รับบาดเจ็บ ตอนแรกฉันอยากจะมาเยี่ยมเธอ แต่เกรกอรีไม่อนุญาต ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง? รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง?"
ก่อนหน้านั้นวิกกี้เองก็ได้ยินมาว่ามัสซิโมจะมาหาเธอ หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นจากอาการบาดเจ็บ
แต่ว่าในตอนนั้นพวกเขายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนปองร้ายเธอ อีกอย่างเจนนี่ก็เพิ่งจะเสียชีวิตด้วย วิกกี้จึงยังอยู่ในอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่ เธอจึงไม่ได้ออกมาเจอกับเขา
เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน “ตอนนี้ฉันดีขึ้นแล้ว วันนี้นายหาเวลามาได้ยังไง?”
มัสซิโมยิ้ม พลางยกมือขึ้นชูการ์ดเชิญในมือของเขา
“ฉันมาที่นี่เพื่อเชิญเกรกอรีไปงานแต่งงานน่ะ”
วิกกี้ตกใจมาก
แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา ก็มีคนเปิดประตูห้องของเกรกอรีจากด้านในออกมา
ชายคนหนึ่งสวมชุดคลุมกลางคืนด้วยผ้าไหมสีดำ กำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตู
ดูก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีความสามารถทำให้คนตกหลุมรักเขาได้อย่างบ้าคลั่ง
เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางที่สบาย ๆ ร่างกายเพรียวบาง บวกกับรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของเขาก็แสดงออร่าออกมาได้อย่างเต็มที่แล้ว แสงแดดที่สาดส่องผ่านหน้าต่างจากส่วนท้ายของทางเดินช่วยเน้นใบหน้าที่พิเศษของเขาให้ดูโดดเด่นมากขึ้นไปอีก
เขามองไปที่วิกกี้ ก่อนจะเหลือบมองไปที่มัสซิโม
ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดว่า “ตามฉันเข้าไปข้างใน”
อีกสองคนจึงตามเขาเข้ามาในห้อง
ในอดีตเกรกอรีและวิกกี้เคยคบหากันมานานก็จริง อีกทั้งวิกกี้เก็คยพักอยู่ในคฤหาสน์เมื่อไม่นานมานี้ด้วย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้ามาในห้องของเขา
เมื่อเธอเข้าไปในห้อง เธอก็ได้พบว่าห้องนี้ไม่ได้เป็นโทนมืดแบบผู้ชาย อย่างที่เธอได้คิดเอาไว้ในตอนแรก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก