ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 839

พิจารณาจากการตรวจสอบภูมิหลัง และการคัดกรองด้วยมาตรฐานที่เข้มงวดของเกรกอรี เกรแฮม ก่อน จึงจะสามารถเข้ามาทำงานที่คฤหาสน์แห่งนี้ได้

เขาอาศัยอยู่ที่นี่หลังจากที่เรื่องราวทั้งหมดได้เกิดขึ้น ความลับและเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกองทัพทหารมังกรก็อยู่ที่นี่ด้วย และถ้าหากว่ามันต้องตกไปอยู่ในมือของคนชั่วแล้วล่ะก็ มันคงจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาแน่นอน

แต่ทว่าเขายังคงอนุญาตให้แอนเดรียได้เข้ามาที่อาคารหลักแห่งนี้ เพื่อที่เธอจะได้รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย

วิกกี้กังวลเล็กน้อย และเธอก็รู้สึกว่าสิ่งนี้อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด

ในทางกลับกัน เกรกอรีเองก็เป็นคนรอบคอบ เพราะฉะนั้นเขาคงคิดเรื่องนี้มาดีแล้ว

นอกจากนี้ แอนเดรียก็เป็นเด็กกำพร้าที่มีภูมิหลังที่ชัดเจน เธอยังเด็กอยู่มาก หากมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับตัวเธอ เขาก็คงจะตรวจสอบภูมิหลังของเธอเอาไว้แล้ว

ด้วยเหตุนี้ วิกกี้จึงหยุดครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน

เมื่อแอนเดรียได้เห็นวิกกี้ เธอก็รู้สึกมีความสุขมาก

อย่างที่ทุกคนพูดกันไว้ว่า เกรกอรีเข้าใจผิดคิดว่าวิกกี้เป็นคนวางยาพิษยูเลียนา จนต้องโยนเธอออกไปจากคฤหาสน์

แอนเดรียรู้สึกเสียใจมาก เมื่อคิดว่าเธอคงจะไม่มีวันได้เจอกับวิกกี้อีกแล้ว

ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเกรกอรีกำลังหลอกทุกคนอยู่ นั่นไม่ได้หมายความว่าวิกกี้จะไม่กลับมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ?

เธอเดินเข้ามาแล้วยิ้มทั้งน้ำตา “คุณโทมัสคะ ฉันดีใจมากเลยค่ะ ที่ได้พบกับคุณอีกครั้ง”

บางทีประสบการณ์ของการถูกทรยศจากคนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอได้เปลี่ยนเธอไป ตอนนี้เธอรู้สึกว่าทุกคนที่อยู่ใกล้ตัวเธอกำลังคิดวางแผนอะไรบางอย่าง

เธอมีความคิดในด้านลบมากขึ้น

ถึงอย่างนั้น เมื่อเธอได้เห็นหน้าของแอนเดรีย เธอก็รู้สึกได้ถึงความใจดีที่แสนจะอบอุ่น ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นแค่สาวใช้เท่านั้น

วิกกี้ยิ้มออกมา “ฉันเคยบอกเธอแล้ว ว่าถ้าเธอเรียกฉันว่าคุณโทมัส มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคุณครูแก่หงำเหงือก ถ้าเธอไม่ว่าอะไร เรียกฉันว่าคุณวิกกี้ก็พอ เพราะฉันแก่กว่าเธอแค่นิดหน่อยเอง”

แววตาของแอนเดรียเป็นประกายขึ้นมา

“อืม... ฉันเรียกคุณแบบนั้นได้จริง ๆ เหรอคะ?”

เราตระหนักว่ากฎในคฤหาสน์นั้นเข้มงวดมาก

ตามหลักเหตุและผลแล้ว วิกกี้เป็นแขกของที่นี่ หรือบางทีอาจจะเป็นนายหญิงในอนาคตด้วยซ้ำ ส่วนแอนเดรียเป็นแค่สาวใช้

สาวใช้จะเรียกนายหญิงของตัวเองด้วยชื่อจริง ๆ ของเธออย่างนั้นเหรอ? มันค่อนข้างจะไกลตัวไปมากเลยทีเดียว

วิกกี้ยิ้ม "แน่นอนเธอเรียกฉันแบบนั้นได้ ส่วนพ่อบ้านออสบอร์น ฉันจะแจ้งให้เขาทราบเอง เธอไม่ต้องกังวลหรอกนะ”

แอนเดรียรู้สึกมีความสุขมากจนเธอเริ่มร้องไห้ออกมา

"ได้ค่ะ"

เธอหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา “คุณวิกกี้”

วิกกี้พยักหน้า

เธอชี้ไปที่กระเป๋าเดินทางซึ่งถูกวางอยู่ไม่ไกลมากนัก ก่อนจะพูดว่า “ช่วยเอากล่องยาออกมาให้ฉันหน่อย”

“ได้ค่ะ”

แอนเดรียหยิบกล่องยาออกมาทันที และเอายาให้วิกกี้ เพื่อเตรียมการพักผ่อนตอนบ่ายของเธอ หลังจากนั้นเธอก็บอกกับแอนเดรียว่า ให้กลับมาหลังจากที่เธอตื่นนอน

เธอพยักหน้ารับ และย่องเท้าออกจากห้องอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่วิกกี้เอนตัวลงนอน

ห้องแม่บ้านในอาคารหลักอยู่ด้านหลังของชั้นหนึ่ง

มันไม่ได้ไกลจากห้องของเกรกอรีและวิกกี้มากนัก ห่างออกไปแค่ประมาณสองถึงสามนาที

หลังจากที่แอนเดรียกลับออกไปแล้ว วิกกี้กลับไม่นอน

บางทีจิตใจของเธอก็รู้สึกวุ่นวายมากจนเกินไป มันจึงทำให้เธอนอนอยู่บนเตียงด้วยอารมณ์สับสนจนนอนไม่หลับ

วิกกี้หลับตาลงขณะที่เธอนอนอยู่ พลางนึกถึงสิ่งที่แดน ทินน์เพิล ได้พูดกับเธอในตอนเช้า

เขาพูดว่า “ฉันจะกลับไปหาเธอ”

คำถามก็คือ เขาจะกลับมาหาเธอทำไม?

ส่วนไหนของเธอมีค่าสำหรับพวกเขามากเสียจนพวกเขาไม่ยอมปล่อยเธอไป?

วิกกี้เป็นแค่เพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เว้นแต่ว่าเธอมีทักษะที่โดดเด่น นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษ

เธอไม่มีอำนาจ ไม่มีความมั่งคั่ง ไม่มีความลับที่ใครต้องการ

แต่ทำไม? ทำไมคนพวกนั้นถึงยังคงไล่ตามเธอ?

เจนนี่ก็ต้องมาตายเพราะเธอ

เธอหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

วิกกี้รู้สึกเสียใจ และเกลียดตัวเองที่สุด

ถ้าแดน ทินน์เพิล เป็นคนฆ่าเจนนี่แล้วล่ะก็ เธอจะตามล่าเขาจนสุดขอบโลก

ดวงตาของเธอเบิกกว้าง

ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเธอสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างหรือเปล่า วิกกี้จึงหันหน้าไปมองที่ระเบียง

เนื่องจากยังเป็นเวลาประมาณบ่ายโมง พระอาทิตย์จึงยังคงสาดส่องลงมาอย่างไร้ความปราณี ถึงแม้ว่าจะมีผ้าม่านหนาทึบที่ระเบียงกั้นเอาไว้อยู่ก็ตาม

เธอมองเห็นแสงแดดสาดส่องผ่านช่องเปิดของผ้าม่าน

เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง แล้วขึ้นรถวีลแชร์ไปที่ระเบียง

วิกกี้ดึงผ้าม่านออก แสงแดดจึงส่องเข้ามาเล็กน้อย ทำให้เธอรีบหรี่ตาของเธอลง

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็วางมือลงและเงยหน้ามองออกไปข้างนอก

ตรงหน้าของเธอคือสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ พ่อออสบอร์นอยู่ที่นั่นเพื่ออบรมชาวสวนบางส่วนให้เล็มใบบนต้นไม้

เพราะแดดแรงและอุณหภูมิร้อน ทำให้ทุกคนตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เมื่อมองไปที่ภาพตรงหน้า วิกกี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เพราะเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ทุกอย่างมันดูผิดแปลกไปทั้งหมด มีคนพยายามวางยาพิษเธอจริง ๆ และถึงแม้ว่ามันจะไม่มาถึงตัวเธอ แต่มันก็ถูกทำขึ้นมาเพื่อเธอ

เหตุผลที่อีกฝ่ายกำหนดเป้าหมายมาที่เธอ เพราะทั้งวิกกี้และยูเลียนากินอาหารเหมือนกัน หนึ่งคือเพื่อให้พวกเขาได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และสองช่วยประหยัดเวลาสำหรับแม่บ้านในครัว

อาหารพวกนั้นไม่เคยมีปัญหา

แต่ซุปเมล็ดบัวราขาวกลับมียาพิษ

สิ่งนี้มันหมายความว่าอย่างไร?

อย่างแรกเลยก็คือ อีกฝ่ายต้องเป็นคนที่คุ้นเคยกับวิถีชีวิตของเธอมาก

เนื่องจากว่าในตอนนั้นเธอมีนิสัยโมโหร้ายเป็นประจำ วิกกี้จึงขอให้สาวใช้ในครัวทำซุปเมล็ดบัวราขาวไว้สำหรับเธอในทุกวัน เพื่อทำให้เธอเย็นลง

แต่ว่ายูเลียนาไม่เคยขอให้ทำสิ่งนี้ให้เธอทาน

นั่นหมายความว่าถ้ายูเลียนาไม่ได้ตั้งใจที่จะดื่มซุปนั้นเข้าไป และสั่งให้จินนี่ฉกมันไป พิษก็จะเข้าไปในท้องของเธอหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์

แต่ทว่าเธอก็ดื่มมันติดต่อกันมาตั้งหลายวันก่อนเกิดเหตุแล้ว

มันต้องเป็นแบบนั้นเข้าสักวัน

อีกฝ่ายต้องเดามาตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าเธอจะต้องดื่มสิ่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงใส่มันลงไปในซุป แทนที่จะเป็นอาหารประจำวันของเธอ

ไม่ต้องพูดถึงว่าอาหารสำหรับทุกคน ถูกทำขึ้นมาในหม้อใบเดียวกัน ถ้ามันเกิดขึ้นยาพิษนั้นก็คงจะอยู่ในหม้อทั้งหม้อ หากเป็นแบบนั้นมันคงจะไม่ใช่แค่วิกกี้ที่ถูกวางยาพิษ เพราะยูเลียนาเองก็จะถูกวางยาพิษด้วยเช่นกัน

ถ้าหากว่าวางยาพิษหลังจากที่พวกเขาออกจากครัวมาแเล้ว ก็คงจะเสี่ยงเกินไปเช่นกัน

อาหารถูกเสิร์ฟโดยสาวใช้สองคนอย่างต่อเนื่อง การเดินทางจากห้องครัวไปยังห้องอาหารก็ค่อนข้างสั้นเช่นกัน ห้องครัวอยู่ที่ชั้นหนึ่ง และห้องของแต่ละคนก็อยู่บนชั้นสอง ห้องทานอาหารก็อยู่ที่ชั้นหนึ่งเช่นเดียวกัน

เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว มันอาจจะหมายถึงสิ่งเดียวเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก