พิจารณาจากการตรวจสอบภูมิหลัง และการคัดกรองด้วยมาตรฐานที่เข้มงวดของเกรกอรี เกรแฮม ก่อน จึงจะสามารถเข้ามาทำงานที่คฤหาสน์แห่งนี้ได้
เขาอาศัยอยู่ที่นี่หลังจากที่เรื่องราวทั้งหมดได้เกิดขึ้น ความลับและเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกองทัพทหารมังกรก็อยู่ที่นี่ด้วย และถ้าหากว่ามันต้องตกไปอยู่ในมือของคนชั่วแล้วล่ะก็ มันคงจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาแน่นอน
แต่ทว่าเขายังคงอนุญาตให้แอนเดรียได้เข้ามาที่อาคารหลักแห่งนี้ เพื่อที่เธอจะได้รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
วิกกี้กังวลเล็กน้อย และเธอก็รู้สึกว่าสิ่งนี้อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด
ในทางกลับกัน เกรกอรีเองก็เป็นคนรอบคอบ เพราะฉะนั้นเขาคงคิดเรื่องนี้มาดีแล้ว
นอกจากนี้ แอนเดรียก็เป็นเด็กกำพร้าที่มีภูมิหลังที่ชัดเจน เธอยังเด็กอยู่มาก หากมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับตัวเธอ เขาก็คงจะตรวจสอบภูมิหลังของเธอเอาไว้แล้ว
ด้วยเหตุนี้ วิกกี้จึงหยุดครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน
เมื่อแอนเดรียได้เห็นวิกกี้ เธอก็รู้สึกมีความสุขมาก
อย่างที่ทุกคนพูดกันไว้ว่า เกรกอรีเข้าใจผิดคิดว่าวิกกี้เป็นคนวางยาพิษยูเลียนา จนต้องโยนเธอออกไปจากคฤหาสน์
แอนเดรียรู้สึกเสียใจมาก เมื่อคิดว่าเธอคงจะไม่มีวันได้เจอกับวิกกี้อีกแล้ว
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเกรกอรีกำลังหลอกทุกคนอยู่ นั่นไม่ได้หมายความว่าวิกกี้จะไม่กลับมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ?
เธอเดินเข้ามาแล้วยิ้มทั้งน้ำตา “คุณโทมัสคะ ฉันดีใจมากเลยค่ะ ที่ได้พบกับคุณอีกครั้ง”
บางทีประสบการณ์ของการถูกทรยศจากคนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอได้เปลี่ยนเธอไป ตอนนี้เธอรู้สึกว่าทุกคนที่อยู่ใกล้ตัวเธอกำลังคิดวางแผนอะไรบางอย่าง
เธอมีความคิดในด้านลบมากขึ้น
ถึงอย่างนั้น เมื่อเธอได้เห็นหน้าของแอนเดรีย เธอก็รู้สึกได้ถึงความใจดีที่แสนจะอบอุ่น ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นแค่สาวใช้เท่านั้น
วิกกี้ยิ้มออกมา “ฉันเคยบอกเธอแล้ว ว่าถ้าเธอเรียกฉันว่าคุณโทมัส มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคุณครูแก่หงำเหงือก ถ้าเธอไม่ว่าอะไร เรียกฉันว่าคุณวิกกี้ก็พอ เพราะฉันแก่กว่าเธอแค่นิดหน่อยเอง”
แววตาของแอนเดรียเป็นประกายขึ้นมา
“อืม... ฉันเรียกคุณแบบนั้นได้จริง ๆ เหรอคะ?”
เราตระหนักว่ากฎในคฤหาสน์นั้นเข้มงวดมาก
ตามหลักเหตุและผลแล้ว วิกกี้เป็นแขกของที่นี่ หรือบางทีอาจจะเป็นนายหญิงในอนาคตด้วยซ้ำ ส่วนแอนเดรียเป็นแค่สาวใช้
สาวใช้จะเรียกนายหญิงของตัวเองด้วยชื่อจริง ๆ ของเธออย่างนั้นเหรอ? มันค่อนข้างจะไกลตัวไปมากเลยทีเดียว
วิกกี้ยิ้ม "แน่นอนเธอเรียกฉันแบบนั้นได้ ส่วนพ่อบ้านออสบอร์น ฉันจะแจ้งให้เขาทราบเอง เธอไม่ต้องกังวลหรอกนะ”
แอนเดรียรู้สึกมีความสุขมากจนเธอเริ่มร้องไห้ออกมา
"ได้ค่ะ"
เธอหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา “คุณวิกกี้”
วิกกี้พยักหน้า
เธอชี้ไปที่กระเป๋าเดินทางซึ่งถูกวางอยู่ไม่ไกลมากนัก ก่อนจะพูดว่า “ช่วยเอากล่องยาออกมาให้ฉันหน่อย”
“ได้ค่ะ”
แอนเดรียหยิบกล่องยาออกมาทันที และเอายาให้วิกกี้ เพื่อเตรียมการพักผ่อนตอนบ่ายของเธอ หลังจากนั้นเธอก็บอกกับแอนเดรียว่า ให้กลับมาหลังจากที่เธอตื่นนอน
เธอพยักหน้ารับ และย่องเท้าออกจากห้องอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่วิกกี้เอนตัวลงนอน
ห้องแม่บ้านในอาคารหลักอยู่ด้านหลังของชั้นหนึ่ง
มันไม่ได้ไกลจากห้องของเกรกอรีและวิกกี้มากนัก ห่างออกไปแค่ประมาณสองถึงสามนาที
หลังจากที่แอนเดรียกลับออกไปแล้ว วิกกี้กลับไม่นอน
บางทีจิตใจของเธอก็รู้สึกวุ่นวายมากจนเกินไป มันจึงทำให้เธอนอนอยู่บนเตียงด้วยอารมณ์สับสนจนนอนไม่หลับ
วิกกี้หลับตาลงขณะที่เธอนอนอยู่ พลางนึกถึงสิ่งที่แดน ทินน์เพิล ได้พูดกับเธอในตอนเช้า
เขาพูดว่า “ฉันจะกลับไปหาเธอ”
คำถามก็คือ เขาจะกลับมาหาเธอทำไม?
ส่วนไหนของเธอมีค่าสำหรับพวกเขามากเสียจนพวกเขาไม่ยอมปล่อยเธอไป?
วิกกี้เป็นแค่เพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เว้นแต่ว่าเธอมีทักษะที่โดดเด่น นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษ
เธอไม่มีอำนาจ ไม่มีความมั่งคั่ง ไม่มีความลับที่ใครต้องการ
แต่ทำไม? ทำไมคนพวกนั้นถึงยังคงไล่ตามเธอ?
เจนนี่ก็ต้องมาตายเพราะเธอ
เธอหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
วิกกี้รู้สึกเสียใจ และเกลียดตัวเองที่สุด
ถ้าแดน ทินน์เพิล เป็นคนฆ่าเจนนี่แล้วล่ะก็ เธอจะตามล่าเขาจนสุดขอบโลก
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเธอสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างหรือเปล่า วิกกี้จึงหันหน้าไปมองที่ระเบียง
เนื่องจากยังเป็นเวลาประมาณบ่ายโมง พระอาทิตย์จึงยังคงสาดส่องลงมาอย่างไร้ความปราณี ถึงแม้ว่าจะมีผ้าม่านหนาทึบที่ระเบียงกั้นเอาไว้อยู่ก็ตาม
เธอมองเห็นแสงแดดสาดส่องผ่านช่องเปิดของผ้าม่าน
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง แล้วขึ้นรถวีลแชร์ไปที่ระเบียง
วิกกี้ดึงผ้าม่านออก แสงแดดจึงส่องเข้ามาเล็กน้อย ทำให้เธอรีบหรี่ตาของเธอลง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็วางมือลงและเงยหน้ามองออกไปข้างนอก
ตรงหน้าของเธอคือสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ พ่อออสบอร์นอยู่ที่นั่นเพื่ออบรมชาวสวนบางส่วนให้เล็มใบบนต้นไม้
เพราะแดดแรงและอุณหภูมิร้อน ทำให้ทุกคนตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เมื่อมองไปที่ภาพตรงหน้า วิกกี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เพราะเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ทุกอย่างมันดูผิดแปลกไปทั้งหมด มีคนพยายามวางยาพิษเธอจริง ๆ และถึงแม้ว่ามันจะไม่มาถึงตัวเธอ แต่มันก็ถูกทำขึ้นมาเพื่อเธอ
เหตุผลที่อีกฝ่ายกำหนดเป้าหมายมาที่เธอ เพราะทั้งวิกกี้และยูเลียนากินอาหารเหมือนกัน หนึ่งคือเพื่อให้พวกเขาได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และสองช่วยประหยัดเวลาสำหรับแม่บ้านในครัว
อาหารพวกนั้นไม่เคยมีปัญหา
แต่ซุปเมล็ดบัวราขาวกลับมียาพิษ
สิ่งนี้มันหมายความว่าอย่างไร?
อย่างแรกเลยก็คือ อีกฝ่ายต้องเป็นคนที่คุ้นเคยกับวิถีชีวิตของเธอมาก
เนื่องจากว่าในตอนนั้นเธอมีนิสัยโมโหร้ายเป็นประจำ วิกกี้จึงขอให้สาวใช้ในครัวทำซุปเมล็ดบัวราขาวไว้สำหรับเธอในทุกวัน เพื่อทำให้เธอเย็นลง
แต่ว่ายูเลียนาไม่เคยขอให้ทำสิ่งนี้ให้เธอทาน
นั่นหมายความว่าถ้ายูเลียนาไม่ได้ตั้งใจที่จะดื่มซุปนั้นเข้าไป และสั่งให้จินนี่ฉกมันไป พิษก็จะเข้าไปในท้องของเธอหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ทว่าเธอก็ดื่มมันติดต่อกันมาตั้งหลายวันก่อนเกิดเหตุแล้ว
มันต้องเป็นแบบนั้นเข้าสักวัน
อีกฝ่ายต้องเดามาตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าเธอจะต้องดื่มสิ่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงใส่มันลงไปในซุป แทนที่จะเป็นอาหารประจำวันของเธอ
ไม่ต้องพูดถึงว่าอาหารสำหรับทุกคน ถูกทำขึ้นมาในหม้อใบเดียวกัน ถ้ามันเกิดขึ้นยาพิษนั้นก็คงจะอยู่ในหม้อทั้งหม้อ หากเป็นแบบนั้นมันคงจะไม่ใช่แค่วิกกี้ที่ถูกวางยาพิษ เพราะยูเลียนาเองก็จะถูกวางยาพิษด้วยเช่นกัน
ถ้าหากว่าวางยาพิษหลังจากที่พวกเขาออกจากครัวมาแเล้ว ก็คงจะเสี่ยงเกินไปเช่นกัน
อาหารถูกเสิร์ฟโดยสาวใช้สองคนอย่างต่อเนื่อง การเดินทางจากห้องครัวไปยังห้องอาหารก็ค่อนข้างสั้นเช่นกัน ห้องครัวอยู่ที่ชั้นหนึ่ง และห้องของแต่ละคนก็อยู่บนชั้นสอง ห้องทานอาหารก็อยู่ที่ชั้นหนึ่งเช่นเดียวกัน
เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว มันอาจจะหมายถึงสิ่งเดียวเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก