“เธอเคยเห็นแต่ลำต้นของต้นไม้ที่โผล่ออกมาบนพื้นดิน แต่เธอไม่ได้เห็นว่ารากของมันนั้นลึก และยาวแค่ไหนในชั้นใต้ดิน ตอนนี้เธอจะต้องแข็งแกร่งกว่าพายุเพื่อโค้นต้นไม้นั้นลง แต่ทว่าเธอมีความแข็งแกร่งขนาดนั้นหรือเปล่า?”
“ฉันบอกได้เลยว่าถ้าสมาคมจีน องค์กรโบฮิเนียส และกองทัพทหารมังกรไม่ร่วมมือกัน ไม่มีใครสามารถถอนรากถอนโคนของตระกูลฟลินเดอร์ได้อย่างแน่นอน เธอคิดว่าพวกเขาจะมารวมตัวกันได้หรือเปล่าล่ะ?
“มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม? กองทัพทหารมังกรคงเป็นได้แค่มดตัวเล็ก ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกฟลินเดอร์”
“มันอาจจะดูไร้สาระสำหรับมดที่พยายามจะโค้นต้นไม้ลง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าหากว่ามดมีการวางแผนและโอกาสที่ดี เป็นเรื่องยากที่จะต้องมาเผชิญหน้ากันในตอนนี้ หากเขาสามารถคว้าโอกาสนั้นเอาไว้ได้ เขาก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้โดยความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว ไม่มีใครอยากยอมแพ้ในโอกาสดี ๆ แบบนั้นหรอก แม้กระทั้งตัวของเกรกอรีเอง”
หลังจากที่ได้ฟังมัสซิโมพูดแล้ว วิกกี้ก็นิ่งเงียบไป
เธอไม่รู้ว่าเกรกอรีได้คิดพิจารณามาเป็นอย่างดีแล้ว ก่อนที่เขาจะตัดสินใจ
ทำไมเกรกอรีถึงเลือกที่จะไม่บอกกับวิกกี้ทั้งหมด?
เขารู้ว่าตราบใดที่เขาบอกกับเธอทุกอย่าง เธอก็คงจะเข้าใจเขาได้ไม่ยาก ถ้าเขาบอกเธอให้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของเขา เธอก็จะช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน
เขาสามารถบอกให้เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนประเภทที่จะทิ้งหลักการของเขาเพียงเพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัว
เธอคงจะรู้ว่าเขาตัดสินใจเพียงเพราะความสิ้นหวังหลังจากถูกผลักให้จนมุม เธอคงจะรู้ว่ามันเป็นการป้องกันตัว
แต่ทำไมเขาถึงไม่พูดอะไรเลย?
เมื่อมัสซิโมเห็นว่าสีหน้าของวิกกี้ได้เปลี่ยนไป เขาจึงพูดว่า “เธอคิดว่ายูเลียนาไม่รู้ถึงเจตนาของเขาจริง ๆ งั้นเหรอ? เธอรู้ดี แต่เธอก็ยังตกลงที่จะทำตามแผนของเขาอยู่ดี? เธอเคยสงสัยรึเปล่าล่ะว่าทำไม?”
วิกกี้เงยหน้าขึ้นมองไปที่มัสซิโม
เขากำลังหัวเราะเยาะตัวเองอยู่ “บางทีเธออาจคิดว่ามันเป็นเพราะความรักของยูเลียนาที่มีต่อเกรกอรีสินะ ความรักสามารถทำให้ผู้หญิงสูญเสียตัวเอง และทำในสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน วิก ถ้าเป็นเธอคงจะทำแบบนั้น แต่กับยูเลียนามันไม่ใช่แบบนั้นเลย”
วิกกี้ตกใจมาก
รอยยิ้มบนใบหน้าของมัสซิโมเปลี่ยนไปเป็นความขมขื่น
“วิก เธออาจจะดูเหมือนคนเย็นชา แต่เธอก็เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความภักดี และความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก ในหัวใจของเธอ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสองสิ่งนี้ แต่ทว่าในมุมองของคนบางคน หลังจากที่ชั่งน้ำหนักของข้อดีและข้อเสียแล้ว ความสัมพันธ์จะขึ้นอยู่กับว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบมากกว่ากัน”
“อันที่จริงแล้ว ยูเลียนาอาจจะชอบเกรกอรีจริง ๆ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขาก็อาจจะเป็นของจริงเช่นกัน แต่เหตุผลที่เธอตกลงทำตามคำขอของเขาไม่ใช่เพราะเธอไม่มีที่อื่นให้ไปอย่างแน่นอน”
“ฉันรู้ว่าเกรกอรีเคยพูดถึงเรื่องนี้กับยูเลียนามาก่อน เกรกอรีบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ยอมให้ยูเลียนาอยู่เคียงข้างเขาอย่างแน่นอน เพราะว่าเขามีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว เขาจึงให้ทางเลือกยูเลียนาอยู่สองทาง คือเขาจะส่งเธอกลับไปที่ประเทศจีน เพื่อที่เธอจะได้ปูทางอนาคตของเธอเอง หรือเธอจะไปอยู่กับชิม่อน”
“ลองเดาคำตอบของเธอดูสิ?”
วิกกี้ชะงัก เธอรู้สึกหมดคำพูด
มัสซิโมยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “เธอเลือกที่จะไปอยู่กับชิม่อน”
คิ้วของวิกกี้ย่นเข้าหากัน "ทำไม? ไม่ใช่ว่าเธอ…”
“เธอไม่ได้รักเกรกอรีหรอกเหรอ? ทำไมเธอถึงเต็มใจที่จะไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอก็รู้อยู่แล้วว่าผู้ชายอีกคนนั้นไม่ได้มีเจตนาที่บริสุทธิ์?”
มัสซิโมส่ายหัว “ฉันบอกเธอไปแล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมองว่าความสัมพันธ์ มีความสำคัญเท่ากับเธอ เธออาจรักเกรกอรีอย่างแท้จริง แต่มันกลับไม่มีความหวัง เพราะเขาบอกกับเธอว่าเขาจะไม่มีวันรักเธอ และจะไม่ยอมให้เธออยู่เคียงข้างเขาอย่างแน่นอน และถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ ทำไมเธอจะไม่มองหาตัวเลือกที่ดีที่สุดคนต่อไป ที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเธอมากที่สุดล่ะ? ชิม่อนอาจจะแก่แล้วก็จริง แต่รูปลักษณ์และภูมิหลังของเขานั้นเหนือกว่ายูเลียนามาก”
วิกกี้ตกใจมาก
เธอตระหนักได้ทันทีว่าเธอไร้เดียงสาเกินไปจริง ๆ หลังจากที่ได้ฟังการวิเคราะห์ของมัสซิโมแล้ว
ความเชื่อที่เธอคอยปกป้องมานานนั้น ช่างไร้ค่าในสายตาของคนบางคนจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก