ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 845

“เธอเคยเห็นแต่ลำต้นของต้นไม้ที่โผล่ออกมาบนพื้นดิน แต่เธอไม่ได้เห็นว่ารากของมันนั้นลึก และยาวแค่ไหนในชั้นใต้ดิน ตอนนี้เธอจะต้องแข็งแกร่งกว่าพายุเพื่อโค้นต้นไม้นั้นลง แต่ทว่าเธอมีความแข็งแกร่งขนาดนั้นหรือเปล่า?”

“ฉันบอกได้เลยว่าถ้าสมาคมจีน องค์กรโบฮิเนียส และกองทัพทหารมังกรไม่ร่วมมือกัน ไม่มีใครสามารถถอนรากถอนโคนของตระกูลฟลินเดอร์ได้อย่างแน่นอน เธอคิดว่าพวกเขาจะมารวมตัวกันได้หรือเปล่าล่ะ?

“มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม? กองทัพทหารมังกรคงเป็นได้แค่มดตัวเล็ก ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกฟลินเดอร์”

“มันอาจจะดูไร้สาระสำหรับมดที่พยายามจะโค้นต้นไม้ลง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าหากว่ามดมีการวางแผนและโอกาสที่ดี เป็นเรื่องยากที่จะต้องมาเผชิญหน้ากันในตอนนี้ หากเขาสามารถคว้าโอกาสนั้นเอาไว้ได้ เขาก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้โดยความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว ไม่มีใครอยากยอมแพ้ในโอกาสดี ๆ แบบนั้นหรอก แม้กระทั้งตัวของเกรกอรีเอง”

หลังจากที่ได้ฟังมัสซิโมพูดแล้ว วิกกี้ก็นิ่งเงียบไป

เธอไม่รู้ว่าเกรกอรีได้คิดพิจารณามาเป็นอย่างดีแล้ว ก่อนที่เขาจะตัดสินใจ

ทำไมเกรกอรีถึงเลือกที่จะไม่บอกกับวิกกี้ทั้งหมด?

เขารู้ว่าตราบใดที่เขาบอกกับเธอทุกอย่าง เธอก็คงจะเข้าใจเขาได้ไม่ยาก ถ้าเขาบอกเธอให้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของเขา เธอก็จะช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน

เขาสามารถบอกให้เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนประเภทที่จะทิ้งหลักการของเขาเพียงเพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัว

เธอคงจะรู้ว่าเขาตัดสินใจเพียงเพราะความสิ้นหวังหลังจากถูกผลักให้จนมุม เธอคงจะรู้ว่ามันเป็นการป้องกันตัว

แต่ทำไมเขาถึงไม่พูดอะไรเลย?

เมื่อมัสซิโมเห็นว่าสีหน้าของวิกกี้ได้เปลี่ยนไป เขาจึงพูดว่า “เธอคิดว่ายูเลียนาไม่รู้ถึงเจตนาของเขาจริง ๆ งั้นเหรอ? เธอรู้ดี แต่เธอก็ยังตกลงที่จะทำตามแผนของเขาอยู่ดี? เธอเคยสงสัยรึเปล่าล่ะว่าทำไม?”

วิกกี้เงยหน้าขึ้นมองไปที่มัสซิโม

เขากำลังหัวเราะเยาะตัวเองอยู่ “บางทีเธออาจคิดว่ามันเป็นเพราะความรักของยูเลียนาที่มีต่อเกรกอรีสินะ ความรักสามารถทำให้ผู้หญิงสูญเสียตัวเอง และทำในสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน วิก ถ้าเป็นเธอคงจะทำแบบนั้น แต่กับยูเลียนามันไม่ใช่แบบนั้นเลย”

วิกกี้ตกใจมาก

รอยยิ้มบนใบหน้าของมัสซิโมเปลี่ยนไปเป็นความขมขื่น

“วิก เธออาจจะดูเหมือนคนเย็นชา แต่เธอก็เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความภักดี และความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก ในหัวใจของเธอ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสองสิ่งนี้ แต่ทว่าในมุมองของคนบางคน หลังจากที่ชั่งน้ำหนักของข้อดีและข้อเสียแล้ว ความสัมพันธ์จะขึ้นอยู่กับว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบมากกว่ากัน”

“อันที่จริงแล้ว ยูเลียนาอาจจะชอบเกรกอรีจริง ๆ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขาก็อาจจะเป็นของจริงเช่นกัน แต่เหตุผลที่เธอตกลงทำตามคำขอของเขาไม่ใช่เพราะเธอไม่มีที่อื่นให้ไปอย่างแน่นอน”

“ฉันรู้ว่าเกรกอรีเคยพูดถึงเรื่องนี้กับยูเลียนามาก่อน เกรกอรีบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ยอมให้ยูเลียนาอยู่เคียงข้างเขาอย่างแน่นอน เพราะว่าเขามีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว เขาจึงให้ทางเลือกยูเลียนาอยู่สองทาง คือเขาจะส่งเธอกลับไปที่ประเทศจีน เพื่อที่เธอจะได้ปูทางอนาคตของเธอเอง หรือเธอจะไปอยู่กับชิม่อน”

“ลองเดาคำตอบของเธอดูสิ?”

วิกกี้ชะงัก เธอรู้สึกหมดคำพูด

มัสซิโมยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “เธอเลือกที่จะไปอยู่กับชิม่อน”

คิ้วของวิกกี้ย่นเข้าหากัน "ทำไม? ไม่ใช่ว่าเธอ…”

“เธอไม่ได้รักเกรกอรีหรอกเหรอ? ทำไมเธอถึงเต็มใจที่จะไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอก็รู้อยู่แล้วว่าผู้ชายอีกคนนั้นไม่ได้มีเจตนาที่บริสุทธิ์?”

มัสซิโมส่ายหัว “ฉันบอกเธอไปแล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมองว่าความสัมพันธ์ มีความสำคัญเท่ากับเธอ เธออาจรักเกรกอรีอย่างแท้จริง แต่มันกลับไม่มีความหวัง เพราะเขาบอกกับเธอว่าเขาจะไม่มีวันรักเธอ และจะไม่ยอมให้เธออยู่เคียงข้างเขาอย่างแน่นอน และถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ ทำไมเธอจะไม่มองหาตัวเลือกที่ดีที่สุดคนต่อไป ที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเธอมากที่สุดล่ะ? ชิม่อนอาจจะแก่แล้วก็จริง แต่รูปลักษณ์และภูมิหลังของเขานั้นเหนือกว่ายูเลียนามาก”

วิกกี้ตกใจมาก

เธอตระหนักได้ทันทีว่าเธอไร้เดียงสาเกินไปจริง ๆ หลังจากที่ได้ฟังการวิเคราะห์ของมัสซิโมแล้ว

ความเชื่อที่เธอคอยปกป้องมานานนั้น ช่างไร้ค่าในสายตาของคนบางคนจริง ๆ

เธอไม่สามารถประมวลผลความรู้สึกที่ซับซ้อนในใจของเธอได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่หลังจากที่นึกถึงสิ่งที่เธอได้พูดเอาไว้กับเกรกอรีเมื่อวันก่อน เธอก็รู้สึกเจ็บปวดมากที่สุด

มัสซิโมได้พูดทุกอย่างที่เขาต้องการจะพูดออกไปหมดแล้ว หลังจากได้เห็นสีหน้าของวิกกี้ เขาก็รู้ได้ในทันที ว่าเธอฟังทุกคำพูดของเขาจริง ๆ

ดวงตาของเขาหม่นหมองลง จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา ขณะที่เขากำลังลุกขึ้นยืน

เขามองมาที่เธอและพูดว่า “วิก ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรจะพูดแบบนี้ แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะหลังจากที่ได้เห็นพวกเธอทั้งสองคนมีความสัมพันธ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายต่อกันอีก”

เขาหยุดพูดและรอจนกระทั่งวิกกี้เงยหน้าขึ้นมองเขา จากนั้นเขาก็พูดว่า “พวกเธอทั้งสองคนเป็นคนที่โหดร้าย แต่ชีวิตมันสั้นนะ เธอไม่มีทางรู้หรอกว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ดูวันข้างหน้าได้อีกกี่วัน ถ้าเธอยังรักเขาอยู่ ทำไมไม่ลองปรับความเข้าใจกัน และลดความอคติทั้งหมดของเธอลงไปบ้าง เพื่อให้พวกเธอทั้งสองจะได้มีชีวิตที่มีความสุขตลอดไปยังไงล่ะ? ในโลกนี้มีคนรักมากมายที่พรากจากกันด้วยเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ น่าเศร้าที่พวกเขาส่วนใหญ่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว แต่ว่าพวกเธอทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกัน ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครเข้าใจพวกเธอทั้งสองคนดีไปได้ดีกว่าตัวของพวกเธอเอง ทำไมเธอถึงได้ปล่อยให้ความเข้าใจผิดยังคงเกิดขึ้นระหว่างพวกเธอทั้งสองคนล่ะ?”

วิกกี้พูดไม่ออก ทันใดนั้นเอง ดวงตาของเธอก็แดงก่ำ

หลังจากมัสซิโมพูดจบ เขาก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่ต่อ ก่อนจะกลับไปเขาก็พูดขึ้นมาว่า "คิดให้ดีนะ"

พูดจบเขาก็หันหลังเดินกลับออกไป

หลังจากที่มัสซิโมกลับไปแล้วนั้น วิกกี้ก็หยุดนิ่งไม่ไหวติงเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงนั่งอยู่ที่นั่นตามลำพัง

เธอคิดทบทวนอยู่นานพอสมควร

วิกกี้เริ่มหวนคิดถึงอดีตของเธอ เมื่อความทรงจำเริ่มไหลผ่านเข้ามาราวกับลมกระโชก

เธอรู้สึกราวกับว่าเธอได้ย้อนกลับไปสู่อดีต เมื่อได้เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบทำให้เธอยิ้มออกมา

'ใช่ ฉันเป็นคนที่เข้าใจเขามากที่สุด!' วิกกี้คิด

'แล้วทำไมวันนี้เราทั้งสองคนถึงกลายมาเป็นแบบนี้กันได้?

'เราควรจะเป็นคนที่เข้าใจกันมากที่สุดในโลกนี้สิ เราควรจะต้องเผชิญทุกความยากลำบากในชีวิตร่วมกัน เราควรจะเชื่อใจซึ่งกันและกัน โดยไม่ให้มีความรู้สึกไม่ดีต่อกัน เหตุใดเราถึงปล่อยให้หนามทิ่มแทงทำร้ายกันและกันต่อไปแบบนี้’

วิกกี้ปิดหน้าของเธอ ขณะที่น้ำตากำลังไหลลงมาจากดวงตาของเธอ

เกรกอรีกลับมาตอนกลางคืน

หลังจากที่เขากลับมา เขาก็สังเกตุเห็นว่าไฟในห้องของวิกกี้ ที่อยู่บนชั้นสองยังคงเปิดไว้อยู่

เกรกอรีมองดูนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว

หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเธอยังคงโกรธเขาอยู่หรือเปล่า?

บางทีเธออาจจะโกรธที่เขาไม่ได้ฟังคำแนะนำของเธอ เพราะท้ายที่สุดเขาก็ยังพายูเลียนาไปที่งานแต่งงานกับเขาด้วยอยู่ดี

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็อดที่จะหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้

เธอเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์ แม้ว่าเธอจะถูกห้อมล้อมไปด้วยมนุษย์ที่ชั่วร้ายที่สุดในโลก แต่ก็ไม่มีใครทำให้หัวใจของเธอเปื้อนมลทินได้

เนื่องจากว่าเธอยังคงโกรธเขาอยู่ มันจึงเป็นการดีที่สุดสำหรับเขาที่จะอยู่ห่างจากเธอสักพัก

เขาคิดว่าเขาควรจะปล่อยเธอไว้ตามลำพังสักสองสามวัน ก่อนที่จะกลับไปพูดคุยกับเธออีกครั้ง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็เดินขึ้นไปชั้นบนอย่างเงียบ ๆ

แต่ทว่าเขากลับถูกขวางเอาไว้ในระหว่างทาง

เขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นเงาร่างเล็กที่คุ้นเคย กำลังรอเขาอยู่ที่ด้านบนสุดของบันได

เธอนั่งอยู่บนรถเข็นพลางมองมาที่เขาด้วยแววตาที่สุขุม สายตาของเธอทำให้หัวใจของเกรกอรีเต้นระรัวราวกับว่ามันกำลังสูญเสียการควบคุม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก