จากนั้นไม่นาน โทรศัพท์ของวิกกี้ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เธอขมวดคิ้วและไม่ได้ตั้งใจที่จะสนใจมัน แต่เธอไม่สามารถทนต่อออร่าของชายที่อยู่ข้าง ๆ ได้ ดังนั้นเธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง
เธอจ้องไปที่โทรศัพท์และเห็นว่า เธอได้รับข้อความจากเขา
“ฉันผิดไปแล้ว”
วิกกี้ตกตะลึง
จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้วมากขึ้น
เธอหันไปมองที่ชายผู้นั้น และได้เห็นว่าเขากำลังมองมาที่เธออย่างจริงจัง ดวงตาของเขาซึ่งมักจะเย็นชาและลึกล้ำ บัดนี้ไร้ซึ่งความเคร่งขรึมทั้งหมดไปแล้ว เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่น่าเอ็นดูราวกับลูกสุนัขที่น่ารักน่าชัง
หัวใจของวิกกี้เต้นสะดุด
มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ราวกับว่าหัวใจของเธอกำลังปลิวว่อนดั่งคนนกที่พริ้วไหว
เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไร เขาต้องการให้เธอเห็นดวงตาที่น่าสงสารดั่งเช่นลูกสุนัขอย่างนั้นเหรอ?
หึ! เธอจะไม่ยอมหลงกลอุบายของเขาหรอก
ในขณะที่เธอคิดเช่นนั้น วิกกี้ก็วางโทรศัพท์ของเธอลง และจงใจเพิกเฉยต่อข้อความเหล่านั้น
เมื่อเกรกอรีเห็นว่ากลยุทธ์นี้ใช้ไม่ได้ผลกับเธอ เขาจึงครุ่นคิดและหยิบกล่องไม้จิ้มฟันจากโต๊ะมาวางไว้ตรงหน้าของเขา
ในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังยุ่งอยู่กับการหยอกล้อมัสซิโมและควินซี่ พวกเขาจึงไม่สังเกตเห็นความแปลกประหลาดของเกรกอรี
นอกจากนี้ ทุกคนรู้จักเขาและรู้ว่าเขามีบุคลิกเช่นไร มันอาจจะเป็นการดีถ้าหากว่าเขาเข้าร่วมพูดคุยและหยอกล้อ แต่การคาดหวังว่าเขาจะเข้าร่วมพูดคุยด้วยนั้นก็มีความเป็นไปได้น้อยมากเช่นกัน
ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งที่เกรกอรีทำ
มีเพียงวิกกี้เท่านั้นที่สังเกตเห็น
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่ต้องการที่จะมองเขาอย่างโจ่งแจ้ง ดังนั้น เธอจึงมองเขาผ่านหางตาเป็นครั้งคราวเท่านั้น
เธอสังเกตเห็นว่าเขาไม่ได้ส่งข้อความให้เธออีก แต่เขากลับนั่งอยู่ที่นั่นและกำลังเอาไม้จิ้มฟันทิ่มแทงหัวของตัวเองเล่นอยู่
วิกกี้เย้ยหยันอยู่ภายในใจ ‘ผู้ชายคนนี้เริ่มทำตัวเหมือนเด็กมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็อายุมากขึ้น นี่เขากำลังเล่นไม้จิ้มฟันอยู่เหรอ? เขาคิดว่าตัวเองเป็นเด็กอายุ 3 หรือยังไง?’
อย่างไรก็ตาม เธอพยายามที่จะไม่สนใจเขา เนื่องจากว่าเขาต้องการเล่น ดังนั้นเธอจึงปล่อยให้เขาเล่นกับตัวเองตราบใดที่เขาไม่ได้รบกวนเธออีก
วิกกี้เมินเขาและปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่เขาอยากทำ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็รู้สึกว่ามีใครบางคนสะกิดที่แขนของเธอ
เธอขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวและมองไปยังชายผู้นั้นด้วยสายตาที่โกรธจัดเพื่อเป็นการเตือนว่า อย่ามายุ่งกับเธออีก
เมื่อเห็นเช่นนั้นชายผู้นั้นก็ไม่วุ่นวายกับเธออีก เขาเพียงแค่ชี้ไปที่บนโต๊ะเพื่อให้เธอมองในสิ่งที่เขาทำ
วิกกี้เหลือบมอง จากนั้นเธอก็ตัวแข็งทื่อ
บนโต๊ะมีคำเพียงไม่กี่คำที่เขาใช้ไม้จิ้มฟันสะกดเป็นคำขึ้นมาว่า ‘G LOVE V’
คนอื่นอาจจะไม่รู้ว่า “G LOVE V” หมายถึงอะไร แต่สำหรับเธอ เธอจะไม่รู้ได้ยังไง?
"G" คือ เกรอกอรี และ "V" คือ วิกกี้?
อีตาคนนี้…
ถึงแม้ว่าเธอจะหงุดหงิด แต่เธอก็รู้สึกขบขัน
เกรกอรียังคงอ้อนวอนด้วยการยิ้มให้เธอ ซึ่งทำให้เธอโกรธจนอยากจะเอื้อมมือออกไปชกเข้าที่หน้าของเขา
แต่เธอก็ทำเช่นนั้นไม่ได้อยู่ดี เนื่องจากว่ามีผู้คนจำนวนมาก และในตอนนี้ก็ไม่ใช่โอกาสที่เหมาะสม เธอจึงระงับความโกรธอย่างไม่เต็มใจ
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วรีบพิมพ์ข้อความส่งให้เขาทันที
“หยุดทำเรื่องไร้สาระได้แล้ว ต่อให้นายต้องทนทุกข์ทรมาน ฉันก็จะไม่ไปคบกับนาย ดังนั้นนายควรจะยอมแพ้ซะ!”
หลังจากที่พิมพ์ข้อความเสร็จ เธอก็กดส่งด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
เมื่อโทรศัพท์ของเกรกอรีดังขึ้น เขาจึงรีบเปิดอ่านมันทันที
แม้ว่าวิกกี้จะส่งข้อความไปแล้ว แต่มุมหางตาของเธอก็ยังจับจ้องไปที่ใบหน้าของเขา
เธอเห็นว่าใบหน้าของชายคนนั้นมีอารมณ์ที่แจ่มใส แต่เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นอ่านข้อความ และหลังจากที่เขาเห็นข้อความนั้น แสงสว่างในดวงตาของเขาคู่นั้นก็หรี่ลงในทันที และด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอกลับเห็นอกเห็นใจเขาเล็กน้อย
วิกกี้กลับมารู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว
นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่?
เธอรู้สึกสงสารผู้ชายคนนั้นอยู่หรือยังไง?
ฮ่า ฮ่า! ตลกสิ้นดี คนอย่างเขาเหรอที่จะต้องการความเห็นอกเห็นใจ?
หากเธอหลงกลอุบาย และให้อภัยเขาจริง ๆ เธอก็จะกลายเป็นคนโง่เขลาที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่!
เมื่อคิดเช่นนั้น วิกกี้ก็วางโทรศัพท์ลงและเพิกเฉยต่อเขาอีกครั้ง
อาจเป็นเพราะว่าชายผู้นี้ถูกปฏิเสธอีกครั้ง จึงทำให้ความภาคภูมิใจของเขามีร่องรอยของความฟกช้ำ และไม่แปลกใจเลยที่เขาจะไม่รบกวนเธออีก
หลังจากอาหารกลางวัน ทุกคนต่างก็อยากจะไปร้องคาราโอเกะด้วยกัน
มัสซิโม โนแลนเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน แต่เนื่องจากว่าควินซี่อยู่ที่นี่ เขาจึงไม่ต้องการตอบตกลงในทันที ก่อนที่เขาจะได้รับความคิดเห็นจากเธอ
เพื่อความสุขของเขา และควินซี่เองก็เป็นคนสบาย ๆ เธอจึงสะบัดผมกลับมา และพูดว่า “ไปกันเถอะ! ทำไมเราจะไม่ไปล่ะ? มันเป็นวันเกิดของนาย ถ้าเราไม่ฉลองตอนนี้ ก็อย่าบอกนะว่าเราจะต้องรอครั้งต่อไป?”
เมื่อมัสซิโมได้ยินเข่นนั้น เขาก็รู้สึกปลื้มใจในทันที
เขารีบพยักหน้าและพูดว่า “ได้เลยถ้าอย่างนั้น ฉันจะไปจัดการให้"
ทัศนคติที่หวานฉ่ำนี้ ทำให้ทุกคนต่างก็ส่ายหน้าอย่างหยอกล้อ
“หึ หึ มัสซี่น้อยโดนแล้ว นายน้อยผู้ใจดีของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ในตอนนี้เขาได้กลายเป็นทาสรับใช้ของผู้หญิงคนหนึ่งไปแล้ว ช่างสุขุมอะไรเช่นนี้...”
“เฮ้อ...มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่บราเธอร์มัสซี่จะให้คุณค่าแก่ผู้หญิงมากกว่าพวกพี่น้องอย่างเรา นี่นายไม่รู้เรื่องนี้เหรอ?”
เมื่อเขาพูดเช่นนั้น ทุกคนก็สั่นสะท้าน เมื่อนึกถึงพ่อและแม่ที่น่ารักของมัสซิโม
เพียงเพราะว่าพวกเขาเบื่อกับความหวานของคู่สามีภรรยาที่สูงวัยคู่นั้น
เนื่องจากพวกเขาทุกคนต่างก็มาจากตระกูลที่ร่ำรวยในท้องถิ่น และเกือบทุกตระกูลของที่นี่ต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและกัน ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาสนิทกันมากแค่ไหน
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะสนิทกันมากแค่ไหน คนที่เคยพบพ่อและแม่ของมัสซิโมมาก่อนต่างก็ถูกความรักใคร่ของคู่สามีภรรยาสูงอายุเข้าครอบงำ
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคู่ครองกันมาถึง 30 ปีแล้ว แต่ความรักที่พวกเขามีต่อกันนั้นช่างหวานซึ้ง จนคนที่ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาสูงอายุที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานานแล้ว อาจจะคิดว่าพวกเขาเพิ่งจะเริ่มออกเดตกัน
ในขณะที่พวกเขาพิจารณาเรื่องนี้ ทุกคนก็สามารถทนต่อความชื่นชอบของมัสซิโมที่มีต่อควินซี่ได้
ในไม่ช้า มัสซิโมก็ได้จัดเตรียมสถานที่ชั้นบนสุดของโรงแรมเอาไว้ให้แล้ว
แน่นอนว่าแขกที่เหลือไม่ได้เข้าร่วมด้วย แต่ผู้คนที่ไปกับเขาคือเพื่อนสนิทของเขา
วิกกี้ไม่สามารถดื่มได้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของเธอ และถ้าหากว่าเธอไปที่ห้องคาราโอเกะโดยไม่ดื่ม เธออาจจะกลายเป็นคนนิสัยเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เกรกอรีจะไม่ยอมปล่อยให้เธออยู่ข้างนอกคนเดียวอย่างแน่นอน เมื่อเขาเพิ่งเห็นว่าเท้าของวิกกี้บวมขึ้นเล็กน้อยแล้วเขาจึงตัดสินใจพาเธอกลับไปหาหมอ
ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธคำเชิญของมัสซิโมในการไปร่วมร้องคาราโอเกะ
เมื่อมัสซิโมเห็นเช่นนั้น เขาจึงไม่ได้ห้ามเกรกอรี หลังจากบอกลาทั้งสองคนแล้ว เขาก็พาคนกลุ่มใหญ่ขึ้นไปที่ห้องคาราโอเกะ เพื่อดื่มและร้องคาราโอเกะกัน
จากนั้นเกรกอรีก็พาวิกกี้กลับไปยังคฤหาสน์
เมื่อพวกเขากลับมาถึงก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงแล้ว
แดดข้างนอกร้อนจัด ถึงแม้ว่าวิกกี้จะนั่งอยู่แต่ในรถ แต่เธอก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อเมื่อเธอลงมาจากรถ จากนั้นเธอก็กลับไปยังห้องของเธอ
เกรกอรีเองก็กลับไปที่ห้องของเขาเช่นกัน
เธอกำลังครุ่นคิดว่า เธออาจจะงีบหลับในช่วงบ่าย
อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวเธอถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อ เธอจึงคิดว่าเธอจะไม่สามารถงีบหลับได้แน่นอน ดังนั้นเธอจึงต้องการที่จะอาบน้ำก่อน
วิกกี้จึงถอดเสื้อผ้าและเดินไปเข้าห้องน้ำ
บาดแผลบนร่างกายของเธอเกือบจะหายเป็นปกติ ดังนั้น มันจึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการอาบน้ำ
วิกกี้กำลังแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำอย่างผ่อนคลาย และเธอก็กำลังเพลิดเพลินกับความสบายในการได้แช่ตัวอยู่ในน้ำอุ่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก