ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา กองทหารมังกรตกอยู่ในความโกลาหลและความพ่ายแพ้ สถานการณ์ในประเทศจีนซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากข้อพิพาทระหว่างตระกูลเกรแฮมและตระกูลลีย์
เส้นทางข้างหน้าของเกรกอรีอาจจะยากขึ้น และอันตรายมากขึ้น
ด้วยเกราะไหมสีทองนี้ อย่างน้อยในบางครั้ง มันก็อาจจะสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้เขาได้
จิตใจของวิกกี้เต้นระรัว ทันใดนั้นฝ่ามืออันแสนอบอุ่นก็เอื้อมออกมาอีกครั้งหนึ่ง และจับมือของเธอเอาไว้อย่างเงียบ ๆ
ราวกับว่าหัวใจของพวกเขาได้ประสานเข้าด้วยกัน จากนั้นพวกเขาก็หันหน้ามาและมองหน้ากันอีกครั้ง
ทั้งคู่ต่างก็มองเห็นอารมณ์ความรู้สึก และความรักภายในสายตาของกันและกัน
วิกกี้ตกตะลึง
ในขณะนั้น เธอรู้สึกได้ถึงกระแสน้ำอุ่นที่ไหลพุ่งผ่านเข้ามาภายในหัวใจของเธอ
อารมณ์ความรู้สึกได้ผุดขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของเธอ จนทำให้เธอดูตื่นตระหนก
จากนั้นเธอก็ดึงมือออกจากมือของเขา และพูดเบา ๆ ว่า "อย่าทำแบบนี้ เราอยู่ในที่สาธารณะ!"
ความเขินอายและปฏิกิริยาการตอบสนองของเธอ ทำให้ริมฝีปากของเค้าโค้งขึ้นด้วยความพอใจ
เขาไม่ได้โต้ตอบ แต่เขาก็ยังดื้อรั้นที่จะวางมือของเขาเอา ไว้ และเธอก็ยังสามารถสัมผัสถึงมันได้
หัวใจของวิกกี้กำลังสับสน เธอไม่กล้าสบตาเขา เธอจึงหันหน้าไปทางเวที
วัตถุโบราณชิ้นอื่น ๆ ที่พิธีกรนำเสนออีกหลายชิ้นต่างก็เป็นสมบัติของจักรพรรดิและขุนนางในสมัยโบราณ มีทั้งหยกและอัญมณีที่ล้ำค่าที่นางสนม และราชินีได้เคยสวมใส่
เกรกอรีและวิกกี้ไม่มีความสนใจในในวัตถุเหล่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งดูอยู่เงียบ ๆ
ในทางกลับกัน มัสซิโมได้เสนอราคาประมูลชุดเครื่องประดับปะการังสีแดงที่งดงามให้กับควีนซี่
เนื่องจากมีวัตถุโบราณในการประมูลหลายชิ้นในวันนี้ ภายในชั่วพริบตา เวลาก็ได้ผ่านไปแล้ว 2 ชั่วโมง
พิธีกรพักเบรค 20 นาทีก่อนที่จะเริ่มการประมูลครึ่งหลัง
ฝูงชนเริ่มแยกย้ายกันออกไปที่ด้านนอกของห้องโถง เพื่อเดินยืดเส้นสายก่อนที่การประมูลจะเริ่มขึ้น
วิกกี้และเกรกอรีเองก็ออกไปข้างนอกด้วยเช่นกัน
ในขณะที่มัสซิโมและควีนซี่ก็ได้ติดตามพวกเขาออกไป อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาคุ้นเคยกันมากขึ้นแล้ว ดังนั้นควินซี่จึงไม่ได้ดูเขินอายเหมือนตอนที่พวกเขาได้พบกันครั้งแรก เธอยังหัวเราะและหยอกล้อกับมัสซิโม่จนทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวา
พวกเขาทั้งสี่คนออกไปที่ด้านนอกของห้องโถง จากนั้นไม่นาน ก็มีใครบางคนเข้ามาพูดคุยกับเกรกอรี
ชายผู้นั้นเป็นชายหัวล้านวัยกลางคนที่มีหน้าท้องที่ยื่นออกมา ในมือของเขาถือแชมเปญเอาไว้หนึ่งแก้ว เขายิ้มและกล่าวว่า
“ยินดีด้วยคุณเกรแฮม วันนี้คุณได้รับสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด"
เกรกอรียิ้มอย่างแผ่วเบา เขาหยิบแก้วขึ้นมาและชนแก้วกับชายผู้นั้น
หลังจากที่ดื่มเสร็จ ชายวัยกลางคนก็ยิ้มและพูดว่า “ผมสงสัยว่านายน้อยเกรแฮมจะเคยได้ยินเกี่ยวกับวัตถุโบราณอันล้ำค่าอีกชิ้นหนึ่ง ที่จะปรากฏในรายการประมูลในวันนี้หรือไม่?”
เกรกอรีเลิกคิ้วขึ้น เขาตอบอย่างไม่ปิดบัง
“ผมรู้"
“มันเป็นเหตุผลที่นายน้อยเกรแฮมมาในวันนี้ด้วยหรือเปล่า?”
เกรกอรีมองเขาอย่างมีเลศนัย เขายิ้มและพูดว่า "ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ในวันนี้ ก็คงจะมาที่นี่เพื่อสิ่งนี้เท่านั้น"
เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงจะพอใจกับคำตอบ
จู่ ๆ ชายวัยกลางคนก็ถอนหายใจ และส่ายหน้าอย่างไม่คาดคิด เขาก้มลงมองด้วยท่าทางที่ลึกลับ เขากล่าวว่า “ผมพูดจริง ๆ นะ ผมไม่ค่อยเชื่อในตำนานเรื่องการทำให้คนที่ตายไปแล้วฟื้นคืนชีพได้ แต่ไม่ว่ามันจะมีประโยชน์หรือไม่ ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็คลั่งไคล้และพยายามที่จะคว้ามันมา มันคงจะไม่ใช่สิ่งนำโชคอีกต่อไป”
ดวงตาของเกรกอรีหรี่ลงเล็กน้อย
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาพูดเพียงแค่ว่า "เป็นความเห็นที่ดี คุณคลินตัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก