“อันที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้เกลียดนายเลย ถึงแม้ว่านายจะทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้ฉันต้องเสียใจมาก แต่ฉันก็รู้ว่านายจะยังเป็นพี่เกรกอรีของฉันอยู่เสมอ นายจะคอยปกป้องฉัน ดูแลฉัน และสัญญาว่าจะดีกับฉันไปตลอดชีวิต"
เมื่อน้ำตาของวิกกี้กำลังคลอเบ้า แววตาของเธอก็ฉายแววของความโกรธแค้นขึ้นมาทันที
แต่ทว่าเธอก็ยังคงทำตัวแข็งแกร่ง และไม่ยอมให้น้ำตานั้นตกลงมาแม้แต่หยดเดียว
เธอขดริมฝีปาก พลางหัวเราะออกมาเบา ๆ
“นายยังจำได้ไหม ว่าตอนเด็ก ๆ ฉันชอบเรียกนายว่าพี่เกรกอรี ตอนนั้นฉันอยากมีพี่ชายมาก ฉันเลยเดินตามนายไปไหนมาไหนตลอด”
“แต่ตอนที่นายสอนวิชาศิลปะการต่อสู้ให้กับฉัน นายก็ทุบตีฉัน จนฉันไม่อยากจะเรียกนายว่าพี่อีก”
“นั่นคงเป็นเพราะฉันเคยได้ยินมาว่า พี่น้องคู่อื่นจะรักและตามใจน้องสาวของพวกเขา และไม่เคยตีพวกเขาเลย”
“แต่นายกลับตีฉัน ฉันก็เลยเกลียดนาย ฉันจึงสาบานกับตัวเองเอาไว้ว่า ชาตินี้ฉันจะไม่เรียกนายว่าพี่ชายอีก”
“นายจำได้ไหม เพราะเหตุนี้นายเลยโกรธฉันมานาน แต่พอนายรู้ว่าทำไมจู่ ๆ ฉันก็เลิกเรียกนายว่าพี่ชาย นายก็เลยยอมแพ้ไปในที่สุด”
“เกรกอรี ถ้านายตื่นขึ้นมาตอนนี้ ฉันจะเรียกนายว่าพี่ชายเกรกอรีอีกครั้ง ตกลงไหม?”
คนบนเตียงไม่โต้ตอบ แล้วที่แย่ไปกว่านั้นก็คือว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของเธอเลยสักคำ
วิกกี้ไม่สามารถกลั้นน้ำตาของเธอเอาไว้ได้อีกต่อไป หยดน้ำตาไหลเอ่อล้นออกมาเงียบ ๆ ราวกับเม็ดฝน
มุมปากของเธอขดขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“ถ้านายไม่ตอบ ฉันจะถือว่านายตกลงแล้วนะ หรือว่าฉันจะต้องเรียกนายแบบนั้นก่อน และถ้านายได้ยินเสียงของฉัน นายก็แค่ลืมตาขึ้นมามองฉัน โอเคไหม?”
ยังคงไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ชายที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง
เธอค่อย ๆ โน้มตัวลงไปพลางกระซิบข้าง ๆ หูของเขา “พี่เกรกอรีคะ…”
“พี่ชายเกรกอรี…”
“พี่เกรกอรี…”
เธอเรียกชื่อของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกับว่าเสียงกระซิบอันแผ่วเบาที่ราวกับสายลมแห่งกาลเวลา ได้พัดพาพวกเขาทั้งสองคนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
แม้ว่าน้ำตาของวิกกี้ยังคงไหลไม่หยุด แต่รอยยิ้มก็ยังปรากฏบนอยู่บนใบหน้าของเธอเสมอ
เธอไม่รู้ว่าเธอเรียกชื่อเขามานานแค่ไหนแล้ว แต่ในขณะที่เธอกำลังจับฝ่ามือของเขาอยู่นั้นจู่ ๆ นิ้วมือของเขาก็กระตุกขึ้นมา
วิกกี้ตกตะลึง เธอดูเหมือนกับไม่เชื่อสายตาของตัวเอง “พี่เกรกอรี?”
ถัดจากพวกเขาออกไป พ่อบ้านออสบอร์นก็เห็นเหตุการณ์นี้ด้วย เขาจึงเดินวนไปวนมาด้วยความตื่นเต้น
"นิ้วมือของเขาขยับ! เขาได้สติแล้ว!"
ทั้งสองร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ
แม้ว่าเกรกอรีจะยังไม่ฟื้นขึ้นในเวลานี้ แต่วิกกี้ก็รู้ดีว่าเขาคงจะได้ยินสิ่งที่เธอพูดอยู่แน่นอน
และเขาก็ได้ยินสิ่งที่เธอพูดจริง ๆ
เธอรู้สึกสับสนและตื้นตันใจ เธอจึงเรียกชื่อเขาออกมาอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นเรื่อย ๆ
ภายในห้องที่เงียบสงัด เสียงเรียกเบา ๆ ของหญิงสาวบวกกับลมหายใจที่สม่ำเสมอและแผ่วเบาของผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียง ทำให้เกิดภาพที่ดูกลมกลืนแต่ก็ให้ความรู้สึกแปลกประหลาด
หลังจากการขยับนิ้วเล็กน้อยของเขาในก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีการตอบสนองใด ๆ ต่อจากนั้นอีกเลย
พ่อบ้านออสบอร์นเดินไปข้างหน้าด้วยความทนดูต่อไปไม่ไหว เขาจึงแนะนำกับเธอว่า “คุณโทมัสครับ ได้โปรดพักสักครู่เถอะนะครับ ถ้าขืนยังฝืนเรียกเขาอยู่แบบนี้คุณจะเจ็บคอเอาได้นะครับ”
วิกกี้ส่ายหัวปฏิเสธ
เธอพูดออกมาอย่างอ่อนโยน “คุณลุงออสบอร์น คิดว่าเขาจะได้ยินเสียงของฉันไหมคะ? เขาต้องได้ยินแน่ ๆ เลยใช่ไหมคะ?”
ดวงตาของพ่อบ้านออสบอร์นก็เริ่มแดงก่ำขึ้นมาเช่นกัน
“เขาได้ยินคุณอยู่แล้วครับ แต่ผมว่าเขาอาจจะอยากให้คุณดูแลตัวเองมากกว่า ไม่อย่างนั้น เขาคงจะไม่มีความสุข เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าคุณเป็นแบบนี้”
วิกกี้รู้ว่าพ่อบ้านออสบอร์นพูดถูก
เธอจึงปาดน้ำตาที่เปื้อนอยู่บนแก้มออก ก่อนจะฝืนยิ้มออกมาและพูดว่า “คุณพูดถูก ฉันควรดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ และรอให้เขาฟื้นขึ้นมา”
พ่อบ้านออสบอร์นตอบว่า “คุณโทมัสครับ ทำไมคุณไม่มานอนพักเอาแรงตรงนี้สักหน่อยล่ะ ผมแน่ใจว่าเมื่อคืนคุณคงจะนอนไม่ค่อยหลับ”
ขณะที่เขาพูดอยู่ เขาก็ชี้ไปที่เตียงนอนชั่วคราวที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ เตียงนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก