"นี่เธออายุเท่าไรแล้วเนี้ย? ทำตัวเป็นเด็กไปได้”
เกรกอรีมองวิกกี้ด้วยความไม่พอใจ
ณ จุดนี้เธอก็รู้สึกขึ้นมาว่า มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้ คุณหมอได้บอกกับเธอไว้ว่า เขาอยู่ในช่วงเฝ้าระวังสี่สิบแปดชั่วโมง และถ้าหากว่าเขาสามารถรอดชีวิตมาได้หลังจากสี่สิบแปดชั่วโมงนั้น เขาจึงจะถือว่าพ้นขีดอันตรายโดยสมบูรณ์
นั่นคือเหตุผลที่วิกกี้เฝ้าดูอาการของเขา โดยนอนอยู่ข้างเตียงเขาตลอดสองวันที่ผ่านมา
ในที่สุดเขาก็ฟื้นขึ้นมาสักที เธอจะไม่รู้สึกมีความสุขได้อย่างไร?
วิกกี้ไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้ได้ และเมื่อเกรกอรีมองไปที่เธอ ดวงตาของเขาก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
มันคงเป็นเรื่องโกหก ถ้าจะบอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว
แต่เมื่ออารมณ์ที่ท่วมท้นนี้เกิดขึ้น มันกลับทำให้เขารู้สึกซับซ้อนขึ้นมา
ถึงไม่ต้องบอก วิกกี้ก็รู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ของเขา เธอจึงถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “นายเป็นยังไงบ้าง? รู้สึกไม่สบายใจตรงไหนหรือเปล่า? นายยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า?”
เกรกอรีจับมือเล็ก ๆ ของเธอ ที่กำลังจับตัวของเขาตรงนู้นทีตรงนั้นที แบบสุ่มสี่สุ่มห้า และตอบว่า "ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันไม่ได้เจ็บแล้ว"
หลังจากหยุดนิ่งไปชั่วครู่ เขาก็ถามว่า “นี่ฉันหมดสติไปนานเท่าไรแล้ว?”
วิกกี้เม้มริมฝีปากก่อนจะตอบว่า “สองวันสองคืน”
“แล้วเธออยู่ที่นี่มาตลอดเลยอย่างงั้นเหรอ?”
ดวงตาของเขาจ้องมองตรงมาที่เธอ วิกกี้ตกใจจนหัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล
เธอดึงมือของเธอกลับมา และทำเป็นมองออกไปข้างนอก ขณะที่เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “อย่าคิดมากไปหน่อยเลย ฉันแค่กังวลว่าจะมีใครใช้โอกาสนี้ทำร้ายนายอีกครั้ง ถ้าเป็นอย่างนั้น ใครจะช่วยฉันหาเบาะแสต่าง ๆ หลังจากนี้กันล่ะ?”
การปฏิเสธของผู้หญิงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของเกรกอรีได้
ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เขาก็เห็นได้ชัดว่าความเป็นห่วง และความกังวลบนใบหน้าของเธอนั้นมันไม่ใช่ของปลอม
เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะถามเธอว่า
“นั่นเป็นเหตุผลเดียวจริง ๆ เหรอ?”
วิกกี้เริ่มรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น เธอจึงบ่นพึมพำออกมาว่า “มันจะเป็นอะไรไปได้อีกล่ะ?”
เธอกดริมฝีปากเข้าหากันและพูดต่อ “โอเค นอนพักผ่อนเถอะ ฉันจะไปตามหมอมาให้”
พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไป
แต่เมื่อเธอเดินไปถึงประตู เธอก็เห็นว่าพ่อบ้านออสบอร์น ได้พาหมอมาที่ห้องแล้ว
ที่จริงแล้ว ตอนที่พ่อบ้านออสบอร์น เห็นวิกกี้และเกรกอรีอยู่ด้วยกันตามลำพัง เขาไม่ต้องการจะรบกวนพวกเขา ดังนั้นเขาจึงออกไป
แต่เนื่องจากว่าเกรกอรีเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา พ่อบ้านออสบอร์นจึงจำเป็นต้องรีบไปแจ้งให้คุณหมอมาตรวจดูอาการของเขาอีกครั้ง
ในขณะที่เขาบังเอิญพาหมอเข้ามานั้น เขาก็ไม่ได้คาดว่าทั้งสองคนจะพูดคุยกันเสร็จแล้ว
เมื่อเห็นวิกกี้ที่หน้าประตู พ่อบ้านออสบอร์นจึงยิ้มออกมา และพูดว่า "คุณโทมัส คุณตื่นแล้วเหรอครับ? แล้วนี้คุณกำลังจะไปไหนเหรอครับ?"
วิกกี้ตัวแข็งทื่อ เธอรู้เพียงแค่ว่าตอนนี้พ่อบ้านออสบอร์นควรจะต้องเห็นว่าเธอหลับไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงรู้สึกเขินอายอยู่เล็กน้อย
เธอตอบด้วยรอยยิ้ม “ฉันกำลังจะไปตามหมอมาน่ะค่ะ”
จากนั้นสายตาของเธอก็มองไปเห็นหมอที่กำลังเดินตามพ่อบ้านออสบอร์นมาพอดี มันเลยทำให้เธอรู้สึกเขินอายมากขึ้นไปอีก
“ในเมื่อหมอก็อยู่ที่นี่แล้ว พวกคุณเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ ฉันต้องขอตัวก่อน”
หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็รีบเดินออกไป
พ่อบ้านออสบอร์นตกตะลึง และค่อนข้างสับสน เขาพูดตามหลังเธอไปว่า “แล้วคุณไม่อยากฟังผลวินิจฉัยของหมอเหรอครับ?”
วิกกี้ตอบเสียงดังฟังชัด “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่จำเป็น”
เธอรู้ว่าหมอที่รักษาเกรกอรีต้องเป็นหมอที่ดีที่สุดอยู่แล้ว
เนื่องจากหมอเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าเขาฟื้นขึ้นมาภายในสี่สิบแปดชั่วโมงที่สำคัญที่สุดได้ เขาก็จะพ้นจากขีดอันตราย
เกรกอรีฟื้นขึ้นและรอดชีวิตมาได้ ดังนั้นมันก็หมายความว่าเขาปลอดภัยแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก