วิกกี้หัวเราะคิกคักออกมาอย่างอดไม่ได้
เธอส่ายหัวหลังจากที่ครุ่นคิดอย่างหนัก “เธอไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก ชีวิตเป็นของเธอ และเธอมาที่นี่เพื่อทำงานเท่านั้น เธอจะทิ้งทั้งชีวิตของเธอเพื่องานที่เธอทำได้ยังไง?”
แอนเดรียเก็บเงียบคำพูดของเธอเอาไว้
ใบหน้าของหญิงสาวดูสงบลง ท่ามกลางท้องฟ้าในยามค่ำคืน สีหน้าที่ว่างเปล่าบนใบหน้าของเธอ ทำให้เกิดภาพลวงตาของความไม่แยแสกับทางโลก ซึ่งตรงกันข้ามกับตัวตนที่ร่าเริงและอ่อนเยาว์ตามปกติของเธอ
เนื่องจากว่าวิกกี้กำลังนอนหลับตาอยู่ เธอจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นความผิดปกติในการแสดงออกของแอนเดรีย
เธอพูดต่อว่า “ในตอนสุดท้ายฉันหวังว่าเธอจะมีความสุข ได้เจอกับคนที่ชอบเธอ และเธอก็ชอบเขาด้วย ได้แต่งงาน มีความมั่นคง มีลูก และใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเหมือนกับคนทั่วไป นี่เป็นช่วงที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของคน ๆ หนึ่งเลยก็ว่าได้”
แอนเดรียมองไปที่วิกกี้ พลางถามขึ้นมาทันทีว่า “การมีชีวิตที่แสนจะธรรมดา เป็นหนทางแห่งความสุขที่แท้จริงหรือเปล่าคะ?”
วิกกี้เลิกคิ้ว และเปิดตาข้างหนึ่งขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “แน่นอนสิจ้ะ”
แอนเดรียขดริมฝีปากของเธอขึ้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ
วิกกี้หลับตาลงเพื่อดื่มด่ำกับการนวด และพูดว่า “แอนเดรีย เพราะเธอไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องราวแปลก ๆ มาก่อน เธอจึงไม่เข้าใจถึงความยากลำบาค และความสำคัญของสิ่งธรรมดา ๆ”
“คนอย่างเราใช้ชีวิตอยู่บนเส้นด้ายทุกวัน วันนี้อาจจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่เราไม่รู้หรอกว่าเราจะอยู่ถึงวันพรุ่งนี้หรือเปล่า บางทีเราอาจจะไม่ได้มีโอกาสในชีวิตนี้ ที่จะมีความสุขเหมือนที่เธอมีอยู่ก็ได้”
“แน่นอนว่าการรักษาความปลอดภัยข้างนอกอาจจะแน่นหนาในทุก ๆ คืน ถึงแม้ว่าเราจะหลับตา แต่จิตใจของเรายังคงตื่นตัวอยู่ตลอด เพราะด้วยความกลัวว่าหากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาแค่เพียงครั้งเดียวนั้น อาจจะมีใครบางคนพุ่งเข้ามาแทงหรือฟันที่คอเธอได้”
“เธอรู้ไหมว่ามนุษย์ทุกคนกลัวเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะความตาย และถึงแม้ว่าจะผ่านไปหลายปี ฉันสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ฉันไม่สามารถเอาชนะชีวิตและความตายได้ ใครจะอยากตายถ้ารู้ว่ายังมีโอกาสรอด?
“ด้วยเหตุผลที่ยังไม่อยากตาย และกลัวตาย คนอย่างเราจึงตกอยู่ในวังวนของความกลัวตลอดเวลา และเมื่อความกลัวเริ่มแทรกซึมเข้าสู่ส่วนสำคัญในชีวิตของเธอ ความร่ำรวยและอำนาจที่คุณเป็นเจ้าของ มันก็ไม่สามารถทำให้คุณรู้สึกมีความสุขได้มากนักหรอก”
“แอนเดรีย ฉันหวังว่าเธอจะมีความสุข อย่าเป็นเหมือนกับฉันเลย ฉันมีโอกาสแต่ก็ปัดมันทิ้งไป ในที่สุดฉันก็ยืนอยู่บนทางแยกที่ไร้จุดหมายปลายทาง”
เสียงของเธอค่อย ๆ จางหายไปจากการสนทนา
แอนเดรียยังคงออกแรงกดเบา ๆ ให้กับวิกกี้ และปล่อยให้น้ำมันหอมระเหยที่ปลายนิ้วของเธอได้กระจายกลิ่นหอมหวานจาง ๆ ออกมา ทำให้วิกกี้คลายความกังวลทั้งหมดของเธอไปจนหมด หลงเหลือไว้แต่เพียงความปรารถนาที่จะจมดิ่งลงไปสู่ความรู้สึกเหล่านั้น
แอนเดรียก้มลงมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเธอ
ผู้หญิงคนนั้นหลับไปแล้ว เธอหลับตาของเธอลง และนอนอยู่ตรงนั้น
เมื่อถอดกำแพงป้องกันตัวเองออก เธอก็ดูอ่อนแอราวกับเด็กสาวธรรมดาคนอื่น ๆ ทั่วไป ราวกับว่าเธอเป็นนางฟ้าที่แสนอ่อนโยนไร้พิษภัย
นางฟ้า...
แอนเดรียบ่นพึมพำกับตัวเอง เธอเพิ่งจะตระหนักได้ว่ามันเป็นคำประชดประชัน
ความคิดของเธอหวนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว ในบ่ายของวันหนึ่ง เธอเสิร์ฟเครื่องดื่มบ๊วยเปรี้ยวเพื่อดับกระหายความร้อนในช่วงฤดูร้อน โดยที่วิกกี้ไม่ได้สั่ง วิกกี้จึงบีบแก้มของเธออย่างมีความสุขและบอกว่าแอนเดรียคือนางฟ้าตัวน้อยของเธอ
แต่ทว่านางฟ้าเป็นเหมือนเธอหรือเปล่า?
ด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ ๆ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงแห่งความเศร้า และความเจ็บปวด
ครึ่งชั่วโมงต่อมาวิกกี้ก็ตื่นขึ้น
เมื่อเธอตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าเหนือศีรษะของเธอก็เต็มไปด้วยดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับ พร้อมกับลมเย็น ๆ ที่พัดโชยเข้ามาลูบไล้ใบหน้า และร่างกายของเธออย่างอ่อนโยน ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและเย็นสบาย
วิกกี้คลุมตัวด้วยผ้าบาง ๆ เมื่อเธอหันกลับมาก็พบว่าแอนเดรียไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก