วิกกี้ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามา และหลังจากนั้นไม่นาน ประตูรถบรรทุกก็ถูกเปิดออก
"ลงมา!"
ชายคนหนึ่งพูดจาอย่างเย็นชากับพวกเขา
แอมเบอร์ลุกขึ้น พลางเดินไปที่วิกกี้เพื่อช่วยพยุงเธอขึ้นมา
วิกกี้มองไปที่เท้าที่ถูกมัดไว้ ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ใจคอคุณจะให้ฉันกระโดดลงไปทั้งแบบนี้เลยเหรอ?”
แอมเบอร์ขมวดคิ้ว และมองไปที่เชือกที่เท้าของวิกกี้
ขณะที่เธอกำลังจะก้มลงไปแก้มัดเชือกนั้น ผู้ชายที่ยืนอยู่ที่ประตูก็ได้ห้ามเอาไว้
“ไม่จำเป็นต้องแก้มัดหรอก ถ้าคุณกระโดดลงมาไม่ได้ คุณก็นอนอยู่บนรถนี้อีกสักคืนก็ได้ ยังไงเราก็ไม่ได้มีปัญหากับมันอยู่แล้ว”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป
วิกกี้หยุดนิ่ง
เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรับมือได้ยากขนาดนี้
ข้าง ๆ เธอ แอมเบอร์ลุกขึ้น และมองดูเธออย่างช่วยไม่ได้
“คุณอยากอยู่ในรถต่อรึเปล่า? หรือจะให้ฉันช่วยพาคุณกระโดดลงไป”
วิกกี้ยิ้มออกมาเล็กน้อย
เธอเข้าใจในหลักทฤษฎีเป็นอย่างดี ว่าคนฉลาดไม่ควรต่อสู้จนตัวตาย แม้ว่าในรถจะมีผ้าห่มผืนบาง ๆ อยู่ แต่มันก็ยังเย็นและพื้นก็แข็งไปอยู่ดี ถ้าเธอต้องนอนค้างคืนในรถ เธอคงจะได้เป็นหวัดก่อนจะหนีออกมาได้แน่ ๆ ซึ่งมันไม่คุ้มเอาเสียเลย
วิกกี้ยิ้มและพยักหน้า “ฉันลงไปเองได้”
จากนั้นเธอก็เกาะผนังแล้วค่อย ๆ ประคองร่างของตัวเองเดินไปยังทางออก
เมื่อแอมเบอร์เห็นแบบนี้ เธอก็คิดว่าการกระทำของวิกกี้นั้นค่อนข้างตลก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
แต่เธอก็หัวเราะออกมาได้เพียงแค่วินาทีเดียวเท่านั้น ก่อนจะหยุด และรีบประคองวิกกี้เอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอล้ม
หลังจากนั้นไม่นานวิกกี้ก็ออกมาจากรถบรรทุก ด้วยความพยายามอย่างมากได้สำเร็จ
เธอเห็นหมู่บ้านอยู่ตรงหน้าของเธอ ในบริเวณนี้ มีรถบรรทุกจอดอยู่บนถนนลูกรังเพียงแค่คันเดียวเท่านั้น
บางทีอาจจะเป็นเพราะฝนเพิ่งจะตกเสร็จ ดินจึงอ่อน และเกิดแอ่งน้ำลึกและตื้นจำนวนมาก ซึ่งนั้นมันทำให้ทั้งถนนกลายเป็นโคลน
เธอยังคงสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ที่เธอสวมเมื่อตอนที่ออกมาจากคฤหาสน์ แต่ว่าตอนนี้มันสกปรกไปหมดแล้ว
วิกกี้ไม่ได้สนใจมัน เธอเดินตามพวกเขาเข้าไปในหมู่บ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน
ในหมู่บ้านนั้นมีชาวบ้านอยู่เพียงไม่กี่คน หรืออาจจะมากกว่าที่เธอเห็น แต่ก็มีเพียงไม่กี่ครอบครัวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่แรก
มีผู้ชายสี่คนยืนอยู่กับพวกเขา หนึ่งในนั้นกำลังเคาะประตูบ้าน ที่เปิดออกมาและเผยให้เห็นใบหน้าที่มืดมิด
ปากของพวกเขาเริ่มขยับ เหมือนกำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่วิกกี้ก็ไม่สามารถเข้าใจได้ ซึ่งเธอคิดว่านั้นคงจะเป็นภาษาท้องถิ่น
เธอเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจ แต่เธอก็ยังฟังจากสำเนียงออกว่าสถานที่แห่งนี้ คงจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในภาคตะวันออกกลาง
วิกกี้ไม่รู้ว่าชายคนนั้นพูดอะไรกับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านคนนั้นก็ชะโงกหน้าออกมาจากประตู และมองดูวิกกี้กับแอมเบอร์ ก่อนจะพยักหน้าและเปิดประตูเพื่อให้พวกเขาเข้าไป
หลังจากถูกขังอยู่หลังรถมาทั้งวัน ในที่สุดเท้าของวิกกี้ก็ได้เหยียบลงพื้นดินบ้างสักที และเมื่อถึงจุดนี้ เธอก็ไม่รังเกียจที่จะทำทุกวิถีทางที่เธอต้องการ
เมื่อพวกเขาเข้าไปข้างในบ้าน พวกผู้ชายก็ได้พูดอะไรบางอย่างกับครอบครัวนี้ และครอบครัวนี้ได้มอบสิ่งของ และกุญแจบ้านทั้งหมดให้กับพวกเขา จากนั้นจึงหันหลังกลับออกไป
วิกกี้รู้สึกว่าชาวบ้านพวกนั้นคงจะไม่กลับมาเร็ว ๆ นี้แน่ บางทีพวกผู้ชายอาจจะเช่าบ้านของพวกเขาไปแล้วก็ได้
เธอสงสัยว่าที่นี้มันคืออะไรกันแน่ และถ้าเธอหนีออกไปขอความช่วยเหลือจากคนข้างนอก เธอจะมีโอกาสที่จะมีชีวิตรอดอยู่หรือเปล่า
เธอหันกลับมา และเหลือบไปเห็นปืนที่เอวของผู้ชายสี่คนนั้น เธอจึงล้มเลิกความคิดนั้นทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก