แอมเบอร์ยิ้มจาง ๆ ออกมา
“ที่พวกคุณไม่พบสิ่งผิดปกติ นั่นก็เป็นเพราะว่าขวดที่ฉันเอาให้ไป มันเป็นน้ำมันหอมระเหยจริง ๆ”
"ยากล่อมประสาทจะไม่ออกฤทธิ์ ถ้าไม่มีคนใดคนหนึ่งทำอะไรกับมัน ขวดที่ฉันให้คุณไปตรวจสอบ เป็นเพียงแค่ขวดน้ำมันหอมระเหยธรรมดา ๆ ขวดหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ขวดที่ฉันเคยใช้กับคุณมาก่อน"
วิกกี้ตัวสั่นเทา
ในเวลานี้ เธอก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่า เธอเชื่อใจแอนเดรียมากเกินไปตั้งแต่แรก
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ถึงแม้ว่าเธอจะสงสัยในตัวของแอนเดรียมากสักเท่าไร เธอก็ไม่เคยพบสิ่งผิดปกติเลยแม้แต่น้อย มันจึงทำให้เธอไว้ใจแอนเดรียหมดทั้งใจ
เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าอีกฝ่ายกำลังใช้ความไว้วางใจของเธอ เพื่อวางแผนกลับมาทำร้ายเธออย่างลับ ๆ
แววตาของวิกกี้เย็นชาลง แต่แอมเบอร์ก็ไม่ได้สนใจ
เธอนั่งอยู่ตรงนั่นอย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำ หรือว่ารังสีของความเย็นชา แอมเบอร์ดูแตกต่างจากคนที่เคยอยู่ในคฤหาสน์อย่างสิ้นเชิง
แอมเบอร์มองวิกกี้ พลางชูขนมปังที่ยังไม่ได้กินในมือของเธอขึ้นมา
“ยังอยากกินอยู่ไหม?”
วิกกี้ไม่ได้ตอบ
แอมเบอร์หัวเราะออกมา
“คุณไม่จำเป็นต้องโกรธฉันหรอกนะ ฉันบอกคุณไปแล้ว ว่าฉันมันก็เป็นแค่หมากเดินเกมตัวหนึ่ง ที่ทำตามคำสั่งของพวกเขาเท่านั้น หรือต่อให้คุณโกรธ คุณก็ควรจะกินอะไรให้อิ่มท้องไว้ก่อน ฉันรู้ว่าคุณเข้าใจเรื่องนี้ดีมากกว่าฉันอยู่แล้ว"
วิกกี้จ้องมองเธอด้วยความเย็นชา หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “เอามันมา”
แอมเบอร์หยิบขนมปังขึ้นมา ก่อนจะป้อนเธอทีละนิด
ถึงแม้ว่าสถานการณ์ที่ต้องมากินแบบนี้ จะค่อนข้างน่าละอาย แต่วิกกี้ก็ไม่ได้บอกให้แอมเบอร์แก้มัดเธอ
เธอรู้ดีว่าต่อให้เธอขอร้องอ้อนวอน คนพวกนี้ก็จะไม่มีทางเห็นด้วยอย่างเด็ดขาด
แต่เธอก็ยังคงมั่นใจในทักษะของตัวเอง และคนเหล่านี้ก็รู้เรื่องนี้ดีเช่นเดียวกัน
หากพวกเขายอมแก้มัดเธอจริง ๆ สถาการณ์คงจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันในทันที ดังนั้นพวกเขาจะไม่มีทางเห็นด้วยกับมันอยู่ดี
วิกกี้ไม่ต้องจำเป็นต้องเปลืองแรงอีกต่อไป เมื่อเธอกินขนมปังเสร็จ แอมเบอร์ก็ป้อนน้ำให้เธอสองสามจิบ ก่อนที่เธอจะเอนตัวพิงกับผนังรถบรรทุกอีกครั้ง
เธอมองไปที่แอมเบอร์ แววตาของเธอดูไร้ชีวิตชีวา แต่ก็ไม่มีความเป็นศัตรูอีกต่อไป
เธอถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “พวกเขาจะพาฉันไปที่ไหนเหรอ?”
แอมเบอร์บิดฝาขวดน้ำ ก่อนจะวางมันไว้ข้าง ๆ เธอ พลางพูดว่า "คุณจะเชื่อฉันไหมถ้าฉันจะบอกว่า ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน"
วิกกี้ถอนหายใจออกมาด้วยความเย็นชา
แอมเบอร์พูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันไม่แน่ใจจริง ๆ”
หลังจากหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดเสริมขึ้นมาว่า “แต่ฉันขอแนะนำให้คุณล้มเลิกความคิดที่จะหลบหนีซะเถอะ เพราะการที่พวกเขาจับตัวคุณมาได้นั้น มันหมายความว่าพวกเขาได้เตรียมการมาเป็นอย่างดีแล้ว ต่อให้คุณหนีไป คุณก็ไม่มีทางหนีพ้นหรอก และถ้าคุณยังฝืนที่จะดึงดันต่อไป พวกเขาก็คงจะทำร้ายคุณอย่างแน่นอน”
วิกกี้พูดจาเยาะเย้ยออกมา
“เธอคิดว่าฉันยังกลัวเจ็บอยู่เหรอ?”
แอมเบอร์ตกใจ
เธอถอนหายใจออกมา พลางพูดว่า "ฉันก็แค่ให้คำแนะนำกับคุณเท่านั้น ส่วนคุณจะทำหรือไม่ทำอะไรนั้นมันก็เป็นเรื่องของคุณ"
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอพลิกตัวไปด้านหนึ่ง ก่อนจะหลับตาลงและเอียงศีรษะพิงกับผนังรถ
วิกกี้เห็นว่าแอมเบอร์หยุดพูดแล้ว เธอจึงไม่รบกวนแอมเบอร์อีกต่อไป เพราะท้ายที่สุด เธอก็ได้ฟังทุกเหตุการณ์ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นจากปากของแอมเบอร์แล้ว ส่วนที่เหลือ ไม่ว่าแอมเบอร์จะปฏิเสธที่จะบอกเธอ หรือเธอไม่รู้จริง ๆ อย่างน้อยในตอนนี้ เธอคงไม่สามารถทำให้เธอพูดออกมาได้อีก
รถบรรทุกกำลังขับอยู่บนถนนทางลูกรัง ในตอนนี้ดวงตาของเธอเริ่มหนักขึ้น เธอจึงหลับตาลงพลางเอนตัวพิงกำแพงเพื่องีบหลับ
เวลาผ่านไป
รถบรรทุกหยุดแล่นกะทันหัน ก่อนจะเร่งความเร็วและไปต่อ
วิกกี้สดุ้งตื่นและลืมตาขึ้นมา เพราะแรงเบรกรถฉุกเฉินเมื่อครู่นี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก