วิกกี้ขมวดคิ้วเข้าหากันอีกครั้ง ก่อนจะยกมือขึ้นมาทาบไว้บนหน้าผากของเธอเอง
เกรกอรีรีบเอื้อมมือไปจับหน้าผากของเธอ ด้วยความประหม่าในทันที น้ำเสียงของเขาฟังดูเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
"เธอเป็นยังไงบ้าง? ปวดหัวรึเปล่า? หรือว่ารู้สึกไม่สบายตรงไหน?
วิกกี้มองเขาด้วยความว่างเปล่า
สักพักเธอก็ส่ายหัว “เปล่า ฉันรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยนะ แต่ตอนนี้ฉันโอเคแล้ว”
เธอพูดพลางหันหน้ามองไปรอบ ๆ
วิกกี้เห็นว่าภายในห้องเต็มไปด้วยผู้คน จริง ๆ แล้วทุกคนรออยู่ข้างนอกห้องนั่งเล่น แต่เมื่อพวกเขารู้ว่าเธอฟื้นแล้ว พวกเขาจึงรีบเข้ามา ก่อนจะคิดว่าพวกเขาอาจจะส่งเสียงดังเกินไป เพราะเธอเพิ่งฟื้นขึ้นมา พวกเขาจึงหยุดนิ่งอยู่กับที่และไม่พูดอะไรเลย
เธอมองดูพวกเขาด้วยความว่างเปล่า พลางถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับทุกคนเหรอคะ? ทำไมพวกคุณถึงพากันมาที่นี่? แล้วทำไมต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นด้วยล่ะคะ?”
เนลล์ขมวดคิ้ว เธอไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่เธอรู้สึกว่าร่างกายของวิกกี้มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นโดยที่เธอไม่รู้ตัว
ตามที่คาดไว้ วิกกี้มองลงมาที่ร่างกายของเธอในวินาทีถัดมา
รูม่านตาของเธอขยายออกอย่างรวดเร็ว
“เอ๊ะ? ทำไมฉันถึงใส่ชุดแต่งงาน? เกรกอรี ชุดแต่งงานของเรายังมาไม่ถึงเลยนี่? นายบอกว่านักออกแบบเอมิลี่ต้องเปลี่ยนขนาด และจะส่งมาภายในสัปดาห์หน้าไม่ใช่เหรอ”
สีหน้าของเกรกอรีเริ่มเปลี่ยนไป
แววตาของเขาหม่นหมองลงทันที
เธอส่งชุดแต่งงานไปปรับขนาดเมื่อครึ่งเดือนก่อน แสดงว่าความทรงจำของเธอย้อนกลับไปเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว?
ใบหน้าของเขาไร้ความรู้สึก แต่เขากลับไม่ได้บอกความจริงกับวิกกี้ เขาเพียงแค่ลูบแก้มของเธอเบา ๆ เท่านั้น
เกรกอรีสั่งพ่อบ้านออสบอร์นว่า “ดูแลนายหญิงด้วย”
เมื่อพูดจบเขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไป
ฝีเท้าของชายผู้นั้นราวกับลมกระโชกแรง เขาหายตัวไปในพริบตา
วิกกี้สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่พ่อบ้านออสบอร์น จากนั้นก็เหลือบมองไปที่เนลล์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเธอเท่าไรนัก
ใบหน้าของเธอสดใสขึ้น
“เนลลี่ ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ล่ะคะ? แล้วกิดเดียน พวกคุณเพิ่งจะกลับบ้านกันไปไม่ใช่เหรอ? ทำไมพวกคุณทั้งสองคนถึงกลับมามาที่นี่อีก? ยังไม่ถึงวันแต่งงานของเราเลยคะ คุณทั้งคู่มาที่นี่ล่วงหน้าเพื่อพักผ่อน หรือมาหาเราคะ?”
ทุกคนรู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก จนถึงตอนนี้แล้ว ทำไมเธอถึงยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?
เธอ… สูญเสียความทรงจำของเธอจริง ๆ เหรอ?
นิ้วของเนลล์เกร็งขึ้น ขณะที่เดินเข้าไปหาเธอ
เธอนั่งลงข้าง ๆ กับวิกกี้พลางยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน แล้วพูดว่า “ใช่แล้ว เรามาพักผ่อน เรารู้ว่าคุณและเกรกอรีอยู่ที่นี่ เราจึงรีบมาหาคุณค่ะ”
เธอพูดพลางลูบผมของวิกกี้เบา ๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยความเป็นห่วงว่า “คุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจ คุณบอกเราได้เลยนะ”
แม้ว่าวิกกี้จะเพิ่งฟื้น และกำลังรู้สึกมึนงง แต่เธอก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
วิกกี้สูญเสียความทรงจำ แต่เธอไม่ได้โง่ เธอมองไปที่เนลล์ และเห็นสีหน้ากังวลใจของคนอื่น ๆเธอถามว่า “… มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับฉันหรือเปล่า?”
ห้องถัดไป
เกรกอรีจ้องไปที่ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความเย็นชา
“พูดมาสิ เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่?”
ใบหน้าของชิม่อนดูผ่อนคลาย ขณะที่นั่งจิบชาของเขาอยู่ตรงนั้นด้วยความใจเย็น
หลังจากดื่มชาเสร็จ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเกรกอรี ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
“ผมจะบอกคุณก็ได้ แต่ว่าคุณจะเชื่อในสิ่งที่ผมพูดรึเปล่า?”
เกรกอรีขมวดคิ้ว
ชิม่อนพูดออกมาเบา ๆ “อาการของเธอไม่ใช่อาการของโรคความจำเสื่อม แต่เป็นเพราะการหดตัวของสมองเลยทำให้สูญเสียความจำระยะสั้น อย่างที่ผมพูด เธอเป็นโรคทางพันธุกรรม อาการของโรคนี้จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อคนป่วยมีอายุครบตามกำหนดของมัน เมื่อมันเกิดขึ้น เนื้อเยื่อและอวัยวะทุกส่วนในร่างกายจะเริ่มเสื่อมสภาพเร็วขึ้นสิบหรือร้อยเท่า มันสามารถควบคุมได้โดยการใช้ยาให้ตรงเวลา และหยุดการลุกลามของโรคได้เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น ตอนนี้อาการของเธอเกิดจากการกินยาไม่ตรงเวลา มันจึงส่งผลให้เกิดอาการนี้ขึ้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก