บาทหลวงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวได้แล้ว!”
บรรยากาศอันแสนสุขได้ถูกทำลายลงไปแล้ว เกรกอรีและวิกกี้ยืนมองหน้ากัน ทั้งสองมีความคิดบางอย่างอยู่ในหัวใจ
เกรกอรีเห็นว่าเธอกำลังเสียอารมณ์ เขาจึงแค่หอมหน้าผากของเธอเบา ๆ เท่านั้น เธอเป็นสมบัติที่สุดแสนจะล้ำค่าของเขา และพิธีก็ได้สิ้นสุดลงแค่นี้
งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นหลังจากเสร็จพิธีแต่งงาน
เกรกอรีกลับมาที่โรงแรมพร้อมกับวิกกี้ เนื่องจากว่าเธอต้องเปลี่ยนเป็นชุดราตรีสำหรับงานเลี้ยง
เธอวางแผนที่จะนำของขวัญแต่งงานที่แขกของเธอได้มอบให้กลับไปด้วย
เช่นเดียวกับของขวัญของชิม่อน ฟลินเดอร์ แม้ว่าเธอจะเกลียดเขามากแค่ไหน แต่มันก็ดูไม่ควรที่จะปฏิเสธของขวัญจากเขาในที่สาธารณะ เพราะมันคงจะเป็นเรื่องที่ดูไร้มารยาทมาก
วิกกี้เอื้อมมือไปหยิบกล่องนั้นขึ้นมา และทันใดนั้นทุกสิ่งรอบตัวเธอก็กลายเป็นสีดำไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็เดินโซซัดโซเซ
เกรกอรีรีบเข้าไปประคองเธอเอาไว้ตามสัญชาตญาณ "เธอโอเคไหม?"
เธอใช้เวลาเพื่อปรับสมดุลของตัวเองครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธ
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร"
เขาขมวดคิ้วขึ้นมา
เกรกอรีสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเธอนั้นค่อนข้างซีด “เธอไม่สบายหรือเปล่า? หน้าตาของเธอดูซีด ๆนะ?”
วิกกี้โบกมือ “ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ วันนี้ฉันคงจะตื่นเช้าเกินไป ฉันเลยรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”
การที่ต้องดูดีอยู่เสมอถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเจ้าสาว เธอตื่นนอนตั้งแต่ตีสี่ เพื่อแต่งหน้าและแต่งตัวให้เข้ากับชุดแต่งงาน มันจึงทำให้เธอนอนหลับไม่เพียงพอ
เกรกอรีสงบลงเมื่อคิดแบบนั้น
ทั้งสองคนพากันกลับไปที่โรงแรม พร้อมกับผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ เพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่ถูกจัดขึ้นที่โรงแรม
เกาะนี้ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามา ตั้งแต่ที่เกรกอรีได้เป็นเจ้าของแล้ว มันจึงทำให้โรงแรมที่นี่ไม่มีแขกคนอื่นเลย
สิ้นเสียงประกาศ ผู้คนก็ถูกส่งไปที่ห้องพักในโรงแรม ห้องโถง ห้องครัว และงานทั่วไป
เมื่อพ่อบ้านออสบอร์นอยู่ด้วย สิ่งต่าง ๆ ก็ถูกดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
วิกกี้เดินไปนั่งที่โซฟาทันทีที่เธอกลับเข้ามาถึงห้องพักของโรงแรม
เกรกอรีย่นหน้าผาก เมื่อเขาเห็นว่าสีผิวของเธอได้เปลี่ยนไปจนน่าตกใจ
“วิก วิก”
เขาเรียกชื่อเธอสองครั้ง พลางตบไหล่ของเธอเบา ๆ
วิกกี้หันกลับมามองเขา แต่สายตาของเธอเริ่มพร่ามัว
“เธอโอเคไหมวิก? ทำไมหน้าของเธอถึงได้ซีดขนาดนี้”
ครั้งนี้เธอไม่ได้ตอบเขา
วิกกี้เป็นลมหมดสติ ร่างกายของเธอล้มลงไปกองบนโซฟา
ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าว จะเกิดขึ้นในงานแต่งงานที่สุดแสนจะพิเศษเช่นนี้
เกรกอรีเรียกหมอมาทันทีหลังจากที่วิกกี้เป็นลม เมื่อหมอได้วินิจฉัยเธอ หมอก็พบว่าเธอมีอาการที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับคนทั่วไป เขาจะรักษาเธอได้อย่างไร ในเมื่อหมอเองก็ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่เธอหมดสติได้เลย?
ผู้ร่วมงานคนอื่นรีบเข้ามาที่นี่ทันทีเมื่อทราบข่าว พวกเขาพากันรออยู่ข้างนอกห้อง
เกรกอรีโอบกอดวิกกี้ขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียง หมอก็กำลังพยายามวินิจฉัยอาการของเธอ เขาถามด้วยความกังวลว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่? พูดอะไรออกมาสักอย่างสิหมอ!"
หมอคนนี้ประจำการอยู่ที่คฤหาสน์ของพวกเขาอยู่แล้ว เขาคาดไม่ถึงว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นในช่วงวันอันแสนสุขเช่นนี้
ขอบคุณพระเจ้าที่พ่อบ้านออสบอร์นเป็นคนละเอียดถี่ถ้วน แม้ว่าเขาจะไม่คิดว่าวิกกี้และเกรกอรีจะได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าแขกของพวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เมื่อเกาะถูกปิดตายแบบนี้ มันดีกว่าที่เขาจะพาหมอมาด้วย
เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าหมอจะมีประโยชน์มากขนาดนี้
หมอไม่สามารถหาข้อวินิจฉัยได้ แม้ว่าเขาจะตรวจสอบทุกส่วนของร่างกายของเธอแล้วก็ตาม
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดตะกุกตะกักออกมา “อาการของเธอค่อนข้างซับซ้อน นายน้อยเกรแฮม ผมไม่สามารถระบุได้จริง ๆ ว่าทำไมนายหญิงถึงเป็นลม เราอาจจะต้องการเครื่องมือแพทย์ แต่บนเกาะนี้ไม่มี ผมจึงช่วยเธอไม่ได้”
สีหน้าของเกรกอรีหม่นหมองลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก