EP12
ใบหน้าหวานชาวาบเมื่อได้ยินคำพูดของทิศเหนือ เธอมันโง่เองที่พาตัวเองมาช่วยเขาจนบาดเจ็บ ทั้งๆ ที่รู้ว่าทำไปก็เปล่าประโยชน์ ร่างเล็กถอยห่างออกมาจากคนตัวโตมือบางกุมต้นแขนที่โดนรอยมีดบาดเอาไว้แน่นไม่ให้เลือดไหลซึมออกมามากกว่าเดิม…
“เธอมาที่นี้ทำไม?” ทิศเหนือย่างกรายเข้ามาหาเธอแล้วกระชากมือเรียวที่กำลังปิดแผลเอาไว้ขึ้นมา มือหนาออกแรงบีบข้อมือเธอแน่น
“นิ…แอบตามคุณมา” นิวาโกหกออกไปเพื่อเอาตัวรอด
“อยากเอาต่อ? แต่เสียใจด้วยนะฉันหมดอารมณ์แล้ว” ชายหนุ่มเค้นยิ้มออกมา พร้อมกับเหลือบมองรอยแผลที่ต้นแขนเธอ “ส่วนแผลแค่นี้ คงมีปัญญาช่วยตัวเองหรอกใช่มั้ย”
“…ค่ะ นิไหว” เธอเอ่ยตอบสายตาเบือนมองไปทางอื่นไม่อยากโชว์ความอ่อนแอให้คนตรงหน้าเห็นอีกครั้ง ถึงแม้ร่างกายและข้างในจะเจ็บขนาดไหน ปากก็ต้องบอกว่าไหว เพราะต่อให้เธอกำลังจะตายต่อหน้าเขาก็ไม่สนใจอยู่ดี…
“…”
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเขาหันหลังให้เธอและเดินจากไปเรื่อยๆ อย่างไร้เยื่อใย นิวามองภาพตรงหน้าด้วยความพล่าเบลอ ในใจเกิดคำถามขึ้นมา นี้มันครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้วที่เธอต้องเสียน้ำตา…
โรงพยาบาล…
“เสร็จแล้วค่ะ”
“…”
“คนไข้คะ ทำแผลเสร็จแล้วค่ะ” เสียงของพยาบาลสาวเอ่ยเรียกเด็กสาวที่กำลังนั่งเหม่อลอย นิวาจึงดึงสติลับมาแล้วมองไปที่ต้นแขนของตัวเอง
“ขอบคุณค่ะ…” เธอเอ่ยตอบเสียงแผ่วเบาเมื่อทำแผลเสร็จ ก่อนจะเดินลงมาจากเตียง พร้อมกับรับยาแล้วเดินออกมาข้างนอก หญิงสาวเดินทอดน่องตามริมฟุตบาตด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว เหตุการณ์ในวัยเด็กย้อนเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ
เด็กผู้หญิงวัยแปดขวบที่แม้กระทั่งหน้าพ่อกับแม่เธอก็ยังไม่เคยเห็น เธอจำความได้ก็โตขึ้นมากับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ในวันนั้นบ้านที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายถูกไฟไหม้แม่ครูและเด็กๆ คนอื่นเสียชีวิตมีเพียงเธอที่รอด…
…นิวาจึงอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดด้วยการร้อยพวงมาลัยขายประทังชีวิตเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอพอทำได้ ที่พักอาศัยของเธอคือข้างสะพานลอยเหมือนเด็กเร่ร่อน นิวาหยุดอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่งมันคือที่ทำแท้ง ความรู้สึกผิดยิ่งตอกย้ำเธอเข้ามาอีก…
สามปีที่แล้ว…
ร่างเล็กเดินลูบท้องตัวเองมาหยุดอยู่ที่แห่งหนึ่ง ดวงตาสั่นระริกผ่านการร้องไห้มาหลายชั่วโมงก่อนที่เธอจะตัดสินใจมาที่นี้ วันที่เธอจะพรากชีวิตน้อยๆ ที่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่เธอก็เต็มใจดูแลเขา ทวาพ่อของลูกกลับข่มขู่ให้เธอมาที่นี้…
“แม่ขอโทษนะ…แม่รักหนู…ฮึก…อย่าโกรธแม่นะลูก…ปะ…ไปอยู่กับคนที่ดีกว่าแม่นะ…อึก” เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาเจือปนความเสียใจ ใบหน้าหวานเปียกชุ่มไปด้วยคราบน้ำตา เธอก้มหน้าร้องไห้ราวจะขาดใจอยู่รอมร่อ พอเหลือบมองเวลาที่ทิศเหนือกำหนดเพราะเขาดักรอเธอบนรถ
มือบางก็ต้องยกขึ้นปาดน้ำตาออกแล้วก้าวเท้าเข้าไปข้างในที่มีหญิงสาวสามสี่คนนั่งข้างกายกับแฟน พวกเขายังดีกว่าเธอที่ต้องพรากลูกเพราะไม่พร้อมแต่ทุกคนก็ต่างรักกัน และคอยอยู่เคียงข้าง ต่างกับเธอที่ไม่มีแม้แต่คนที่คอยยืนอยู่ข้างกาย กลับกลายเป็นว่าพ่อของลูกเป็นคนไม่ต้องการเด็กทั้งที่เธอไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบอะไร…
“เชิญทางนี้เลยค่ะ” เสียงเรียกของพนักงานดึงให้เธอต้องก้าวเท้าเดินเข้าไปหา ด้วยความรู้สึกผิดและหวาดกลัวจับใจ… “พร้อมรึเปล่าคะ ถ้าไม่พร้อมก็กลับไป”
“…” นิวาที่กลั้นน้ำตาไม่อยู่สักวินาทีก้มหน้าหลบสายตา ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือที่สั่นเทาจับปากกาแล้วจรดชื่อลงบนกระดาษอย่างเชื่องช้า พร้อมกับหยดน้ำตาที่หยดเหมาะลงบนกระดาษ ภาพตรงหน้าของเธอพล่าเบลอ…
“เสร็จแล้วก็ไปนั่งรอคิว”
“ค่ะ…” น้ำเสียงแผ่วเบาตอบออกไปแล้วเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ มือบางยกขึ้นปิดหน้าปล่อยโฮออกมาไม่แคร์สายตาของใครที่มองมา ร่างกายสะอื้นจนตัวโยนไร้คนปลอบใจ จนเวลาผ่านไปนานนับเท่าไหร่รู้ตัวอีกทีก็ถึงคิวของเธอ เด็กสาวเดินเข้าไปข้างใน พลางยกแขนกอดตัวเองไว้แน่นแล้วเหลือบมองรอบๆ เตียง
และแล้ววันที่เธอพรากชีวิตลูกก็มาถึง…
พอทุกอย่างเสร็จสิ้น ร่างกายอ่อนแรงก็เดินออกมาขึ้นรถ ใบหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เธอหายใจรวยริน เพราะร่างกายเสียเลือดมาก เสียงกรีดร้องของตัวเองยังคงวกวนในห้วงความคิดตลอดเวลา…
“เก็บเรื่องนี้ให้เงียบล่ะ ถ้าไม่อยากตายตามเด็กเหี้ยนั้นไป” น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยบอก สายตายังคงเพ่งมองไปข้างหน้าไม่แม้แต่จะมองคนข้างกาย ก่อนที่มือหนาจะกดลดกระจกลงแล้วพ้นควันบุหรี่ออก พร้อมกับโยนมันออกนอกหน้าต่างไป…
“…”
“ใบ้แดก?”
“ค่ะ”
“แล้วก็ลงไปจากรถฉันด้วย ฉันมีธุระต่อ”
“นิไม่ไหว…ไปส่งนิก่อนได้มั้ย” นิวาขอร้องคนข้างกาย แต่มีเพียงเสียงปลดล็อกประตูรถเป็นเพียงคำตอบ
“ลงไป”
“…” นิวาฝืนร่างกายเปิดประตูลงมาจากรถ ในวินาทีต่อมารถยนต์คันหรูก็ขับพุ่งออกไป ร่างกายมันก็ทรุดลงพื้นอย่างอัตโนมัติและภาพก็ตัดไป…
ปัจจุบัน…
ดวงตาคู่สวยเหม่อมองผิวน้ำที่กระทบกับแสงไฟบนสะพาน ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาทางสายตาก่อนที่ใบหน้าหวานจะเหม่อมองท้องฟ้า คิดถึงคนบนนั้นสุดหัวใจ…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทาสรัก