“นายรังเกียจฉันล่ะซิถึงไม่ยอมพูดยอมคุยเหมือนแต่ก่อน” หญิงสาวไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าเขาเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะเห็นน้ำตา
“ผมคือว่า...”
“ฉันเข้าใจไม่ต้องพูดหรอกผู้หญิงอย่างฉันมันสกปรกเกินไปไม่มีใครเขาอยากเขาใกล้หรอก” หญิงสาวลงจากรถและวิ่งขึ้นห้องไป
“เรามันบ้าจริงๆ” ชายหนุ่มด่าตัวเองและโกรธที่ไม่พูดความในใจให้หญิงสาวได้รับรู้
นาธาลเดินออกมาจากเรือนหลังเรือนเล็กและเห็นเพื่อนเดินเข้ามาหน้าบอกบุญไม่รับจึงไม่กล้าที่จะทักได้แต่มองตามหลัง
“ตอนไปก็ไปกับคุณยามีนะมันน่าจะแฮปปี้นะแต่ทำไมหน้าเป็นตะขอแบบนี้ได้ว่ะ งงจริงๆ” นาธาลบ่นกับตัวเองและเดินเกาหัวขึ้นไปบนตึก
มณีอินเร่งทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้เสร็จเร็วขึ้น ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเจ็บ “ก๊อก ก๊อก” หญิงสาววางมือจากงานที่ทำและเดินไปเปิดประตูให้
“มีอะไรจ้ะอารีอา”
“คุณท่านอูลดาให้มาเชิญคุณอินลงไปพบที่ห้องนั่งเล่นค่ะ” เด็กสาวบอก
“จ้ะรอเดี๋ยวนะ” หญิงสาวบอกและเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้ดูสดชื่นขึ้น “ฉันพร้อมแล้วไปกันเถอะ”
“คุณอินมาแล้วค่ะ” เด็กสาวรายงาน อูลดาวางหนังสือลงและลุกมานั่งที่โซฟาตอนรับแขก มณีอินยกมือไหว้ “นั่งซิหนูอิน” หญิงสาวจึงนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้าม
“ฉันอยากรู้เรื่องของพ่อหนูเล่าให้ฉันฟังได้ไหม”
“ได้ซิคะ หลังจากที่ท่านกลับมาจากเมืองไทยได้ไม่นานพ่อก็เป็นโรคมะเร็งที่กระเพาะมารู้ตัวตอนที่มันลุกลามมากแล้วหมอจึงช่วยอะไรไม่ได้แต่พ่อก็ไม่เคยยอมแพ้มันท่านอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับครอบครัว ท่านลาออกจากราชการมาทำสวนกล้วยไม้เล็กๆที่บ้านและเมื่อถึงเวลาท่านก็ไปอย่างสงบแต่ก่อนจะสิ้นลมท่านบอกว่าได้ให้สัญญากับเพื่อนชาวต่างชาติเอาไว้ว่าจะให้ลูกๆมาแต่งงานกัน” หญิงสาวทำหน้าเศร้า
“พ่อหนูเป็นคนรักษาสัญญาน่าภูมิใจนะที่มีพ่อแบบนี้ ฉันไม่สงสัยเลยที่พวกหนูทุกคนเป็นคนดีแบบนี้เพราะมีแม่แบบที่ดีนี้เอง” ผู้สูงวัยกล่าวอย่างชื่นชม
“ผิดกับฉันที่มีเมียตั้ง 2 คนแต่ก็มีลูกแค่ 3 คน จามาลและยามีนะเป็นลูกของเมียคนแรกที่ฉันรักมาก ส่วนฮาติมเป็นเพราะฉันเมาจึงทำให้ผู้หญิงท้องฉันจึงต้องรับเขามาเลี้ยงดูถึงเป็นความผิดพลาดแต่ฉันก็รักเขาเช่นเดียวกับจามาลและยามีนะ”
“แล้วคุณผู้หญิงเสียยังไงคะ ขอโทษนะคะที่อินเสียมารยาท” หญิงสาวกล่าวขอโทษเมื่อรู้สึกว่าจะถามก้าวกายเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายมากไป
“ไม่เป็นไร เขาตายหลังจากคลอดยามีนะได้สองอาทิตย์หมอบอกว่าเธอตกเลือดมากและเป็นโรคร้ายแต่เธอไม่ยอมบอกฉันทั้งที่หมอบอกเธอเอาไว้แล้วว่าจะตั้งท้องไม่ได้อีกแต่เธอก็ฝืนจนมียามีนะออกมา ฉันเสียใจแทบบ้าแต่เมื่อเห็นหน้ายามีนะแล้วฉันก็ต้องตั้งสติใหม่เพราะลูกสาวคนนี้ที่เมียของฉันเหลือไว้ให้เป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิตฉัน ถ้าเธอมีลูกแล้วก็จะรู้เอง” อูลดายิ้มให้หญิงสาวที่นั่งฟังนิ่งอย่างสงสารเขาจับใจ
“แต่ท่านก็เก่งนะคะที่เลี้ยงพวกเขาทั้ง 3 คนมาได้และเป็นคนดีเหมือนกัน” หญิงสาวบอก
“ฉันก็ต้องเพิ่งพี่สาวฉันเหมือนกันเพราะเป็นผู้หญิงรู้เรื่องแบบนี้ดี”
“มิน่าล่ะคุณซาฮาจึงรักคุณจามาลและคุณยามีนะมาก” หญิงสาวบอก
“ใช่ แล้วหนูมาอยู่ที่นี่ขาดเหลืออะไรบอกฉันได้นะ”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้เขาและขอตัวกลับขึ้นมาทำงานต่อ
ตั้งแต่วันที่ยามีนะกลับมาจากตลาดในตัวเมืองกับกาซิม หญิงสาวก็มีท่าทีซึมไปและพยายามหลบหน้ากาซิมตลอดเวลา แม้แต่เวลาที่เดินสวนกัน
“ยามีนะไปไหนมาหรือ เดี๋ยวนี้พี่ไม่เคยเห็นหน้าเจ้าเลย” จามาลเอ่ยถามน้องสาวหลังจากที่กลับมาจากที่ทำงาน กาซิมถือกระเป๋าเอกสารขึ้นมาส่งให้และไม่ยอมมองสบตาหญิงสาวแม้แต่น้อยยิ่งทำให้ฝ่ายหญิงน้อยใจมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง