มณีอินใจหายวูบเมื่อรู้ถึงชะตากรรมของตนเองแต่ก็ยังฝืนใจแข็งต่อรองกับเหล่าโจรร้าย
“พวกแกต้องการตัวฉันคนเดียวปล่อยน้องสาวคนนี้ไปดีกว่านะ”
“ปล่อยให้โง่นะซิ ขืนปล่อยมันก็ไปแจ้งตำรวจมาจับพวกข้าพอดี” เจ้าคนที่นั่งข้างมณีอินตวาดใส่
“เธอไม่บอกหรอกจริงไหมมีนะ” หญิงสาวหันไปพยักหน้ากับยามีนะ
“ไม่นะพี่อินพี่ไปไหนหนูไปด้วย หนูไม่ยอมให้พี่ตายหรอกและพี่จามาลก็คงไม่ยอมหรอก เราหายไปเขาต้องออกตามหาแน่” เด็กสาวบอก มณีอินถอนหายใจเวลาเด็กคนนี้ดื้อก็ดื้อตาใสเสียจริงๆเลย
“ฮ่า ฮ่าฮ่า ฮ่า กว่ามันจะรู้พวกเธอก็ไปอยู่ประเทศไหนแล้วก็ไม่รู้หรือบางทีอาจกลายเป็นศพให้เสือสางกินไปแล้ว”
“ใช่ แต่ก่อนจะตายพี่จะขอนายขอให้พวกน้องๆได้มีความสุขก่อนตายนะจ้ะ” พวกมันหัวเราะออกมาพร้อมกันและมุ่งตรงออกนอกเมืองซึ่งยามีนะก็ไม่คุ้นเคยกับเส้นทางนี้เลย ตลอดทางเกือบ 1 ชั่วโมงที่พวกมันพาหญิงสาวทั้งสองมาจะมีโทรศัพท์ดังมาเป็นระยะๆ และมันก็รับคำสั้นๆเท่านั้นว่า ครับ แล้วก็วางสายหญิงสาวจึงไม่รู้ว่าคนที่จ้างพวกมันมาคือใคร ยามีนะมองเห็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งด้านหน้าจึงกระซิบบอกหญิงสาว
“พี่อินมีนะเห็นหมู่บ้านอยู่ด้านหน้า” มณีอินชะเง้อมอง
“ไม่ต้องมองหรอกที่นั้นแหล่ะคือที่ๆพวกน้องสาวจะต้องไปอยู่” มันหันมาบอก ม๊อินหันมาสบตามันอย่างแค้นเคือง “อย่าให้ฉันหลุดไปได้แล้วกัน” หญิงสาวอาฆาตและรู้สึกระบมที่หัวและคิดว่าเลือดคงแห้งกรังไปแล้ว รถแล่นเข้าเขตหมู่บ้านช้าแต่ไม่มีใครสังเกตคนในรถแม้แต่น้อย สองสาวจะร้องให้คนช่วยก็มีปืนมาจ่ออยู่ที่กลางหลังจึงทำให้ร้องไม่ออก มณีอินจดจำทุกรายละเอียดของสถานที่เอาไว้และเหมือนกับว่าพวกมันจะรู้ทันเมื่อพ้นบ้านคนมาแล้วมันจึงใช้ผ้าคลุมมาคลุมหน้าของทั้งสองเอาไว้พร้อมกับเอาผ้ามาปิดที่จมูกครู่ต่อมมาหญิงสาวก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย
ซาฮาเดินลงย่างตกใจเมื่อเข้าไปหาหลานสาวที่ห้องแต่กลับเจอแต่ความว่างเปล่า “มีใครเห็นยามีนะบ้างไหม”
“ไม่ครับอยู่ที่ห้องมณีอินหรือเปล่าครับป้า” จามาลถามและวางถ้วยกาแฟลง
“ไม่มีนะป้าไปดูมาแล้วห้องอื่นก็ไม่มี” หญิงสูงวัยเดินไปมาอย่างกระวนกระวาย เมื่อสาวใช้เดินเข้ามารายงาน
“เป็นไงเจอหรือเปล่า”
“ไม่เจอเลยค่ะ หาจนทั่วบ้านแล้ว”
“นายครับรถคันเก่าในโรงรถหายไปครับ” นาธาลวิ่งมารายงานเจ้านายหนุ่มเมื่อเข้าไปเอารถออกมาล้างและพบว่ารถได้หายไปหนึ่งคัน จามาลลุกพรวด
“แสดงว่าสองคนต้องไปด้วยกันแต่จะไปไหนกันแต่เช้า” ชายหนุ่มคิด
“จามาลออกไปตามน้องกับหนูอินนะเมื่อคืนป้าฝันเห็นแม่ของแกบอกว่าอันตรายแล้วก็ร้องไห้เดินหายไปทางห้องของยามีนะ ป้าใจคอไม่ดีเลย” จามาลเดินเข้าไปพยุงป้ามานั่งที่เก้าอี้
“เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ยเสียงดังไปทั้งบ้าน” อูลดามองหน้าพี่สาวที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“คุณมณีอินและยามีนะหายไปครับรถก็หายไปคันหนึ่งด้วย” จามาลบอกบิดา
“เขาอาจจะออกไปหาอะไรกินหรือออกไปซื้อของกันก็ได้นะครับพี่” อูลดาเดินมาตบหลังมือพี่สาวเบาๆ ซาฮามองหน้าน้องชาย
“แต่พี่มีลางสังหรณ์ที่แม้นนะแกก็รู้” ชายสูงวัยหน้าเสียเขารู้ดีว่าพรสวรรค์อันนี้ของพี่สาวเขาปฏิเสธไม่ได้เลย
“งั้นจามาลเราออกไปตามหาน้องสาวกับหนูอินให้ป้าแกหน่อยแกจะได้สบายใจ” ผู้เป็นบิดาสั่งซึ่งเขาเองก็รู้สึกหวั่นใจเช่นกัน
ชายหนุ่มพร้อมกับคนสนิทอีกสองคนจึงรีบขับรถออกไปอย่างเร็ว จามาลเองก็เป็นห่วงทั้งคู่เหมือนกันส่วนกาซิมก็นั่งก้นแทบจะไม่ติดพื้นเบาะเพราะสายตาสอดส่ายไปทั่วยิ่งกว่าเหยี่ยวเสียอีกเขาเองก็เป็นห่วงยามีนะมากไม่แพ้จามาลเช่นกัน
สองสาวถูกพาตัวมาขังไว้ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกมาจากตัวหมู่บ้านประมาณ 6-7 กิโลเมตร สภาพห้องดูสะอาดตาเหมือนกับเคยมีคนมาอยู่ ข้างของเครื่องใช้มีอยู่อย่างครบครันพวกคนร้ายช่วยกันอุ้มร่างของสองสาวเข้ามาวางบนเตียงคู่กัน หนึ่งในนั้นกดเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกับนายคนที่จ้างพวกมันมา
“เรียบร้อยแล้วครับ จะให้พวกผมทำยังไงต่อดีครับหรือว่านายจะยกให้พวกผมเลยสวยเป็นบ้าเลยนะครับนาย” มันกล่าวด้วยสายตาหื่นกามและมองมายังร่างที่นอนสลบอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง