หลินชิงเหอรู้แน่ชัดว่าโจวชิงไป๋อยากได้ลูกมากขนาดไหน คงเป็นเพราะเขาไม่เคยได้มีส่วนร่วมติดตามการเติบโตของเด็กชายสามพี่น้องเลย เขาจึงอยากมีส่วนร่วมบ้างสักครั้ง
หลินชิงเหอเข้าใจเรื่องนี้และเต็มใจที่จะมีลูกให้เขาอีกคนหนึ่ง
แต่ประเด็นก็คือ เธอให้กำเนิดบุตรไม่ได้จริง ๆ
หลังเธอบอกโจวชิงไป๋เกี่ยวกับเรื่องที่แอบไปทำหมันเงียบ ๆ แล้ว โจวชิงไป๋ก็มีท่าทางตกตะลึงไป
เขาอยากมีลูกมาก แต่ก็ไม่สามารถทำให้มีได้ และเกิดความสงสัยมาตลอดว่าคงเป็นเพราะร่างกายของเขามีปัญหา
เขาไม่คิดเลยว่าภรรยาจะแอบไปทำหมันลับหลังเขา
ต้องบอกว่าโจวชิงไป๋ถึงกับรู้สึกโมโห
โมโหเดือดดาลอย่างมากด้วย
เขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวเพื่อขบคิดเรื่องนี้คนเดียวจึงเดินออกมาด้วยใบหน้าบึ้งตึง ซึ่งหลินชิงเหอเห็นแล้วก็ไม่กล้าเรียกเขา
“เวรกรรมจริง ๆ เล้ย!” หลินชิงเหออุทานออกมาอย่างอดไม่ได้
เจ้าของร่างเดิมช่างสร้างแต่เรื่องยุ่งให้เธอจริง ๆ แต่เธอจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดีล่ะ? เธอเองก็จนปัญญาเหมือนกัน
ใครจะรู้ว่าเธอจะโหดร้ายขนาดนี้
หลินชิงเหอไม่ได้อยู่ในห้องอีกต่อไป เธอออกไปเดินเล่นพร้อมกับหิ้วถุงผ้าใบหนึ่ง
ในตอนนี้ทิวทัศน์ของเมืองหลวงเก่าในปัจจุบันยังเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า หลินชิงเหอทำได้เพียงเดินด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ จากการที่เธอรู้หนังสือทั้งหมดและแต่งกายเรียบร้อยรัดกุม เธอก็ดูเหมือนเลขาธิการสาวคนหนึ่ง
ตลอดทางเธอจึงไม่เผชิญกับความยากลำบากนัก
แล้วหลินชิงเหอก็เดินมาถึงตรอกสายหนึ่ง
“แค่ก ๆ” หญิงชราร่างเล็กคนหนึ่งกำลังผิงไฟอยู่หน้าเตาและเสียงไอก็ดังออกมาจากเรือนหลังหนึ่งเบื้องหลังเธอ หลินชิงเหอเหลือบมอง และพบกับเด็กอายุราว 5 ถึง 6 ขวบคนหนึ่งที่มีร่างกายผอมแห้ง
“คุณป้าคะ เด็กคนนี้เป็นหวัดอยู่ คุณต้องพาเขาไปโรงพยาบาลนะคะ” หลินชิงเหอเอ่ยกับหญิงชรา
เธอใช้สำเนียงปักกิ่งดั้งเดิมพูดกับนาง และท่าทางของเธอก็ทำให้หญิงชราร่างเล็กไม่ได้คิดเลยว่าเธอเป็นคนต่างถิ่น
นางเหลือบมองเธอแล้วก็ถอนหายใจ “การไปโรงพยาบาลมันใช้เงินมากเลยจ้ะ”
นางจะไม่รู้สึกเดือดร้อนไปกับหลานชายได้อย่างไร? ไม่ว่านางจะเดือดร้อนขนาดไหน นางก็ต้องมีเงิน แล้วก็ต้องได้กินอิ่มท้องด้วยถึงจะดีขึ้น
“คุณยายครับ ผมกินมันได้ไหม” เด็กน้อยกวาดสายตามองหลินชิงเหอแล้วก็เอ่ยกับคุณยายของเขา
“หลานต้องรอก่อนนะ” หญิงชราร่างเล็กตอบ
หลินชิงเหอหยิบหมั่นโถวข้าวโพดลูกหนึ่งออกมาจากถุงผ้าที่เธอหิ้วมาด้วย ซึ่งที่แท้จริงแล้วหมั่นโถวนี้มันมาจากมิติในมือของเธอ
“หมั่นโถวนี้หนูซื้อมาจากภัตตาคารน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าจะขอแลกกับน้ำแก้วหนึ่งของคุณป้าได้ไหม” หลินชิงเหอบอก
หมั่นโถวข้าวโพดมีแป้งอยู่เป็นจำนวนมากและส่งกลิ่นหอมของแป้งสาลีขาวลอยอบอวลไปไกล
ดวงตาของหญิงชราร่างเลิกเบิกกว้างแต่นางก็ยังไม่ขยับ ได้แต่มองเธอ “นางหนู หนูไม่ต้องสุภาพมากขนาดนี้ก็ได้ น้ำแค่แก้วเดียวเอง”
“คุณป้ารับไปเถอะค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยเร้า เธอบิหมั่นโถวออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ และกินให้ดูว่ามันไม่มีพิษอะไร จากนั้นก็ยัดหมั่นโถวข้าวโพดลูกนั้นให้หญิงชราร่างเล็ก
ถึงตอนนี้เองหญิงชราร่างเล็กจึงรับหมั่นโถวไว้ จากนั้นนางก็พาหลินชิงเหอเข้าไปในบ้านเพื่อดื่มน้ำและบอกหลานชายให้คอยดูแลเตาไฟไว้
“คุณยาย” หลานชายของนางเอ่ยพร้อมกับทำตาอ้อนแบบลูกสุนัข
“รีบกินเร็วเข้าแล้วอย่าให้คนอื่นเห็นล่ะ” หญิงชราร่างเล็กบิหมั่นโถวออกครึ่งหนึ่งแล้วส่งให้เขาพลางกระซิบบอกขณะยัดมันลงในมือของเด็กน้อย
เด็กชายตัวน้อยพยักหน้าและรีบสวาปามหมั่นโถวอย่างรวดเร็ว
จากนั้นหลินชิงเหอตามหญิงชราร่างเล็กเข้าไปในบ้าน “คุณป้าคะ คนที่อยู่แถว ๆ นี้เป็นใครเหรอคะ? ตรงนู้นมีแต่บ้านหลังใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย”
“นางหนู ดื่มน้ำก่อนเถอะ” หญิงชราร่างเล็กรินน้ำให้เธอถ้วยหนึ่ง
หลินชิงเหอเลื่อนไปไว้ข้างๆ ตัว เธอจะดื่มน้ำจากคนแปลกหน้าได้อย่างไรล่ะ? ต่อให้เป็นในยุคนี้ก็เถอะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...