หลินชิงเหอออกจากบ้านของหญิงชราไปแล้ว เธอจึงไม่ทันได้เห็นว่าลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานชายของหญิงชรารู้สึกดีใจมากขนาดไหนยามกลับมาที่บ้านและเห็นเนื้อหมู แป้ง และคูปองอาหารจำนวนมาก
คูปองอาหารที่ได้มาล้วนเป็นคูปองอาหารที่ใช้ได้ทั่วประเทศ เนื้อก็เป็นเนื้อหมูชั้นดี และแป้งก็เป็นแป้งสาลี การแลกเปลี่ยนของในครั้งนี้ช่างไม่ธรรมดาจริง ๆ
เรื่องนี้ทำให้หญิงชราร่างเล็กถึงกับเสียดายขึ้นมานิดหน่อย นางน่าจะเก็บสะสมของเอาไว้มากกว่านี้
แต่นางก็รู้ดีว่าหญิงสาวคนนั้นคงจะไม่มาหาอีก
เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องพิเศษอย่างหนึ่ง
หลินชิงเหอรู้สึกอารมณ์ดีอย่างมากในระหว่างทางที่เดินกลับที่พัก
ครั้งนี้เธอได้ทองแท่งใหญ่มาทั้งหมด 8 แท่ง เช่นเดียวกับหยก 6 ชิ้น ปิ่นหยก 2 อัน กำไลทองวงหนึ่ง และโถโบราณอีกใบหนึ่ง
ของพวกนี้ล้วนเป็นของดีทั้งนั้นเลย
หลินชิงเหอรู้ดีว่าของพวกนี้ไม่ใช่ของของหญิงชราร่างเล็กคนนี้หรอก พวกมันล้วนถูกเก็บมาจากข้างนอกทั้งนั้น
เธอจึงไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องผิดกับการแลกพวกมันด้วยของที่เธอมีอยู่
เพราะสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้จะยังคงอยู่ต่อไปราว 7 หรือ 8 ปี ซึ่งในช่วงเวลานี้ของสีทองสีเงินพวกนี้จะไม่มีราคาค่างวดอะไรเลย
การแลกเปลี่ยนของมากมายเหล่านี้มาเป็นของของเธอเองถือว่าไม่ใช่เรื่องขาดทุนอะไรเลย
เนื่องจากในฤดูหนาวแบบนี้ ของที่เธอให้หญิงชราไปยังมีประโยชน์มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
หลินชิงเหอกลับบ้านพักรับรองแขกอย่างยินดีปรีดา ทันทีที่เธอกลับมา โจวชิงไป๋ก็ได้นั่งรอเธออยู่บนเตียงแล้ว
เมื่อเห็นหญิงสาวกลับมา ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนในทันที
“ฉันขอเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่ฉันเกลียดมากที่สุดก็คือความรุนแรงในครอบครัว ถ้าคุณกล้าตบตีฉัน ฉันจะถือว่าการแต่งงานระหว่างเราเป็นโมฆะ!” หลินชิงเหอเอ่ยเตือนในทันที
โจวชิงไป๋ดึงตัวผู้หญิงไร้หัวใจที่หายไปจากห้องหนึ่งวันเต็มและทิ้งให้เขาอยู่อย่างเดียวดายเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างแรง
หลินชิงเหอโล่งใจเมื่อเห็นว่าเขาทำเพียงกอดเธอไว้และไม่ได้คิดที่จะตบตีเธอ อีกอย่างเธอก็กำลังอารมณ์ดีอยู่เหมือนกัน เพราะวันนี้เธอสะสมทองกับหยกล้ำค่าได้เป็นจำนวนมาก นั่นหมายความว่าชีวิตในภายภาคหน้าของเธอมีหลักประกันแล้ว
หญิงสาวกอดตอบ “ฉันไม่ได้ทิ้งข้อความไว้ให้คุณเหรอคะ? ทำไมคุณยังเป็นห่วงฉันอยู่อีกล่ะ? ฉันแค่ออกไปผ่อนคลายข้างนอกเท่านั้นเอง”
“ผมเป็นห่วง” โจวชิงไป๋เอ่ย
เขารู้ดีว่าสถานการณ์ด้านนอกเป็นอย่างไร เขาไม่มีเส้นสายใด ๆ อยู่ที่นี่ หากเกิดอะไรขึ้นมา เขาก็ปกป้องเธอไม่ได้
“เรากลับกันนะ?” ชายหนุ่มเอ่ยแล้วก็มองหน้าภรรยา
เขาอยากกลับไปเหลือเกิน การเดินทางครั้งนี้ไม่มีอะไรดีเลย ก่อนหน้านี้เขาอยากจะตรวจร่างกายตัวเอง แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าสาเหตุไม่ได้มาจากตัวเขา ดังนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องอยู่ต่อ
“ตกลงค่ะ” หลินชิงเหอเห็นด้วยอย่างชัดเจน
แม้จะเก็บสะสมของได้ไม่มากนัก แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาก็ยังน่าพอใจอยู่
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือทองแท่งแบบนั้นน่ากลัวว่ามันจะมีน้ำหนักราว 1 ชั่ง หรือไม่ก็อยู่ราว ๆ 7 หรือ 8 เลี่ยง (350-400 กรัม) ซึ่งในอนาคตจะไม่มีใครซื้อมันได้เลยหากไม่มีเงินถึง 100,000 หยวน
เธอเก็บมันไว้หลายแท่ง ฉะนั้นจึงคิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 ล้านหยวน
แล้วมันก็ยังมีของอย่างอื่นอีก
คิดดังนี้แล้วหลินชิงเหอก็รู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น
โจวชิงไป๋จองตั๋วรถไฟรอบวันพรุ่งนี้ในทันที จนหลินชิงเหอรู้สึกอึ้งไป “เร็วขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”
“ยิ่งกลับเร็วยิ่งดี” โจวชิงไป๋บอกเธอ
เมื่ออยู่ข้างนอกยามใด เขาก็มักจะรู้สึกว่าเธอวิ่งไปนู่นไปนี่ได้ตลอด เขาจึงไม่อยากจะอยู่ข้างนอก ไม่แม้แต่นิดเดียว ใจของเขาตอนนี้กลับไปอยู่ที่หมู่บ้านแล้ว
“ก็ได้ค่ะ เพราะคุณเป็นหัวหน้าครอบครัว คุณพูดอะไรก็ทำตามนั้น” หลินชิงเหอตอบ
โจวชิงไป๋มีสีหน้าท่าทางดีขึ้น แต่หลังจากที่จองตั๋วรถไฟแล้ว เขาก็ยังถูกหลินชิงเหอลากไปซื้อของอยู่ดี
พวกเขาซื้อของดีประจำเมืองหลวงแปดอย่างเป็นของที่ระลึกให้เด็ก ๆ ได้กิน นอกนั้นก็ไม่มีของอย่างอื่นที่ต้องซื้อแล้ว
เมื่อถึงวันต่อมา หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ก็ขึ้นรถไฟกลับหมู่บ้าน
หลังได้ประสบกับการนั่งรถไฟเมื่อตอนขามา หลินชิงเหอก็รู้สึกขยาดก่อนจะได้นั่งรถขบวนนี้เสียอีก แต่นอกจากหวาดกลัวแล้วเธอจะทำอะไรได้อีกล่ะ? เธอยังต้องกลับหมู่บ้านอยู่นะ
ในระหว่างการเดินทาง หลินชิงเหอจึงหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยจนอารมณ์เสีย แต่ก็ช่วยไม่ได้ การนั่งรถไฟมันทรมานจริง ๆ
ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นสิ่งที่เธอต้องการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...