“มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก”
หลินชิงเหอเอ่ยหลังได้ยินหล่อนพูดดังนั้น
แล้วเธอก็เล่าเรื่องของโจวเสี่ยวเม่ยให้ฟัง
“ต่อให้แม่สามีของเธอไม่พอใจที่พวกเธอสองคนย้ายออกจากบ้าน แต่ท่านก็คงจะดีใจที่ได้เลี้ยงหลานเวลาที่เธอส่งเงินให้ เพราะนั่นก็คือหลานชายของท่านเหมือนกัน” หลินชิงเหอบอก
เสิ่นอวี้ตะลึงไปเมื่อได้ยินดังนี้ “เอาหลานชายไปให้เลี้ยงแล้วยังต้องจ่ายเงินให้อีกเหรอคะ?”
“เงินมันกันไม่ให้ผีหลอกได้นะ” หลินชิงเหอตอบ
เสิ่นอวี้พอเข้าใจในความหมายได้ราง ๆ แต่หล่อนก็ยังอิดออดที่จะให้เงิน
หลินชิงเหอไม่พูดอะไรมาก พูดแค่นี้แล้วก็พอแค่นี้
หลังเอ่ยลาเสิ่นอวี้แล้ว หลินชิงเหอก็กลับมาที่บ้านหลังซื้อของเสร็จ
“แม่ไม่รักผมแล้วเหรอ!” เมื่อเห็นเธอกลับมาบ้าน เจ้าสามก็เริ่มกล่าวหาแม่
“ทำไมแม่จะไม่รักลูกแล้วล่ะ” หลินชิงเหอหัวเราะ เธอแกะซองลูกอมออกและตั้งท่าจะยัดมันใส่ปากเขา
แต่เจ้าสามกลับเมินหน้าหนี เขาสามารถต้านทานต่อแรงยั่วเย้าใจของลูกอมได้แล้วจริง ๆ
“แม่ครับ อย่าคิดจะหลอกล่อผมด้วยของเล็ก ๆ แบบนี้เลย” เจ้าสามบอก
“ลูกกินน้ำตาลมากเกินไปก็เลยขบถกับแม่ใช่ไหม?” หลินชิงเหอใส่ลูกอมเข้าปากขณะเอ่ยกลับ
เจ้าสามยังคงเงียบ
จนหลินชิงเหอต้องตะล่อม “บอกแม่มาสิว่าทำไมจู่ ๆ ลูกถึงมีอารมณ์อ่อนไหวขนาดนี้”
“แม่ไม่พาผมเข้าไปในเมืองนี่ครับ” เจ้าสามบ่น
“งั้นคราวหน้าแม่จะพาไปเดินเล่นที่นั่นด้วยนะ ถ้าลูกเดินเล่นไปทั่วอำเภอตัวคนเดียว แม่ไม่อนุญาต” หลินชิงเหอบอก
เจ้าสามตาโต “แม่ไม่ได้พูดปลอบผมจริง ๆ ใช่ไหมครับ?”
หลินชิงเหอยื่นถุงพุทราจีนให้ “นี่เป็นของที่พี่เสี่ยวซีเขาอยากซื้อน่ะ เอาไปให้เขาที”
“แม่ครับ แล้วลูกอมผมล่ะ” เจ้าสามยื่นมือออกมา
“หมดแล้วล่ะ” หลินชิงเหอเมินเขาและหมุนตัวเดินไปที่ลานหลังบ้าน
เจ้าสามนำพุทราจีนไปส่งเป็นอันดับแรก จากนั้นก็กลับมาเกาะติดกับแม่
“วันนี้ลูกทำอะไรบ้างน่ะ?” หลินชิงเหอถามเขา
วันนี้เธอไม่มีอะไรต้องทำก็เลยเดินทางเข้าไปในอำเภอบ่อยขึ้น
“ผมออกไปเก็บไข่นกน่ะครับ” เจ้าสามเอ่ย
“ไปเก็บมะเขือเทศมากินเสียสิ” หลินชิงเหอสั่ง
“แม่ แล้วลูกอมผมล่ะครับ?” เจ้าสามจ้องมองเธอ
หลินชิงเหอยิ้มกริ่ม “หมดเวลาแล้ว แม่ให้ลูกแต่ลูกไม่เอาเอง ถึงตอนที่ลูกจะกินมันก็หมดแล้วล่ะ”
“แม่มันคนตะกละ” เจ้าสามบ่น
“ถ้าแม่ไม่ตะกละ แล้วจะมีลูกได้อย่างไรล่ะ เจ้าตะกละน้อยเอ๊ย?” หลินชิงเหอหัวเราะ
เจ้าสามหัวเราะเช่นกัน เขาเก็บมะเขือเทศมาล้างกิน จากนั้นก็เอ่ยขึ้น “แม่ครับ ผมอยากไปโรงเรียนเหมือนกัน”
“ลูกต้องรออีกสองปีน่ะ จริงสิ ทำไมวันนี้ลูกกลับมาเร็วล่ะ?” หลินชิงเหอถาม
ปกติเด็กแสบคนนี้ไม่ได้กลับบ้านจนกว่าจะเล่นจนถึงห้าโมงหรือหกโมง แต่วันนี้แค่สี่โมงเย็นเขาก็กลับมาแล้ว
“ลูกแก้วของเพื่อน ๆ มันพัง ผมก็เลยไม่อยากเล่นกับพวกเขาอีกแล้ว” เจ้าสามตอบ
หลินชิงเหอหัวเราะขำ
เด็กพวกนี้ก็มีกฎของตัวเองอยู่เหมือนกัน
แค่หันหน้ามา พวกเขาก็เล่นด้วยกันได้หลังทะเลาะกันไปแล้ว แต่ถ้าลูกแก้วใช้เล่นไม่ได้ พวกเขาก็จะไม่เล่นด้วยกัน ไม่ว่าจะมีกติกาดีแค่ไหนก็ตาม
“ผมให้โก่วจื่อไปลูกหนึ่ง แต่เขาทำมันหายและขอใหม่อีกลูก ผมมีอยู่ไม่เยอะแล้ว” เจ้าสามพูดต่อ
“งั้นลูกก็เล่นซ่อนแอบกันสิ” หลินชิงเหอเสนอ
ในตอนนี้กองข้าวสาลีจำนวนมากถูกรวบรวมไปไว้นอกแปลง มันจึงเป็นสถานที่เหมาะให้เด็ก ๆ พวกนี้เล่นซ่อนแอบกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...