ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 161

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 161 ครอบครัวและการดูแล
บทที่ 161 ครอบครัวและการดูแล
โดย
EnjoyBook
บทที่ 161 ครอบครัวและการดูแล

หลังจากหลินชิงเหอต้มน้ำใส่ขิงหม้อหนึ่งไว้ที่บ้านแล้ว เธอก็ขอให้โจวชิงไป๋ยกไปให้บ้านใหญ่ เขายกมันไปทั้งหม้อพร้อมกับฝาปิด ดังนั้นมันจึงยังร้อนอยู่มาก

จากนั้นเธอก็ให้โจวชิงไป๋กลับมาแช่เท้า

เห็นชัดว่าอีกสามครอบครัวที่เหลือเห็นการกระทำของหลินชิงเหอ

สะใภ้ใหญ่กับสะใภ้สามต่างซาบซื้งใจ พวกหล่อนไม่คิดเลยว่าทันทีที่สะใภ้สี่ปรับปรุงตัว เธอก็กลายเป็นคนกตัญญูอย่างมาก พวกหล่อนสู้เธอไม่ได้เลย

สะใภ้รองยังคงมีความคิดอีกแบบหนึ่งยามได้ยินพี่ชายรองเอ่ยชื่นชมหลินชิงเหอเมื่อเขากลับมาถึง หล่อนแค่นเสียงขึ้น “ไม่รู้ว่าคุณแม่ให้เงินทางฝั่งนั้นไปเยอะเท่าไหร่กัน!”

เมื่อพี่ชายรองได้ยินดังนี้ เขาก็ไม่ตอบอะไรและเงียบใส่ ไม่เถียงหล่อนเลยแม้แต่น้อย

ส่วนหลินชิงเหอไม่สนใจเรื่องนี้

เธอเช็ดหน้าเด็กชายจอมซนทั้งสามและล้างมือพวกเขา จากนั้นก็ให้พวกเขาแช่เท้า หลังแช่เท้าเสร็จพวกเขาก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงเตา

จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาสองต่อสองระหว่างเธอกับโจวชิงไป๋

เท้าของโจวชิงไป๋มีขนาดใหญ่ โชคดีที่อ่างล้างเท้ามีขนาดใหญ่เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นหลินชิงเหอคงไม่มีที่ให้เอาเท้าลงไปแช่

คนทั้งคู่สนทนากันขณะที่แช่เท้า

“ฉันไม่รู้ว่าน้องชายฉันจะอยู่ดีในปีนี้ไหม เขาอยู่อย่างประหยัดเหลือเกิน ไม่รู้ว่าเขาจะมีเครื่องป้องกันความหนาวพอหรือเปล่าน่ะค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ย

“งั้นเราก็ให้ฝ้ายที่ได้มาในปีนี้กับพวกเขาไปสิ” โจวชิงไป๋เอ่ยอย่างเห็นพ้องเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้

ครอบครัวของพวกเขาได้รับแจกฝ้ายจำนวนน้อยนิดแล้วก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร

เป็นเพราะหลินชิงเหอรู้จักสะสมของในบ้าน ดังนั้นบ้านของพวกเขาจึงไม่ขาดเครื่องป้องกันความหนาวเย็น

แค่เสื้อกันหนาว เด็กชายก็มีกันคนละสองตัวแล้ว เป็นเสื้อกั๊กแขนสั้นหนึ่งตัวกับเสื้อไหมพรมแขนยาวหนึ่งตัว

ในตอนที่เธอถักมัน เธอก็ได้กะขนาดให้ใหญ่กว่าตัวเล็กน้อย พวกเขาจึงสามารถใส่ต่อได้ถึงตอนนี้ หากพวกเขาไม่ได้โตเร็วเกินไป มันก็จะใช้ใส่ได้ถึงอีกปีหนึ่งหลังปีหน้า

ถึงหลินชิงเหอจะทะลุมิติมาที่นี่ แต่เธอก็ยังใช้ชีวิตเหมือนชาวชนบทอยู่บ้าง ในตอนตัดเย็บเสื้อผ้าก็จะเผื่อขนาดด้วยเล็กน้อย

เธอไม่มีทางเลือกอื่น ไม่ใช่ว่าเด็กชายเหล่านั้นอายุยังน้อยแล้วพวกเขาจะเติบโตขึ้นทุกปีหรอกเหรอ? หากเธอไม่เผื่อขนาดไว้บ้าง พวกเขาก็จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากันทุกปีน่ะสิถูกไหม?

เธอไม่มีปัญหากับเรื่องนั้นหรอก แต่เธอกลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากของบรรดาแม่บ้านแม่เรือนทั้งหลายในหมู่บ้านน่ะสิ

ด้วยความขยันและประหยัดของคนในยุคนี้แล้ว มันเป็นเรื่องดีกว่าที่จะไม่ทำตัวแปลกแยกกับคนอื่นและทำตามกฎที่มีอยู่

เสื้อผ้าใหม่อยู่ได้ 3 ปี เสื้อผ้าเก่าอยู่ได้ 3 ปี และหลังจากเย็บชุนแล้วมันก็อยู่ได้อีก 3 ปี

ใช่แล้วล่ะ เสื้อผ้าชุดหนึ่งสามารถใช้ได้เกือบ 9 ปีเลยทีเดียว

แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นกับตัวเธอ แต่มันเป็นสิ่งที่โจวชิงไป๋กับคนอื่น ๆ เติบโตมาพร้อมกัน

“ผมนับว่าดีกว่าคนอื่น ๆ เพราะพ่อแม่ผมรักผมมากกว่า” โจวชิงไป๋บอก

แม้เขาจะเป็นลูกชายคนสุดท้อง แต่การปฏิบัติที่เขาได้รับก็ไม่แย่ขนาดนั้น เป็นโจวเสี่ยวเม่ยที่ได้รับการปฏิบัติแย่ที่สุด หล่อนไม่มีเสื้อผ้าใหม่เป็นของตัวเองเลย

พวกมันล้วนเป็นของมือสองที่ถูกส่งต่อจากพี่ ๆ หลังสวมใส่แล้ว หล่อนจึงได้แต่งตัวแบบขอทานน้อยมาตั้งแต่ยังเล็ก

เรื่องนี้เป็นสาเหตุว่าทำไมหล่อนถึงสนิทกับหลินชิงเหอ พี่สะใภ้สี่ผู้แต่งตัวงดงามอยู่เสมอ

“อย่าว่าอย่างนั้นเลยนะคะ ทำไมขาคุณขนดกแบบนี้ล่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยขึ้นขณะเหยียบหน้าแข้งของเขา

เธอเห็นขนหน้าแข้งของเขาอย่างชัดเจนเมื่อถลกขากางเกงขึ้น มันดูหยิกหยองชี้ฟูอย่างมาก

“เป็นกรรมพันธุ์น่ะ” โจวชิงไป๋เห็นว่าหญิงสาวไม่ได้รังเกียจ ซ้ำยังชื่นชมมัน มุมปากของเขาก็กระตุกโค้งขึ้นเล็กน้อย

ปกติแล้วหลินชิงเหอชอบมันอยู่ ทำไมเธอถึงจะไม่ชอบผู้ชายขนหน้าแข้งดกด้วยล่ะ? นี่เป็นเพราะเขามีฮอร์โมนเพศชายหลั่งออกมามากน่ะสิ เป็นสัญลักษณ์แห่งชายชาตรีเลย

“งั้นฉันจะเอาไปให้วันพรุ่งนี้ดีไหมคะ?” หลินชิงเหอถาม

“ผมไปกับคุณดีไหม?” โจวชิงไป๋ถามกลับ

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่าตามมาเลย” หลินชิงเหอส่ายหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม