มันใช้เวลาสองวันกว่าที่เจ้าสามจะหายดี
เด็กชายตัวน้อยไม่มีเรี่ยวแรงมากนักในสองวันที่ผ่านมา แต่โชคดีที่หลินชิงเหอให้การดูแลเขาเป็นอย่างดีโดยมีตัวช่วยอย่างยาแก้ไข้สำหรับเด็กที่เตรียมไว้ในมิติแล้ว จึงมีแค่ความประหลาดใจไร้อันตรายใด ๆ
อาการเป็นไข้ในเด็กเป็นเรื่องไม่อาจประมาท แม้แต่ผู้ใหญ่ที่โตแล้วก็สามารถเป็นไข้อย่างกะทันหันได้ อย่าว่าแต่เด็กตัวเท่านี้เลย
เมื่อหายดีแล้วเจ้าสามก็ทนนั่งเฉย ๆ ไม่ได้อีกต่อไป เขาวิ่งออกไปพลางกระโดดโลดเต้น ซึ่งหลินชิงเหอเองก็ไม่ห้ามเขาเหมือนกัน
ไม่กี่วันก่อนเด็กชายตัวน้อยคนนี้เอาแต่คิดว่าแม่ของเขาไม่สนใจและไม่รักเขาแล้ว แต่หลังจากมีไข้ ในที่สุดเขาก็รู้ว่าแม่รักเขามากเพียงใด
เธอสามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาอยากกิน อีกทั้งยังยอมให้เขานอนบนเตียงเตาของเธอในตอนกลางคืนแถมยังเล่านิทานให้ฟังอีก เรื่องนี้มันช่างสุดยอด
เจ้าสามที่มีความสุขอยู่กับความรักจากแม่สองวันเต็มก็ได้กลับคืนสู่ชีวิตปกติ…ร่าเริงและเปี่ยมพลัง
วันเวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงวันล่าปา ซึ่งหลินชิงเหอก็ตื่นมาหุงโจ๊กล่าปาแต่เช้า
ในตอนนี้เองโจวชิงไป๋ได้เอ่ยขึ้นมา “เดี๋ยวคุณไปเยี่ยมสหายในกองทัพพร้อมผมได้ไหมครับ?”
หลายวันที่ผ่านมานี้มีหิมะตกอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดมันก็ถึงวันนี้ซึ่งเป็นวันท้องฟ้าปลอดโปร่งอย่างหาดูได้ยาก
“ตกลงค่ะ” หลินชิงเหอรู้ว่าเขาอยากจะแนะนำเธอให้สหายในกองทัพรู้จักอยู่ตลอด ยิ่งกว่านั้นสหายของเขาที่อยู่ในกรมตำรวจยังมีเส้นสายที่แกร่งกล้ามากด้วย
ดังนั้นทั้งคู่จึงมุ่งหน้าออกจากบ้าน และยังพาเจ้าสามไปด้วย ส่วนเจ้าใหญ่กับเจ้ารองไม่ได้ตามพวกเขาไป
ลูกหมีน้อยอย่างเจ้าสามรู้สึกว่าได้รับความรักจากพ่อแม่อีกครั้งก็ปิติยินดีอย่างมาก
“อย่ายิ้มกว้างนักสิ เดี๋ยวลมเย็นก็เข้าท้องแล้วทำให้ลูกท้องเสียหรอก” หลินชิงเหอบอก
“แม่ครับ เดี๋ยวซื้อถังหูลู่ให้ผมกินได้ไหมครับ” เจ้าสามเริ่มร้องขอ
“แม่จะซื้อให้พี่ ๆ ของลูกด้วยสองไม้นะ รอจนกว่าเราจะกลับบ้านลูกถึงจะได้กินพร้อมพี่ ๆ” หลินชิงเหอบอก
“ครับ” เจ้าสามพยักหน้า
เจ้าใหญ่กับเจ้ารองไม่ใส่ใจกับเรื่องที่น้องคนเล็กได้ไปกับพ่อแม่โดยที่พวกเขาไม่ได้ไปด้วย ทั้งคู่รู้ว่าสองวันมานี้เจ้าสามไม่สบายจนมีท่าทางเซื่องซึม ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องผิดที่จะพาเขาออกไปเที่ยวบ้าง
เมื่อพวกเขามาถึงตัวอำเภอ สองสามีภรรยาก็แวะไปเยี่ยมกรมตำรวจโดยจูงมือเจ้าสามไปด้วย
ในชนบทไม่จำเป็นต้องให้ของขวัญพิเศษอะไรมากมาย หลินชิงเหอจึงนำไหน้ำพริกมาด้วยไหหนึ่ง
น้ำพริกไหนี้มีน้ำหนักราว 1 ชั่งและยังมีรสชาติอร่อยโดยแท้ โจวชิงไป๋ที่ชอบทานเผ็ดชอบกินมันมาก
สหายในกองทัพของเขาก็มีลิ้นเหมือนกับเขา อย่างที่คิดไว้ เขาก็ชอบมันเหมือนกัน
หลังนั่งอยู่ในกรมตำรวจอยู่นานกว่าหนึ่งชั่วโมง โจวชิงไป๋กับหลินชิงเหอก็จากมาพร้อมกับเจ้าสาม โดยสหายของโจวชิงไป๋เป็นคนมาส่งด้วยตัวเอง และยังคะยั้นคะยอให้พวกเขาแวะมาเยี่ยมเยียนอีกหากมีเวลาว่างในคราวหน้า
โจวชิงไป๋เห็นด้วย จากนั้นก็พาภรรยาไปที่ร้านค้าสหกรณ์เพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็นในบ้าน
หลินชิงเหอขอให้โจวชิงไป๋เข้าไปในร้านค้าสหกรณ์ก่อน ส่วนตัวเธอเองจะเข้าไปในตลาดมืด เธอสารภาพเรื่องนี้กับโจวชิงไป๋แล้ว ชายหนุ่มจึงไม่ได้ตามไป แม้แต่สุนัขที่ดีที่สุดในค่ายก็ไม่สามารถหาเบาะแสของภรรยาของเขาได้
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงกล้าให้สัญญากับเขาว่าหากมีคนเห็นแม้แต่ครั้งเดียว เธอก็จะล้างมือของตัวเองจนขาวสะอาด
มีสิ่งที่เรียกว่ามิติอยู่ ใครจะหาของกลางเจอล่ะ?
โจวชิงไป๋ส่ายหน้าอย่างจนใจ
ทางฝั่งหลินชิงเหอเองก็ระบายขายสินค้าที่เหลืออยู่ เธอซื้อไข่ในตลาดมืด 2 ตะกร้าและหยิบออกมาราว 1 ชั่ง จากนั้นก็นำไปให้เสิ่นอวี้
เสิ่นอวี้ได้ลูกสาว
ก่อนหน้านั้นที่เธอเข้าไปในกรมตำรวจกับโจวชิงไป๋ เธอก็เจอกับเฉินเจี๋ยผู้เป็นสามีของเสิ่นอวี้พอดี และเฉินเจี๋ยก็ได้บอกเรื่องนี้กับพวกเขา
หากเขาไม่บอก เธอก็ยังไม่รู้ ตอนนี้เธอรู้แล้วเธอจึงต้องนำของไปให้ เนื่องเพราะการมีเสิ่นอวี้อยู่ในร้านค้าสหกรณ์ทำให้เธอสามารถซื้อของหลายสิ่งที่คนอื่นไม่อาจซื้อได้
เมื่อรู้ว่าหล่อนกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด การนำไข่ไปให้จึงนับว่าเป็นการทักทายที่เอาใจใส่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...