“กินน้ำแกงอีกหน่อยนะคะ” หลินชิงเหอตักน้ำแกงที่เหลือในหม้อเทใส่ชามของโจวชิงไป๋พลางเอ่ยคะยั้นคะยอ
“แม่ แล้วผมล่ะ?” เจ้าใหญ่ถาม
“ลูกกินไปสองชามแล้ว ลูกคงไม่หิวแล้วล่ะ” หลินชิงเหอเมินเขาเสีย
เจ้ารองกับเจ้าสามเห็นแล้วก็แสดงสีหน้า ผมชินแล้ว ออกมา
ใช่แล้ว แม้แต่เจ้าสามในตอนนี้ก็คุ้นชินไปแล้ว เขาชินแล้วกับการที่แม่รักพ่อมากกว่าพวกเขาสามคน
แม้โจวชิงไป๋จะไม่แสดงสีหน้าใด ๆ แต่เขาก็กินน้ำแกงที่เหลือพร้อมกับหัวคิ้วที่คลายลง
“คุณไปพักเถอะค่ะ…เจ้ารอง…วันนี้ถึงตาลูกต้องล้างจานแล้วนะ” หลินชิงเหอสั่งลูกชาย
เจ้ารองได้ยินก็ลุกขึ้นเก็บถ้วยชามไปล้าง
เขาเริ่มแบ่งกันล้างถ้วยชามกับพี่ชายคนโตตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนเจ้าสามจะมาร่วมทัพล้างถ้วยชามด้วยในปีหน้า
หลินชิงเหอปล่อยงานที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของเด็กชายทั้งสาม ขณะที่เธอเข้าไปพักผ่อนในห้องกับโจวชิงไป๋
ฝนตกครั้งนี้ใช้เวลาเจ็ดหรือแปดวันกว่าจะหยุด ถนนด้านนอกบ้านจึงมีสภาพเละเทะเดินทางไม่สะดวกนัก ซึ่งหลินชิงเหอได้เริ่มการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการหลังจากนั้น
ในวันนั้นที่เธอกลับมาจากโรงเรียน หลินชิงเหอก็เจอกับสะใภ้สามระหว่างทาง เธอก็เลยรับหล่อนไปส่งที่บ้าน
ทันทีที่สองสะใภ้เข้าสู่ตัวหมู่บ้าน พวกเธอก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศในหมู่บ้านดูตึงเครียดเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” สะใภ้สามที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกกระซิบถามอย่างงุนงง
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันคงไม่เกี่ยวอะไรกับครอบครัวเราหรอก” หลินชิงเหอไม่สนใจ
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลโจวจริง ๆ แต่ว่าเป็นเรื่องของตระกูลหม่าต่างหาก
คราวที่แล้วเป็นเรื่องของหม่าสี่ ตระกูลหม่าก็สามารถไกล่เกลี่ยคนสองฝ่ายได้เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดในครอบครัว
พวกเขาใส่ตะกร้าล้างน้ำหวังหลิงจนสะอาด เนื่องจากความต้องการลูกชายที่แข็งแกร่งของสังคมชนบท เลยทำให้ผู้คนได้แค่นินทาหวังหลิง แต่ไม่ทำอะไรเกินเลยมากกว่านั้น
แต่ในครั้งนี้หวังหลิงกลับเข้าไปพัวพันกับอันธพาลประจำหมู่บ้านที่ชื่อโจวเหอและถูกใครบางคนจับได้
ซึ่งเรื่องมันก็เกิดขึ้นในกระท่อมร้างเล็ก ๆ บนเนินเขาหลังบ้านของฝ่ายผลิต
กล่าวกันว่าคนที่ไปเห็นเข้าได้เจอทั้งสองคนในสภาพกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันเลยทีเดียว
ยิ่งกว่านั้นผู้หญิงที่ไปเจอยังเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหวังหลิงด้วย
เรื่องราวจึงได้โป๊ะแตกในครั้งนี้ หล่อนรีบเรียกหัวหน้าหมู่บ้านให้มาดูและจับกุมตัวคนทั้งสองไว้ในทันที
คราวที่แล้วหวังหลิงรอดไปได้ แต่ครั้งนี้หล่อนเลี่ยงไม่ได้แล้ว แถมตระกูลหม่าก็ไม่คิดที่จะปกป้องหวังหลิงแล้วด้วย
จากนั้นทหารแดงจากในอำเภอก็มาที่หมู่บ้าน
การปรากฏตัวของทหารแดงไม่ต่างอะไรกับข้าศึกต่างชาติในครั้งอดีต ไม่มีใครอยากจะพบเจอกับพวกเขานักหรอก
ดังนั้นมันจะต้องเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริง ๆ พวกเขาถึงจะมาหา
หวังหลิงกับโจวเหอถูกมัดตัวในทันที จากนั้นก็ถูกโกนศีรษะเป็นสัญลักษณ์หยิน-หยางและถูกแห่ประจานไปตามถนนพร้อมป้ายที่เขียนว่า เล่นชู้กัน แขวนไว้ที่คอ
เรื่องนี้สะใภ้สามเป็นคนบอกหลินชิงเหอหลังจากมีการไต่สวนกันแล้ว
“หล่อนไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเลย ทำอย่างกับว่าไม่มีใครทำอะไรหล่อนได้งั้นล่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยเป็นเชิงดูถูก
“คราวที่แล้วหล่อนรอดจากเหตุการณ์นี้มาได้แต่ก็ยังไม่เข็ด โชคดีที่พี่สะใภ้รองตัดขาดไมตรีกับหล่อนเมื่อนานมาแล้ว” สะใภ้สามเอ่ย
“อันธพาลนั่นเคยสู้กับหม่าสามมาก่อนใช่ไหมคะ?” หลินชิงเหอเอ่ย
“ใช่แล้วล่ะ ครั้งนั้นทั้งสองตระกูลเกือบจะตะลุมบอนกันเลย” สะใภ้สามตอบ
หลินชิงเหอส่ายหน้า ต่อไปในอนาคตหวังหลิงต้องอยู่หมู่บ้านนี้ไม่ได้แน่ ๆ หม่าสามไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูง เขายอมความต่อเหตุการณ์คราวที่แล้วก็เพราะพ่อแม่ของเขา แต่ครั้งนี้เขาคงไม่ทนต่อไปแล้ว
หวังหลิงกับโจวเหอถูกปล่อยตัวอีกสามวันต่อมา เมื่อพวกเขากลับมาถึง ทุกคนก็แทบจะจำหน้าคนทั้งคู่ไม่ได้
ทั้งร่างของพวกเขาเหม็นหึ่งเพราะถูกอุจจาระขว้างใส่ ใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยรอยแดงอย่างที่ดูแล้วคงเป็นเพราะมีคนบางคนถอดรองเท้าออกมาตบหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...