หลินชิงเหอไม่รู้เรื่องนี้เลย เธอมาได้ยินจากซูเฉิงน้อยหลังเสร็จจากการทำงานแล้ว
“คุณป้าสองโดนทุบตี คุณย่าก็เลยพาคุณลุงกับคนอื่น ๆ ไปสู้กลับน่ะครับ!” ซูเฉิงน้อยอธิบาย
“แล้วตอนนี้พี่สามกับคนอื่น ๆ อยู่ที่ไหนล่ะ?” หลินชิงเหอถาม
“พี่สามตามพวกเขาไปด้วย ส่วนผมอยู่ดูแลบ้านครับ” ซูเฉิงน้อยตอบ
อย่าตัดสินเด็กชายคนนี้จากพฤติกรรมสุภาพนุ่มนวลของซูต้าหลินเชียว ซูเฉิงน้อยโตมากับชนบทและมักจะต่อสู้กับเด็กคนอื่น ๆ บ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขาเกาะติดอยู่กับพี่สามของเขา
ดังนั้นพอเขาได้ยินว่าคุณย่ากับคนอื่น ๆ กำลังจะออกไปสู้ เขาก็ไม่รู้สึกตกใจแต่อย่างใด เขาเองก็ไม่กลัวเหมือนกัน
หลินชิงเหออยากจะหัวเราะเมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เธอลูบศีรษะของเด็กชายน้อย “การต่อสู้กันเป็นเรื่องผิดนะ แต่ถ้ามีใครตีหนูก่อน หนูก็สู้กลับได้ ไม่ต้องไปยอมหรอก”
“ผมรู้ครับ ไม่มีใครกล้าตีผมหรอก” ซูเฉิงน้อยเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ
เขามีพี่ชายหลายคน คราวที่แล้วมีเด็กที่แก่กว่ามารังแกเขา แต่เขาสู้ไม่ได้ ก็เลยมาบอกพี่สามเงียบ ๆ เมื่อกลับมาถึงบ้าน แล้วพี่สามก็ออกไปสู้กับคน ๆ นั้นให้เขาโดยไม่ต้องพูดอะไร
แน่นอนว่าหลินชิงเหอไม่รู้เรื่องพวกนี้ ต่อให้เธอรู้ เธอก็ไม่พูดอะไร
การสอนลูกของเธออาจจะเป็นเรื่องที่ผิด แต่เด็กผู้ชายต้องถูกเลี้ยงอย่างรู้จักที่จะสู้บ้างเมื่อพวกเขายังเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท เมื่อเด็กผู้ชายที่ไม่เคยต่อสู้กับคนอื่น ๆ โตขึ้น พวกเขาจะอดคิดไม่ได้ว่าว่าวัยเด็กของตนเองช่างไม่สมบูรณ์นัก
แน่นอนว่าแต่ละคนต้องรู้จักประมาณตนว่าเมื่อไรควรจะพอ
หลินชิงเหอถามเรื่องนี้กับคุณป้าไฉ่ ซึ่งคุณป้าไฉ่ก็รู้เรื่องนี้ หล่อนบอกเธอว่าท่านแม่โจวเรียกหาผู้หญิงจำนวนหนึ่งในหมู่บ้านแล้ว
หลินชิงเหอรู้ดีว่าพวกหล่อนต่างเป็นผู้หญิงในหมู่บ้านที่ร้ายกาจกันทุกคน
เธอจึงหยิบเนื้อที่เหลือจากการซื้อกับเม่ยเจี่ยเมื่อวานลงไปตุ๋นกับวุ้นเส้น ท่านแม่โจวเรียกตัวคน 4 คน เธอจึงแบ่งออกเป็น 4 ชามใหญ่และมีอาหารเต็มทุกชาม
โจวชิงไป๋กับคนอื่น ๆ ไม่ได้กลับมาจนกระทั่งถึงหนึ่งทุ่ม หลังจากที่พวกเขากลับมา หลินชิงเหอก็ได้เตรียมอาหารเสร็จแล้ว เธอกำลังให้ความรื่นเริงกับพวกเขาอยู่โดยไม่ต้องกล่าว
พวกเขาอยู่กินข้าวกัน หลังจากนั้นแต่ละคนก็ได้รับวุ้นเส้นหมูตุ๋นชามนี้ ทำให้คนที่ถูกเรียกตัวไปช่วยรู้สึกดีใจนัก
เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาสามัญในชนบท ในการที่คนในหมู่บ้านไปช่วยต่อสู้ทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาวที่แต่งงานไปแล้วของพวกเขา เรื่องนี้มันเพียงพอแล้วที่จะให้พวกเขาอยู่กินอาหารหนึ่งมื้อ และเป็นโอกาสหายากที่จะเห็นคนอย่างหลินชิงเหอเตรียมอาหารให้พวกเขานำกลับไปกิน
ทุกคนต่างบอกว่าจะล้างชามและส่งกลับมาในภายหลัง และถ้าใครก็ตามกล้ารังแกลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้วบ้านไหน ก็สามารถมาเรียกตัวพวกเขาได้
ทันทีที่ทุกอย่างเกือบจะเรียบร้อยดีแล้ว ในที่สุดหลินชิงเหอก็มีเวลาถามท่านแม่โจวว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ท่านแม่โจวแค่นเสียงด้วยความรังเกียจทันที “บ้านตระกูลหวงนี่ทำอย่างกับว่าไม่มีบ้านตระกูลโจวของฉันอย่างนั้นล่ะ แค่แตงสามลูกกับพุทราจีนสองลูกก็เป็นเรื่องได้ พอเราไปถึงพวกมันถึงกับทำท่าสลด!”
นางเข้าใจนิสัยของลูกสาวคนรองดี การที่หล่อนถูกบีบจนกลับมาหาบ้านฝั่งแม่เพื่อฟ้องร้องแบบนี้ได้ แสดงว่าพวกเขาสุภาพต่อหล่อนไหมล่ะ?
นางจึงเรียกกำลังเสริมเช่นเดียวกับบรรดาลูกชายและมุ่งหน้าไปจัดการคนฝั่งนั้นทันที
เมื่อพวกเขาไปถึง หญิงเฒ่าบ้านหวงกับสะใภ้ใหญ่ของนางก็ถูกยึดตัวไว้กับพื้นด้วยฝีมือของหญิงชราบางคนที่ตามมาก่อนจะโดนรุมตบ โดยที่บรรดาชายหนุ่มบ้านหวงไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย!
แค่ล้างบางตระกูลหวงถือว่ายังไม่พอ พวกเขายังไปคิดบัญชีกับสะใภ้ใหญ่ฝั่งแม่ของบ้านหวงอีกด้วย การที่พวกเขามาจากหมู่บ้านเดียวกันจึงเป็นเรื่องสะดวกมากที่จะค้นตัว พวกเขามุ่งหน้าไปตบสะใภ้คนนั้นที่มีส่วนร่วมกับการทุบตีพี่สาวรองทันที
ปกติแล้วครอบครัวฝั่งแม่ของตระกูลนั้นก็ไม่ทนกับเรื่องนี้เหมือนกัน พวกเขาเองมีพี่ชายน้องชายอยู่มากที่พร้อมลุยกับเรื่องนี้ แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไรก็ถูกโจวชิงไป๋คนเดียวจัดการจนหมอบเสียก่อน
พี่ชายใหญ่กับคนอื่น ๆ ไม่ทันได้ลงมืออะไรเลย!
โจวชิงไป๋จะไม่เข้าไปยุ่งหากเป็นผู้หญิงตบตีกัน แต่เขาไม่ลังเลเลยที่จะสู้กับผู้ชายด้วยกัน
บรรดาพี่ชายน้องชายฝั่งแม่ของสะใภ้ใหญ่ตระกูลหวงต่างนอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้น ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาสู้อีก ทันทีที่ลุกขึ้น โจวชิงไป๋ก็หวดขาเตะ จะมีใครกล้าลุกขึ้นอีกล่ะ?
ต้องบอกว่าโจวชิงไป๋มีสัญชาตญาณของการปกป้องคนอื่นอยู่เต็มเปี่ยม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...