เวลาผ่านไปจนกระทั่งเดือนพฤษภาคมได้มาถึง
ในช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนขึ้นแล้ว ผักบางส่วนที่ปลูกไว้ในสวนหลังบ้านก็งอกงามพร้อมรับประทานพอดี
แน่นอนว่าพวกเขากินกุยช่ายกันมานานแล้ว ขนมกุยช่ายถือว่าเป็นของโปรดของครอบครัวเลยทีเดียว
หลินชิงเหอยังสอนหนังสืออยู่ เธอยุ่งมากในทุกวัน ส่วนเม่ยเจี่ยก็ได้ทำงานอีกครั้ง และยังคงดำเนินธุรกิจขายเนื้อหมูต่อ
สามีของหล่อนทำงานในฟาร์มหมูและสามารถได้ผลประโยชน์จากตำแหน่งงานนี้ได้ ทำไมหล่อนถึงจะไม่ทำงานนี้ล่ะ?
“ในเมืองเหมือนจะไม่สงบไปชั่วขณะหนึ่งนะ จะไม่เป็นปัญหากับลูกค้ารายต่อไปของเธอเหรอ?” เม่ยเจี่ยถามเสียงเบาตอนที่หลินชิงเหอมารับเนื้อหมูในวันนั้น
“ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ” หลินชิงเหอพยักหน้าและถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“พี่ได้ยินมาว่าตอนนี้มีทหารแดงจากข้างนอกเข้ามาในเมืองนี้ ทำให้ในเมืองไม่สงบไปครู่หนึ่งเลยล่ะ” เม่ยเจี่ยบอก
“หลังผ่านพ้นช่วงนี้ไปแล้วก็คงดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ” หลินชิงเหอตอบ
หลังทะลุมิติมาที่นี่ เธอก็เริ่มรู้เรื่องราวบางอย่างในยุคนี้แล้ว อย่างเช่นเรื่องทหารแดงพวกนี้
พวกเขาทำงานกันอย่างแข็งขัน แต่อีกไม่นานก็จะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว จากนั้นพวกเขาจะหายไปในปีหน้าและไม่มาสร้างปัญหาใด ๆ อีก
แต่ถึงอย่างนั้นการเคลื่อนไหวของทหารแดงจากภายนอกกลุ่มนี้นับว่ายิ่งใหญ่ไม่น้อย
ประเด็นที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขาก็คือหวังหลิงกับโจวเหอที่มีความผิดฐานเป็นชู้กัน
จากเรื่องดำมืดในอดีตนี่เอง พวกเขาสองคนจึงถูกอัปเปหิออกจากหมู่บ้าน เล่ากันว่าโจวเหอถูกหามกลับมา ยิ่งกว่านั้นเขายังกลับมาในสภาพถูกตอนด้วย
ส่วนหวังหลิงก็มีสภาพน่าอนาถไม่ต่างกัน ใบหน้าของหล่อนถูกตบตีจนบวมช้ำ แม้แต่คนใกล้ตัวของหล่อนก็ยังจำหล่อนไม่ได้
ด้วยจลาจลที่เกิดขึ้นในเมือง ทุกคนในหมู่บ้านจึงหลีกเลี่ยงสองคนนี้ราวกับเลี่ยงหลบเชื้อโรคไปชั่วขณะหนึ่ง
ในหมู่บ้านโจวเจี่ยไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับบ้านตระกูลหลิน
เป็นน้องชายสามตระกูลหลินที่มาแจ้งเรื่องกับพวกเขา
“พี่รองหลินกล้าไปติดพันกับแม่หม้ายในหมู่บ้านเชียวเหรอ? เขาอยากตายหรือไง?” หลินชิงเหออุทานอย่างประหลาดใจ
สภาพแวดล้อมในช่วงนี้นับว่าเข้มงวดกวดขันอย่างยิ่ง แต่พี่ชายรองตระกูลหลินกลับกล้าฝ่าม่านประเพณี แถมภรรยาของเขาก็ไม่ใช่คนที่จะอยู่เงียบ ๆ ด้วย
“ปกติแล้วในหมู่บ้านจะสงบสุขดีและไม่รู้ว่าโลกข้างนอกเกิดจลาจลร้ายแรงเพียงใด แต่เมื่อวานนี้พวกเขาถูกพาตัวออกไปแล้ว” น้องชายสามตระกูลหลินเอ่ย “พ่อแม่ของเรากับคนอื่น ๆ ก็กำลังจะมาขอความช่วยเหลือจากพี่เขยด้วยเหมือนกัน”
“ในเมื่อตระกูลหลินอยากจะได้ตัวเขาคืน มันก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะจ่ายไหวไหม!” หลินชิงเหอแค่นเสียง
น้องชายสามตระกูลหลินเม้มปากก่อนเอ่ยขึ้น “พี่ครับ ต่อให้ในอดีตจะมีเรื่องบาดหมางกันขนาดไหน แต่เรายังเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่นะครับ”
“พี่รองหลินกับพี่ไม่ใช่พี่น้องกัน เช่นเดียวกับพ่อเฒ่าแม่เฒ่าคู่นั้นด้วย ไม่มีเหตุผลที่จะดึงตัวลูกสาวที่แต่งงานเหมือนสาดน้ำออกนอกเรือนไปแล้วกลับเข้ามาในเรือนอีก” หลินชิงเหอเอ่ยอย่างไร้ใจ
เธอไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม ต่อให้อยู่ในร่างของหล่อนก็ตาม เธอก็ไม่สนับสนุนพ่อแม่ของเจ้าของร่างเดิมหรอก
แน่นอนว่าถ้าพ่อแม่ของเจ้าของร่างเดิมเป็นคนดี หากไม่ช่วยก็คงจะเกินไป แต่พ่อเฒ่าแม่เฒ่าคู่นี้เป็นแบบนั้นไหมล่ะ?
เธอไม่มีเจตนารังแกแต่อย่างใด คนพวกนี้ที่อ้างว่าตัวเองอายุมากกว่าทำอะไรเธอไม่ได้หรอก เธอจะไม่สุภาพกับเรื่องนี้
“อีกไม่นานพ่อกับแม่จะมาที่นี่แล้วนะครับ” น้องชายสามตระกูลหลินบอก
เขาไม่ได้ออกไปเช่นกัน และแน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่นาน ท่านพ่อหลินกับท่านแม่หลินก็เดินทางมาถึง เป็นเรื่องหายากทีเดียวที่คนทั้งคู่จะมาด้วยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...