โจวเสี่ยวเม่ยปวดท้องคลอดบุตรในตอนปลายเดือนสิงหาคม และหล่อนก็มีความสุขเป็นพิเศษที่ได้ลูกสาว
ชีวิตของหล่อนสมบูรณ์แบบแล้วอย่างแท้จริงเพราะมีทั้งลูกชายและลูกสาว
เมื่อซูต้าหลินมาบอกข่าวดี เขาก็มาบอกด้วยรอยยิ้มระบายเต็มใบหน้า
เขาพอใจมากจริง ๆ ที่มีลูกชาย 2 คนและลูกสาว 1 คน
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น คุณลุงกับคุณป้าของเขาก็มีความสุขมากด้วย
เห็นได้ชัดเจนว่าสถานะของโจวเสี่ยวเม่ยในตระกูลซูเป็นอย่างไรหลังให้กำเนิดทายาทเหล่านี้แล้ว
และกุญแจสำคัญก็คือครอบครัวฝั่งแม่ของโจวเสี่ยวเม่ยเป็นครอบครัวที่วิเศษมาก เพราะพวกเขาเต็มใจช่วยเลี้ยงดูเด็กที่เกิดมา ส่วนโจวเสี่ยวเม่ยเองก็มีงานทำและได้รับเงินเดือนทุกเดือน คนในครอบครัวฝั่งสามีอย่างคุณลุงซูกับคุณป้าซูจึงไม่กล้าดูถูกโจวเสี่ยวเม่ย
และคุณลุงกับคุณป้าของซูต้าหลินก็ไม่ใช่คนประเภทนั้นด้วย
เรื่องนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่หลินชิงเหอนัดซื้อทองกับชายหนุ่มคนนั้นในตลาดมืด หญิงสาวจึงนำขาหมู 4 ขาไปเยี่ยมโจวเสี่ยวเม่ยในฐานะตัวแทนครอบครัวฝั่งแม่
สะใภ้ใหญ่ส่งถั่วลิสงมา 3 ชั่ง ส่วนสะใภ้รองให้ถั่วเหลืองมา 2 ชั่ง ในที่สุดหล่อนก็รู้จักนิสัยของโจวเสี่ยวเม่ยแล้ว
ตอนที่โจวเสี่ยวเม่ยแต่งงาน หล่อนไม่ได้ให้อะไรอีกฝ่ายเลย ดังนั้นในวันที่สามที่เจ้าสาวกลับมาเยี่ยมบ้านฝั่งแม่ ครอบครัวอื่นทั้งสามครอบครัวจึงได้รับของขวัญในขณะที่ครอบครัวของหล่อนไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง
ตอนนี้หล่อนเริ่มมีความคิดอ่านขึ้นมาบ้างแล้ว และรู้ว่าน้องสามีอย่างโจวเสี่ยวเม่ยไม่อยากมองหน้าหล่อน อีกฝ่ายแต่งงานมีชีวิตที่ดี ขณะที่ครอบครัวของหล่อนอาจต้องขอความช่วยเหลือจากฝั่งนั้นในวันข้างหน้า ดังนั้นหล่อนจึงให้ถั่วเหลืองไป 2 ชั่ง
สะใภ้สามให้ถั่วเหลืองมาเหมือนกันแต่เป็นจำนวน 3 ชั่ง แม้ครั้งนี้หล่อนจะไม่ได้ตั้งครรภ์พร้อมกับโจวเสี่ยวเม่ย แต่หล่อนก็ยังมีความรู้สึกรักใคร่ที่เกิดขึ้นขณะให้นมลูกชายทั้งสองของอีกฝ่ายอยู่
ของขวัญของหลินชิงเหอกับท่านแม่โจวเป็นขาหมูพวกนั้น ซึ่งขาหมู 4 ขานับว่าเป็นปริมาณมากทีเดียว
โจวเสี่ยวเม่ยรู้สึกยินดีปรีดาที่ครั้งนี้หล่อนให้กำเนิดลูกสาว ตอนนี้หล่อนมีทั้งลูกชายกับลูกสาว เท่ากับว่าหล่อนไม่ต้องคลอดลูกอีกแล้ว!
เมื่อเห็นว่าหล่อนยังคิดแบบนี้อยู่ หลินชิงเหอก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอนั่งอยู่กับหล่อนมากกว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนจะเอ่ยลา
ปกติการบำรุงร่างกายหลังคลอดของโจวเสี่ยวเม่ยจะอยู่ในความดูแลของซูต้าหลิน ซึ่งเขาก็ได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ไปแล้ว จึงไม่มีใครต้องเป็นกังวล ยิ่งกว่านั้นลูกสาวคนเล็กของเขาคือแก้วตาดวงใจของเขาด้วย
หลินชิงเหอมุ่งหน้าไปยังตลาดมืด
“พี่สาว คุณมาแล้ว” เมื่อเห็นเธอ ชายหนุ่มก็ยิ้มออก
เนื่องจากเขาต้องการถามข่าวคราวจากคนอื่น เขาจึงดูนิสัยดีขึ้นกว่าครั้งก่อน
“ฉันค่อนข้างยุ่ง ฉะนั้นอย่าพูดอะไรอ้อมค้อมเลยค่ะ คนหนึ่งจ่ายเงินอีกคนหนึ่งส่งของมาก็พอแล้ว” หลินชิงเหอไม่อยากพูดอะไรไร้สาระจึงเอ่ยออกไปตรง ๆ
“ตกลงครับ” ชายหนุ่มเองก็เป็นคนตรงไปตรงมา เขาหยิบกำไลทอง สร้อยทอง แหวนทอง ปิ่นทอง และต่างหูทองออกมามากมาย
หลินชิงเหอพิจารณาดูทีละอัน จากนั้นก็กระซิบถาม “ราคาเท่าไหร่คะ?”
“ไม่แพงหรอกครับ พี่สาวรับไปทั้งหมดในราคา 300 หยวนได้เลย” ชายหนุ่มเอ่ย
เงิน 300 หยวนแลกกับทองกองนี้นับว่าไม่แพงเกินไปนัก พวกมันล้วนเป็นทองแท้และยังเป็นของโบราณเก่าแก่อีกด้วย
หลินชิงเหอกวาดมองอย่างรวดเร็วและเริ่มต่อราคาในจำนวนตามเกณฑ์ของตลาด ซึ่งชายหนุ่มก็ลดให้ 5 หยวนจากนั้นก็คงราคาไว้แต่เพียงนั้น
หลินชิงเหอปิดการขายกับชายหนุ่มคนนี้เสร็จสมบูรณ์…
ชายหนุ่มคนขายทองนับเงินที่ได้รับก่อนเอ่ยว่า “พี่สาว ผมอยากถามอะไรบางอย่างได้ไหมครับ ส่วนแหวนทองวงนี้คือคำขอบคุณจากผม” จากนั้นเขาก็หยิบแหวนทองอีกวงหนึ่งออกมา
คน ๆ นี้ไม่ธรรมดาเลยที่สามารถจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้ในคราวเดียว
หลินชิงเหอเหลือบมองเขา “ถามมาได้เลยค่ะ ถ้าฉันรู้ฉันจะบอก แต่ถ้าฉันไม่รู้ก็ช่วยไม่ได้นะคะ”
“พี่สาวสะสมทองพวกนี้เพราะไปได้ยินข่าวอะไรบางอย่างมาใช่ไหมครับ?” ชายหนุ่มกระซิบ
หลินชิงเหอจะเปิดเผยความลับในเรื่องนี้ได้อย่างไรล่ะ? เธอจึงส่ายหน้าและพูดโกหกไป “แม่ฉันชอบสะสมทองน่ะค่ะ หล่อนชอบทองเป็นชีวิตจิตใจ ฉันเลยวางแผนว่าจะเอาทองทั้งหมดใส่ไปในโลงศพให้ตอนที่หล่อนเสียชีวิตในวันข้างหน้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...