ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 232

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 232 สนุกสนานเต็มที่
บทที่ 232 สนุกสนานเต็มที่
โดย
EnjoyBook
บทที่ 232 สนุกสนานเต็มที่

ส่วนท่านแม่โจวกำลังนอนไม่หลับ นางพลิกตัวไปมาในตอนกลางคืนจนท่านพ่อโจวอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “คุณเป็นอะไรไปน่ะ?”

“ตาเฒ่า คุณไม่ได้คิดเลยเหรอ?” ท่านแม่โจวบอก

“คิดอะไรฮึ?” ท่านพ่อโจวถาม

“ถ้าเกิดว่าสะใภ้สี่ได้รับคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยแล้วจะเกิดอะไรต่อไป?” ท่านแม่โจวเอ่ยแสดงความกังวลออกมา

ในตอนแรกนางก็ดีใจอยู่หรอกที่ได้ข่าวว่าสะใภ้สี่สอบเข้ามหาวิทยาลัย นางเองก็มีความคิดอย่างเดียวกับท่านพ่อโจวว่าถ้าทั้งคู่ได้เข้ามหาวิทยาลัย ในครอบครัวของพวกเขาก็จะมีนักศึกษามหาวิทยาลัยถึง 2 คน

มีคนกี่รุ่นในครอบครัวนี้กันล่ะที่ไม่ได้เก่งกาจแบบนี้?

แต่หลังจากนั้นท่านแม่โจวก็รู้สึกว่านี่มันไม่ถูกต้อง หากสะใภ้สี่สอบผ่านจริง ๆ แล้วครอบครัวของเธอจะทำอย่างไรหลังจากที่เธอเข้ามหาวิทยาลัยไปแล้ว?

ทั้งอาสี่ เจ้ารอง และเจ้าสามก็จะต้องอยู่ที่บ้าน

ทันทีที่เธอออกไปเรียน เธอก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยนักศึกษามหาวิทยาลัยจากด้านนอก สะใภ้สี่ทั้งสวยและมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีขนาดนี้ ไม่รู้เลยว่าจะมีคนโดนเธอตกอีกมากเท่าไหร่

ท่านแม่โจวจะรู้สึกวางใจได้อย่างไร?

ท่านพ่อโจวไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน เมื่อได้ยินภรรยาเอ่ยแบบนี้เขาก็กลอกตา “ผมคิดว่าตัวคุณมีไขมันอยู่เยอะเกินไปแล้วก็เลยไปจุกในสมองเสียหมดนะ”

“คุณพูดอะไรน่ะ?” ท่านแม่โจวส่งเสียงไม่พอใจ

“จะเกิดเรื่องนี้ได้ยังไงล่ะ? คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเจ้าใหญ่กับน้อง ๆ อายุเท่าไหร่กันแล้ว? สะใภ้สี่ไม่ได้โง่นะ เธอจะยอมทิ้งลูกชายสามคนเพื่อไปมีลูกกับคนอื่นและชุบตัวใหม่งั้นเหรอ?” ท่านพ่อโจวกลอกตา

สะใภ้สี่เป็นคนอย่างไรกันล่ะ? เธอออกจะเป็นคนฉลาดขนาดนั้น จะทำเรื่องโง่เขลาแบบนั้นได้อย่างไร

พอได้ยินสิ่งที่คู่ชีวิตของนางเอ่ยขึ้นมาแล้ว ท่านแม่โจวก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผล

แต่ถึงอย่างนั้นท่านแม่โจวก็ยังไม่วางใจ

ด้วยความคิดแบบคนรุ่นเก่าของท่านแม่โจวแล้ว นางก็ยังเชื่อว่าผู้หญิงอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนไม่ไปไหนด้วยตัวเองถือว่าเป็นเรื่องดีกว่า

นอกจากนี้หลินชิงเหอยังมีงานทำอยู่ที่บ้าน สอนหนังสือในโรงเรียนมัธยมต้นแล้ว แถมมีเงินเดือนมากกว่า 10 หยวนต่อเดือน รวมแต้มค่าแรงด้วย แค่นี้ก็วิเศษขนาดไหนแล้ว?

เธอยังต้องไปเรียนในมหาวิทยาลัยอีกเหรอ?

“อย่าพูดแบบนี้ต่อหน้าสะใภ้สี่นะ” ท่านพ่อโจวเอ่ยเตือน สะใภ้สี่ให้ความนับถือกับพวกเขาแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากให้พวกเขามาก้าวก่ายเรื่องของเธอเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเธอก็จะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่ง

ท่านแม่โจวจำคำของเขาไว้ จากนั้นในวันต่อมานางก็มาหาลูกชายเพื่อคุยเรื่องนี้

“ชิงไป๋ บอกแม่สิว่าเมียแกจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ไหม?” นี่คือคำพูดแรกของท่านแม่โจว

โจวชิงไป๋ไม่ได้ปิดบังอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ เขาพยักหน้าและเอ่ยตอบ “ภรรยาของผมสอบผ่านแน่ครับ” เขารู้สึกว่าไม่ใช่แค่เธอจะสอบผ่านเท่านั้น เธอยังได้คะแนนสอบดีเลิศอีกด้วย เนื่องจากนับตั้งแต่ที่ภรรยาออกมาจากห้องสอบ เธอก็มีอารมณ์ดีอย่างยิ่ง

เห็นลูกชายโง่เง่าของนางเป็นแบบนี้แล้วท่านแม่โจวก็กระซิบ “แกไม่ได้คิดอะไรเลยเหรอ?”

“คิดอะไรเหรอครับ?” โจวชิงไป๋ถามผู้เป็นแม่

“ก็ถ้าเมียแกเข้ามหาวิทยาลัยไปแล้ว หล่อนก็จะต้องจากแกไปไกลเพื่อเรียนในมหาวิทยาลัย จากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับแกและเด็ก ๆ ล่ะ?” ท่านแม่โจวถาม จากนั้นก็เอ่ยต่อ “อีกอย่างเมียแกตอนนี้ก็มีชีวิตที่ดีในหมู่บ้านแล้ว หล่อนได้ทั้งเงินเดือนกับแต้มค่าแรง ใครจะไม่เคารพหล่อนบ้างเวลาออกไปไหนมาไหน? แล้วยังจำเป็นต้องเข้ามหาวิทยาลัยอีกเหรอ?”

โจวชิงไป๋จึงเข้าใจในทันที เขารู้ว่าแม่ของเขาทำแบบนี้เพราะหวังดี แต่เขาก็ได้ยินภรรยาบอกว่าในอนาคตข้างหน้า การมีประวัติการศึกษาที่ดีนับว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก

และเขารู้ว่าภรรยาต้องการจะออกจากหมู่บ้าน การเข้ามหาวิทยาลัยจึงเป็นเส้นทางการงานที่ดีเยี่ยม

“แม่อย่ากังวลเรื่องนี้ไปเลยครับ เจ้าใหญ่เองก็อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับแม่ของเขาเหมือนกัน” โจวชิงไป๋เอ่ย

ท่านแม่โจวชะงักไป จากนั้นนางก็มีท่าทางดีใจ “จริงเหรอ?”

หากหลานชายกับแม่ของเขาได้อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน คงไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม