คนทั้งคู่ไม่ได้เห็นหน้ากันมาแสนนานและพวกเขาก็ได้มาเจอกันอีกครั้ง ยังมีอะไรต้องพูดอีกล่ะ?
ทั้งสองย่อมแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกันอยู่แล้ว
หลังสงบเงียบต่อกันแล้ว พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะอยู่ในความร้อนรุ่มและชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ
“ฉันวางแผนจะกลับไปหลังวันหยุดเดือนหน้ามาถึงน่ะค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ย
วันเวลาในมหาวิทยาลัยผ่านไปเร็วมาก ชั่วพริบตาเดียวก็ถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งช่วงวันหยุดอยู่ในเดือนกรกฎาคมเหลืออีก 1 เดือนเท่านั้น
“งั้นเดือนหน้าคุณก็กลับบ้านเถอะ” โจวชิงไป๋เอ่ยขณะสวมกอดเธอไว้
หลินชิงเหอรู้ว่าเขาคิดถึงเธอ ไม่อย่างนั้นคงไม่รีบมาที่นี่แบบนี้หรอก ตอนนี้เธออารมณ์ดีมากอย่างเห็นได้ชัด
“ที่บ้านเป็นปกติดีไหมคะ?” หลินชิงเหอพูดต่อ
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี คุณไม่ต้องกังวลนะ” โจวชิงไป๋ตอบ
ตอนนี้กฎระเบียบต่าง ๆ ผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่นในปีนี้คนหลายคนในบ้านเกิดของพวกเขาสามารถเลี้ยงเป็ดไก่เป็นจำนวนมากได้แล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยนัก แต่ในไม่ช้าก็จะมีนโยบายที่ดีกว่านี้ออกมา
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงแม่ลูกทางนี้หรอกค่ะ” หลินชิงเหอบอก
“ผมเป็นห่วงนี่” โจวชิงไป๋พูด
หลินชิงเหอเงยหน้าขึ้นมองดูเขา และสบกับสายตาอ่อนโยนสุดขีดของโจวชิงไป๋ที่ทอดมองมา หญิงสาวยื่นหน้าไปจูบเขา “คุณได้พักผ่อนพอไหมคะ?”
ได้ยินดังนี้แล้ว โจวชิงไป๋ก็เข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร
ทั้งคู่อยู่ในบ้านพักรับรองจนกระทั่งถึงเย็น จากนั้นก็ออกไปกินอาหารเย็นด้วยกันและเดินเล่นรอบเมืองก่อนกลับมาที่บ้านพัก
เช้าตรู่วันพรุ่งนี้เอง โจวชิงไป๋ก็ต้องกลับบ้าน หลินชิงเหอจึงไปส่งเขาและให้ซาลาเปาลูกใหญ่ไปหลายลูกเพื่อให้เขากินตอนระหว่างเดินทาง ทั้งคู่เอ่ยอำลากันด้วยท่าทางอิดออด และตอนที่รถไฟกำลังจะออกจากชานชาลานั่นเอง โจวชิงไป๋ถึงได้ก้าวขึ้นรถ
หลินชิงเหอกลับมาด้วยตัวคนเดียว
โจวข่ายรออยู่นานแล้ว เมื่อเห็นแม่เดินกลับมา เขาก็เดินเข้ามาหาทันที
“แม่ เมื่อวานนี้พ่อไม่ได้มาหาเหรอครับ?” โจวข่ายเอ่ยถามรัวเร็ว
เมื่อวานนี้ตอนที่เขากลับมาถึง เขาก็ได้ยินเพื่อนร่วมชั้นบอกว่ามีคนมาพบแม่ของเขา เขาจึงรีบถามยามรักษาการณ์ที่เฝ้าประตูในทันที
จากนั้นเขาก็รู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาหาแม่ของเขา เมื่อฟังรูปพรรณสัณฐานที่คุณลุงเล่าให้ฟัง นอกจากพ่อของเขาแล้วจะเป็นใครได้อีก?
ตามความคิดของโจวข่าย ในเมื่อพ่อของเขามาแล้วก็ควรจะมีการรวมตัวกัน
จากนั้นก็ต้องพากันไปกินอาหารในภัตตาคารใหญ่
แต่ใครจะรู้ล่ะว่าพ่อกับแม่ของเขาออกไปกันเองสองคนและไม่รอเขาเลยสักนิด
“เขา” หลินชิงเหอไม่ได้จดจำว่าเธอยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งจนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอบอกเขากลับไปว่า “พ่อของลูกกลับไปแล้วน่ะ”
โจวข่ายได้ยินก็เอ่ยขึ้น “ผมว่าแล้ว พ่อกับแม่ต้องลืมผมไปแล้วแน่ ๆ!”
“รีบเข้าเรียนเร็ว” หลินชิงเหอโบกมือไล่จากนั้นก็กลับไปที่หอพัก
หวังลี่อยู่ที่หอคนเดียว คนอื่น ๆ ไปเรียนกันหมด มีเพียงหวังลี่เท่านั้นที่ว่าง เมื่อหล่อนเห็นหลินชิงเหอกลับมา หล่อนก็รีบเอ่ยล้อเลียนสิ่งที่หลินชิงเหอเคยพูดล้อเมื่อก่อนหน้านี้ “โอ้ ใต้ตาเธอมีรอยคล้ำด้วยล่ะ เมื่อคืนนี้เธอคงยุ่งมากสินะ”
“ไม่มากหรอก แค่ 7 ครั้งเอง” หลินชิงเหอบอก
“ 7 ครั้ง?” หวังลี่เกือบจะสำลักน้ำลายตาย นี่มันทรงพลังเกินไปแล้ว
หลินชิงเหอยังมีท่าทางสงบนิ่งและเปิดหนังสืออ่านทบทวนความรู้ หวังลี่มองเธอจากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “เธอไม่พักผ่อนบ้างเหรอ?”
“ฉันไม่เหนื่อยหรอก ทำแล้วมีความสุขดี” หลินชิงเหอยังคงทำตัวก๋ากั่น
หวังลี่ระเบิดหัวเราะทันที “เธอนี่น่าไม่อายเลย”
“เราเป็นเพื่อนสนิทกันนี่” หลินชิงเหอไม่ถือสาแต่อย่างใด
ที่ว่า 7 ครั้งในคืนนั้นแน่นอนว่าเธอพูดโม้ แต่ถึงอย่างนั้นหลินชิงเหอก็ไม่แปลกใจถ้าโจวชิงไป๋จะมีความสามารถขนาดนั้น
แต่เขาเดินทางมาโดยไม่หยุดพัก พวกเขาไม่อาจมีกะจิตกะใจทำเรื่องนี้แค่เรื่องเดียวหรอก
เป็นแค่อารมณ์พาไปเท่านั้นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...