เมื่อเห็นอาการของพวกหล่อนแล้ว หลินชิงเหอก็เอ่ยขึ้น “ได้สิคะ ให้พวกเขามาที่นี่ตอนสี่โมงเย็น แล้วฉันจะสอนให้จนถึงห้าโมงเย็นเลยค่ะ”
ในตอนนี้เธอเริ่มเตรียมอาหารมื้อเย็น คงไม่มีปัญหามากนักหากจะให้หลานชายกับหลานสาวร่วมโต๊ะด้วย
สะใภ้ใหญ่กัสะใภ้สามต่างดีใจ พวกหล่อนยืมยันว่าจะทิ้งไข่ไว้ที่บ้านสะใภ้สี่ และเมื่อกลับไปที่บ้าน ทั้งคู่ก็ได้ส่งอู่นีกับโจวหยางมาพร้อมกับถั่วเหลืองและเมล็ดงา
หลินชิงเหอให้เด็กทั้งคู่นำไข่กลับไป หากพวกเขาไม่นำกลับไปเธอก็จะไม่สอนหนังสือ ดังนั้นทั้งคู่จึงยอมนำไข่กลับไปด้วยดี
แล้วทั้งคู่ก็โดนแม่ของตัวเองดุ
“เก็บไข่ไว้ก็ไม่มีปัญหานะ” ท่านแม่โจวเอ่ย
หลินชิงเหอไม่อยากเอาเปรียบคนอื่น ครอบครัวของเธอไม่ได้ขาดแคลนของสิ่งนี้แม้แต่น้อย เธอตอบกลับไป “ฉันอยากให้เอากลับไปบำรุงร่างกายพี่ชายใหญ่กับพี่ชายสามน่ะค่ะ”
สามครอบครัวไม่ได้มีไข่กินเยอะนัก เธอแค่ชี้ทางให้เฉย ๆ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
เมื่อท่านแม่โจวได้ยินเธอตอบดังนี้ นางก็ไม่พูดอะไร แต่ในใจยกสะใภ้สี่ขึ้นในระดับสูงกว่าเดิม
จากนั้นหลินชิงเหอก็บอกโจวชิงไป๋ให้เขาได้รับรู้ “คุณพักอยู่ที่บ้านนะคะ ฉันไปหาเหมยเจี่ยก่อน”
“ได้ครับ” โจวชิงไป๋พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
หลินชิงเหอขี่จักรยานเดินทางมาหาเหมยเจี่ย และยังนำผ้าพันคอบางผืนไปด้วย ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อนก็จริง แต่หล่อนเก็บไว้ใช้ในช่วงฤดูหนาวได้
“รบกวนเธอแล้วจริง ๆ” เหมยเจี่ยเอ่ยอย่างดีใจ
“รบกวนอะไรกันคะเหมยเจื่ย? อ๋อ ฉันอยากได้เนื้อหมูสัก 2-3 ชั่งน่ะค่ะ” หลินชิงเหอตอบ
“อยากได้ส่วนไหนบ้างล่ะ” เหมยเจี่ยพยักหน้า
“หมูสามชั้น เนื้อติดกระดูก กระเพาะหมู และลำไส้ใหญ่ค่ะ”
เหมยเจี่ยได้ยินแล้วก็ให้สัญญา “มารับที่โรงเลี้ยงหมูในตอนเช้ามืดของคืนนี้นะจ๊ะ”
“ตกลงค่ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า
จากนั้นเธอก็กลับไป เมื่อกลับไปถึงบ้าน โจวชิงไป๋ก็อาบน้ำเสร็จแล้ว
ส่วนเจ้ารองกับเจ้าสามนั้นออกไปจับปลาไหลกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน
“คืนนี้ต้องนอนเร็วนะคะ ตอนเช้ามืดต้องออกไปรับเนื้อหมูน่ะค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยพลางหยิบแตงโมที่เหลืออยู่มาเคี้ยวกิน
“คุณไปอาบน้ำเถอะ” โจวชิงไป๋จ้องมองภรรยา
หลินชิงเหอหน้าแดง จากนั้นก็กลอกตาใส่เขาและเอ่ยขัด “วันนี้คุณเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันแล้วนะคะ”
“ผมไม่เหนื่อยหรอก” โจวชิงไป๋จ้องมองเธอด้วยอาการสงบ
ในตอนแรกเขาหมดแรงแล้ว แต่การกลับมาของภรรยาในวันนี้ทำให้เขารู้สึกฟื้นคืนชีพ ไม่เหนื่อยแม้แต่นิดเดียว
“คุณกินนะคะ” หลินชิงเหอเหลือแตงโมส่วนที่กินค้างไว้ให้เขา จากนั้นก็ไปอาบน้ำ
โจวชิงไป๋กินแตงโมที่เหลือและซักผ้าให้ภรรยาที่ถอดเปลี่ยนแล้ว
ในช่วงต้นของความสัมพันธ์ หลินชิงเหอรู้สึกอายที่ให้เขาซักผ้าให้ แต่ตอนนี้เธอชินแล้ว
มีแต่หัวใจที่อ่อนยวบลงเมื่อเดินออกมาแล้วเห็นเขากำลังซักเสื้อผ้าให้เธอ
หลินชิงเหอสระผมครู่หนึ่งขณะอยู่ในห้องน้ำ ตอนนี้เธอกำลังเช็ดผมให้แห้ง โจวชิงไป๋ที่ซักเสื้อผ้าเสร็จไม่นานก็มาช่วยเช็ดผมให้ภรรยา
ตอนนี้มีแค่พวกเขาสองคนที่อยู่บ้าน ผู้เฒ่ายังไม่กลับมา ส่วนเด็ก ๆ ก็ออกไปจับปลาหนีชิวกับปลาไหลนา
ส่วนท่านพ่อโจวกับท่านแม่โจวได้กลับบ้านไปหลังกินแตงโมเสร็จแล้ว ไม่มีทางมาอีกครั้ง
หลินชิงเหอปล่อยให้โจวชิงไป๋เช็ดผมให้เธอ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสภาพแวดล้อมในเมืองใหญ่อย่างเมืองหลวงหรือไม่ ทำให้ผิวของหลินชิงเหอขาวขึ้นในทุกปีนับตั้งแต่ได้ไปศึกษาอยู่ที่นั่น
เธอเป็นคนผิวค่อนข้างขาวอยู่แล้วเมื่ออยู่ในชนบท ตอนนี้เธอกลับขาวยิ่งขึ้นไปอีก
โจวชิงไป๋เพิ่งทำงานในทุ่งนาเสร็จ ทั้งร่างของเขาดูราวกับถูกระบายสี เมื่อเทียบกับภรรยาแล้วทั้งคู่ก็ดูแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
กลับกัน หลินชิงเหอกลับรู้สึกมีความสุขกับบริการของสามีเป็นพิเศษ เธอเอ่ยขึ้น “ถ้าผิวคุณยังคล้ำอยู่แบบนี้ ใครบางคนที่ไม่รู้จักคุณก็คงจะคิดว่าคุณมาจากทวีปแอฟริกาแน่ ๆ ค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...