ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 272

บทที่ 272 คนรุ่นนั้น
โดย
EnjoyBook
บทที่ 272 คนรุ่นนั้น

ท่านแม่โจวมีท่าทางร่าเริงแจ่มใสหลังได้ฟัง

กลางคืนนั้นเอง นางก็บอกเรื่องนี้กับท่านพ่อโจว

“ฟังจากคำพูดของสะใภ้สี่แล้ว ฉันคิดว่าในวันข้างหน้าหล่อนคงจะพาเราไปเมืองหลวงแน่ ๆ เลย” ท่านแม่โจวกระซิบ

เสียงของนางเปี่ยมด้วยความสุขล้น

ท่านพ่อโจวเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินดังนี้ “แล้วเราจะทำอะไรกันในเมืองหลวงล่ะ? เราสองคนคงอยู่เฝ้าบ้านที่นี่ล่ะ หากในอนาคตพวกเขาแยกจากไป เราก็จะอยู่เฝ้าบ้านเอง”

“แต่นั่นเป็นเมืองหลวงเชียวนะ คุณไม่อยากไปดูหน่อยเหรอ? ทั้งประตูเทียนกงกับจัตุรัสเทียนอันเหมินเลย” ท่านแม่โจวบอก

ท่านพ่อโจวอยากไปดูเหมือนกัน ทำไมเขาถึงจะไม่อยากล่ะ? แต่สถานที่เหล่านั้นแค่เป็นสิ่งที่ดูเอื้อมไม่ถึงสำหรับคนธรรมดาอย่างพวกเขาเท่านั้นเอง

“ทุกอย่างต้องใช้เงินหมดล่ะเวลาจะออกไปทุกที่ข้างนอกบ้าน ไม่มีอะไรมั่นคงหรอกในตอนที่พวกเขาย้ายไปแล้ว เราอยู่กันที่บ้านนี่แหละ ถ้าในอนาคตพวกเขาตั้งตัวกันได้แล้ว เราค่อยออกไปหาตอนนั้น” ท่านพ่อโจวพูด

“ในอนาคตสะใภ้สี่จะได้อยู่ที่มหาวิทยาลัยแน่นอน ไม่รู้ว่าหล่อนจะสมัครงานเฝ้าประตูให้ชิงไป๋ได้หรือเปล่า เป็นแบบนี้แล้วทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกัน” ท่านแม่โจวครุ่นคิด

“คุณนี่ก็ช่างคิดนะ” ท่านพ่อโจวตอบแบบไม่ค่อยเห็นด้วยนัก

“อะไร? คุณคิดว่ามันขายหน้าเหรอ?” ท่านแม่โจวได้ยินดังนี้ก็รู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไรจึงโพล่งสวนกลับไป

ตอนนี้งานช่างหายากนัก ไม่มีอะไรต้องรู้สึกอับอายแล้ว แต่จากความเห็นของชายชรา เขาคิดว่ามันเป็นงานที่น่ารังเกียจอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่ใช่ว่างานเฝ้าประตูเป็นเรื่องน่าอับอายหรอก เจ้าใหญ่กับแม่ของเขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยทั้งคู่ แต่คุณกลับอยากให้ชิงไป๋มาเฝ้าประตูนี่นะ?” ท่านพ่อโจวเอ่ย

“แล้วยังไงล่ะ? คุณอยากให้ชิงไป๋นั่งเฉย ๆ กินข้าวอย่างเดียวเหรอ? ชิงไป๋ทนไม่ได้หรอก” ท่านแม่โจวเอ่ยอย่างรู้ใจลูกชายคนเล็กดี

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก พวกเขาคงจะมีแผนของตัวเอง เราแค่อยู่บ้านและอย่าสร้างปัญหาให้พวกเขาก็พอ” ท่านพ่อโจวเอ่ยแนะ

หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋เองก็กำลังนอนหลับอยู่

โจวชิงไป๋กำลังยุกยิกอยู่ไม่สุข แต่หลินชิงเหอก็ห้ามไว้จนเขานอนหลับอย่างว่าง่าย ไม่ได้ทำอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น

เช้าวันต่อมา มีเพียงท่านแม่โจวและหลินชิงเหอที่อยู่บ้าน ซึ่งท่านแม่โจวก็นำเรื่องนี้มาสนทนากับเธอ

“แม่เจ้าใหญ่ ถ้าอนาคตเธอได้ไปเมืองหลวง ชิงไป๋จะไม่มีอะไรทำนะ ไม่รู้ว่างานยามเฝ้าประตูเขาจะทำได้ไหม ทางมหาวิทยาลัยจะต้องการคนอย่างเขาหรือเปล่า?” ท่านแม่โจวถาม

หลินชิงเหออึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็เงียบค้างไป แม่สามีของเธออยากให้ชิงไป๋ไปเป็นยามรักษาการณ์ของมหาวิทยาลัยปักกิ่งงั้นเหรอ?

“แม่เจ้าใหญ่ เธอคิดว่าอย่างไรล่ะ?” ท่านแม่โจวเอ่ยต่อ

นางครุ่นคิดเรื่องนี้ตลอดทั้งคืน คิดว่ามันเป็นเรื่องดีและเมินคำพูดของชายชราเสีย

ลูกชายคนเล็กของนางมีทักษะความสามารถและสามารถปกป้องมหาวิทยาลัยได้ มันคงไม่เจ็บปวดนักที่ให้ลูกชายของนางเป็นยามเฝ้าประตู

“คุณแม่เต็มใจก็จริง แต่ฉันทนไม่ได้ที่จะให้ชิงไป๋ของฉันเฝ้าประตูหรอกค่ะ” หลินชิงเหอตอบพลางหัวเราะ

“แต่ว่า…ถ้าเขาไม่ทำงานนี้แล้ว แล้วเขาจะทำอะไรได้ล่ะ? งานในเมืองหลวงหายากไม่ใช่เหรอ?” ท่านแม่โจวไม่คิดว่าสะใภ้จะไม่เห็นด้วย

“คุณแม่วางใจเถอะค่ะ ฉันคุยเรื่องนี้กับชิงไป๋แล้ว เรามีแผนของเราเอง เมื่อไหร่ที่เราตั้งตัวได้ เราก็จะพาคุณแม่กับคุณพ่อไปอยู่ด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ไปนะคะ” หลินชิงเหอเอ่ยปลอบ

ผู้ใหญ่มักจะคิดหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนทั้งคู่ ซึ่งเรื่องนี้เธอเข้าใจ

เมื่อได้ยินดังนี้ ท่านแม่โจวก็พยักหน้าและเอ่ยขึ้น “ถ้างั้นก็ตกลง แม่จะไม่พูดอะไรต่อแล้ว ตราบใดที่เธอรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่”

หลังคุยกับแม่สามีเสร็จ หลินชิงเหอก็เรียนหนังสือต่อ

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ถึงวันที่หลินชิงเหอต้องกลับเมืองหลวง

โจวชิงไป๋ไปส่งเธอยังในอำเภอ ทั้งคู่เอ่ยอำลาซึ่งกันและกัน

“ฉันจะเรียนจบในปีหน้านะคะ ดังนั้นเหลือเวลาอีกไม่นานหรอกค่ะ” หลินชิงเหอบอก

“อืม ถ้าคุณไปถึงที่นั่นแล้วก็อย่าหักโหมมากนะ” โจวชิงไป๋เอ่ยพลางมองเธอไปด้วย

“รู้แล้วค่ะ คุณตอนอยู่บ้านก็เหมือนกันนะ ดูแลตัวเองด้วย อย่าลดจำนวนนมที่สั่งในทุกวันลงนะคะ คุณต้องดื่มให้หมด เข้าใจไหมคะ?” หลินชิงเหอสั่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม