“นั่นสิ อากาศหนาวขนาดนี้ต้องเอาผ้านวมไปด้วยนะ ถ้าไปถึงที่นั่นก็ต้องเสียเงินซื้ออีกเป็นหลายหยวนแล้วมันจะสายเกินไป” พี่สาวรองเอ่ยโน้มน้าว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเตรียมทุกอย่างไว้ที่นั่นพร้อมแล้ว แค่ย้ายเข้าไปอยู่เท่านั้นเองค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยให้ความวางใจ
“พี่ครับ นี่เป็นแป้งจี่ที่ภรรยาผมทำให้พี่ พี่เขย และหลาน ๆ เก็บไว้กินนะครับ” น้องชายสามตระกูลหลินเอ่ยพลางยื่นห่อของเล็ก ๆ ให้
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะ” หลินชิงเหอพยักหน้า
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ” น้องชายสามตระกูลหลินเอ่ย
หลังพูดจบ เขาก็ขี่จักรยานจากไป หลังขี่ไปได้ครึ่งทางเขาก็หยุดและตะโกนบอก “พี่ ดูที่ก้นห่อนะครับ”
หลังบอกเสร็จเขาก็ขี่จักรยานจากไปอย่างรวดเร็ว
หลินชิงเหอรีบมองที่ก้นห่อและพบว่ามีธนบัตร 10 หยวนอยู่ 5 ใบ
พี่สาวใหญ่ พี่สาวรอง และสะใภ้คนอื่น ๆ ต่างเห็นกันทั้งหมด
“เจ้าเด็กเหม็นนี่” หลินชิงเหอเอ่ยพลางอมยิ้ม เดิมเธอวางแผนว่าจะใช้โอกาสที่น้องชายสามของเธอกลับไปแล้วหยิบเงินขึ้นมาต่อหน้าสะใภ้ทั้งสาม แต่ไม่คิดเลยว่าน้องชายของเธอจะให้เงินมา
เธอไม่มีเวลาที่จะถอนเงินออกมา เงินพวกนี้น้องชายเป็นคนให้ทั้งหมด
เธอใช้เงินไปเป็นจำนวนมากในการซื้อจักรยานคันนี้ แต่หลังผ่านมาหลายปี มันก็ไม่ได้มีมูลค่ามากขนาดนั้นแล้ว
“เขากลัวว่าเธอจะมีเงินไม่พอใช้เมื่อไปอยู่ที่นั่นน่ะจ้ะ” สะใภ้ใหญ่พูด
สะใภ้รองกับสะใภ้สามไม่มีอะไรจะพูด พวกหล่อนรู้ว่าสะใภ้สี่ยกจักรยานให้กับน้องชายของเธอ แม้จะเข้าใจความคิดของเธอดี แต่พวกหล่อนก็ยังรู้สึกไม่สบายใจนัก
ทุกคนต่างเป็นคนรู้จักคุ้นเคยกัน แต่ของเหล่านี้กลับไม่ได้เก็บไว้ใช้พวกเขาที่เป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ แต่กลับนำไปให้น้องชายฝั่งแม่แทน
หลินชิงเหอยิ้มโดยไม่ตอบอะไร
หลายปีมานี้เธอรู้ดีว่าน้องชายมีนิสัยเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ให้จักรยานกับเขา
น้องชายของเธอเป็นห่วงเธอผู้เป็นพี่สาวมาก
เงิน 50 หยวนนี้ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะว่าไม่อยากให้เธอถูกบรรดาพี่สะใภ้ตำหนิ และส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขากังวลว่าเธอจะไม่มีเงินใช้
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เขาล้วนทำไปเพื่อเธอ
หลินชิงเหอไม่ขอให้ใครส่งคืนไปให้เขา เธอรับเงินจำนวนนี้ไว้
คนอื่น ๆ ก็นำเงินออกจากกระเป๋าของพวกเขาเช่นกัน โดยแต่ละคนออกให้คนละ 10 หรือ 20 หยวน
เห็นชัดว่าพวกเขาตั้งใจจะเอามาให้เธอ หลินชิงเหอจึงปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม “ไม่จำเป็นต้องให้เงินฉันหรอกมั้งคะ? เงินเดือนของฉันอยู่ที่ 60 กว่าหยวนต่อเดือนน่ะ ต่อให้ชิงไป๋อยู่ที่บ้าน ฉันก็ยังเลี้ยงเขากับเด็ก ๆ ได้อยู่ ทุกคนเก็บเงินกลับไปเถอะค่ะ เอาล่ะ ตอนนี้สายแล้ว ครอบครัวเราต้องขึ้นรถแล้วค่ะ ถ้าภายหน้าพวกพี่อยากไปเที่ยวในเมืองหลวงก็โทรหาฉันนะคะ คุณแม่มีหมายเลขโทรศัพท์สำนักงานของฉันอยู่ค่ะ”
จากนั้นทั้งครอบครัวก็ขึ้นรถประจำทาง
ทั้งเจ้ารองกับเจ้าสามต่างดีใจสุดขีด สองพี่น้องตื่นเต้นยินดีจนนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
พวกเขากำลังไปที่เมืองหลวง!
ไม่มีเด็กคนไหนไม่อยากเผชิญกับเมืองใหญ่นอกบ้าน โดยเฉพาะตอนที่ติดตามพ่อแม่ของพวกเขาไปด้วย
พวกเขามีเพียงเสื้อผ้าสองห่อและของเล็กน้อยอื่น ๆ ที่โจวชิงไป๋เป็นคนถือเท่านั้น ไม่มีของอะไรอย่างอื่นเลย
เธอกับเจ้าใหญ่จัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว จึงไม่มีอะไรขาดหาย
หลังขึ้นรถไฟแล้ว ทั้งครอบครัวก็มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง
เจ้ารองกับเจ้าสามมีพลังงานเต็มเปี่ยมและดูไม่เหนื่อยอ่อนแต่อย่างใด พวกเขายังช่วยเหลือคนอื่น ๆ บนรถไฟด้วย
หลินชิงเหอรู้สึกกลัวการนั่งรถไฟเล็กน้อย ต่อให้พวกเขาจะซื้อตั๋วนอนที่มีเตียงนุ่มสบายแล้วก็ตาม ช่างเป็นชีวิตที่มีแต่การนอนโดยแท้ เธอจึงนอนพิงโจวชิงไป๋ขณะอ่านหนังสือไปด้วย
หลังมาถึงเมืองหลวงและลงจากรถไฟแล้ว หลินชิงเหอก็รู้สึกผ่อนคลาย ในที่สุดเธอก็หายใจได้ทั่วท้องเสียที
ขณะที่สองพี่น้อง เจ้ารองกับเจ้าสามยังคงกระตือรือร้นเหมือนเคย ไม่มีท่าทีว่าจะอ่อนแรงเลยสักนิด
“พี่ใหญ่!” เจ้าสามเบิกตากว้างเมื่อเห็นพี่ชายคนโตเป็นคนมารับพวกเขา เขาเอ่ยทักทายอีกฝ่ายด้วยความดีใจทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...