หลังกินเสร็จ ลูกค้าก็เข้ามาที่ร้าน 4 คน ทุกคนต่างออกไปหลังจากกินเสร็จและลูกค้าอีกคนหนึ่งก็เข้ามาอีกครั้ง
หากดูแบบนี้ ก็นับได้ว่าไม่มีคนเข้าร้าน แม้แต่หลินชิงเหอก็ยังรู้สึกว่าธุรกิจเป็นไปแบบงั้น ๆ ?
โจวชิงไป๋เก็บถ้วยชามไปล้างและเช็ดทำความสะอาดโต๊ะ
หลินชิงเหอจึงพาลูกชายคนเล็กสองคนกลับบ้านไปพักผ่อน ขณะที่โจวชิงไป๋ยังคงขายเกี๊ยวกับโจวข่าย
ในตอนกลางคืนพวกเขาไม่มีเกี๊ยว แต่มีหมั่นโถวแทน พวกเขาไม่อยากเปิดเตาเป็นการรบกวนที่บ้านจึงมากินที่ร้าน
อาหารหลักเป็นหมั่นโถว เคียงด้วยแกงแกะหม้อหนึ่ง
หลินชิงเหอรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก “เนื้อแกะนี่มาจากไหนเหรอคะ?”
“ตอนนี้มีไม่มากหรอก แต่ในสิ้นปีจะมีมากกว่านี้น่ะ” โจวชิงไป๋บอก
เถ้าแก่บอกว่าเขาวางแผนจะเลี้ยงแกะมากขึ้นในปีนี้ ดังนั้นจะมีเนื้อแกะมาส่งให้เป็นจำนวนไม่น้อย
ทั้งครอบครัวกินหมั่นโถวเคียงแกงแกะจนรู้สึกอิ่มหนำสำราญ
ตอนนี้ช้ามากแล้ว เป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม ในตอนที่ครอบครัวนี้กำลังกินแกงแกะกับหมั่นโถว ก็ยังมีลูกค้าคนหนึ่งเข้ามาในร้าน
เขาถึงกับถามขึ้น “มีเกี๊ยวแกะเหลือไหม?”
“ไม่มีครับ” โจวชิงไป๋ลุกขึ้นไปให้บริการและแสดงเมนูอาหารซึ่งดูเรียบง่ายอย่างยิ่ง มีอาหารอยู่ 4 อย่าง เป็นเกี๊ยวหมูกับกะหล่ำปลี เกี๊ยวหมูกับเห็ด เกี๊ยวหมูกับเต้าหู้ หรือไม่ก็เกี๊ยวหมูกับผักดอง
ช่วยไม่ได้นี่นะ ตอนนี้มีวัตถุดิบอยู่แค่นี้ แต่เมื่อเริ่มฤดูใบไม้ผลิก็จะมีผักผลไม้ขายในท้องตลาดมากขึ้น มันก็จะมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครรังเกียจร้านเกี๊ยวธรรมดา ๆ แบบนี้ มีคนไม่มากนักที่เป็นเถ้าแก่ แล้วพวกเขาจะใส่ใจไปทำไม
ลูกค้านั่งลงและกินเกี๊ยวหมูกับผักดองไป 1 ชาม จากนั้นก็จ่ายเงินและออกจากร้านไป
หลินชิงเหอยังคงมีกิจวัตรเป็นไปตามปกติ หลังกินเสร็จแล้วเธอก็พาลูกคนเล็กทั้งสองกลับบ้านและทำในสิ่งที่พวกเขาควรทำ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมการเรียนการสอนหรือเรียนหนังสือ
โจวข่ายกับโจวชิงไป๋ไม่ได้ปิดร้าน จนกระทั่งถึงสามทุ่มพวกเขาจึงเก็บร้านและกลับมาที่บ้าน
หลังทำความสะอาดร้านไปคร่าว ๆ แล้ว พวกเขาก็กลับมาที่บ้านเพื่อมานับดูรายได้ในวันนี้
เขาคำนวณค่าต้นทุนทุกอย่าง เกี๊ยว 1 ชามทำรายได้ไม่มากนัก แค่เพียง 5 เหมาเท่านั้น ซึ่งนับว่าได้กำไรไม่มาก
วันนี้พวกเขาขายเกี๊ยวไปได้ 37 ชาม ทำให้ได้เงินมาเกือบ 2 หยวน
เงิน 2 หยวนนี้อาจไม่มาก แต่เมื่อหลินชิงเหอเห็นเขาทำบัญชีอย่างกระตือรือร้น เธอก็รู้สึกว่าชายหนุ่มเถรตรงของเธอคนนี้ช่างน่ารัก
นี่สินะที่เรียกว่าความน่ารักระหว่างชนชั้น!
“ในวันข้างหน้าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนครับ” โจวชิงไป๋หันไปมองภรรยาที่กำลังมองเขาและบอกกับเธอ
กิจการวันนี้ทำให้เขามีความมั่นใจอย่างมาก มันไม่ยากเลย เมื่อลูกค้าเข้าร้าน พวกเขาก็สั่งสิ่งที่จะกินและเขาก็ทำเพียงนำมันไปส่งที่โต๊ะ
วันนี้หญิงชราคนหนึ่งมากินเกี๊ยวและถามว่าทำไมชายหนุ่มในวัยอย่างเขาถึงมาเปิดร้านด้วยตัวเอง
เขาตอบไปว่าภรรยาของเขาสอนหนังสือและลูกชายก็กำลังเรียนอยู่ พวกเขาจึงไม่มีเวลา เขาจึงเป็นคนจัดการงานด้านนี้ด้วยตัวเอง
ทันทีที่ถามและได้ความว่าภรรยาของเขาสอนหนังสืออยู่ในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง นางก็เอ่ยชมว่าเขามีสายตาดีถึงมีภรรยาแบบนี้ได้
มุมปากของโจวชิงไป๋โค้งขึ้นเล็กน้อย หลินชิงเหอจึงคิดว่าเขาคงอารมณ์ดี เพราะวันนี้สามารถหาเงินได้ เธอจึงลุกขึ้นไปหอมแก้มเขาและเอ่ยขึ้น “วันนี้แค่เปิดร้านวันแรกและอากาศยังเย็นมาก ลูกค้าเลยไม่ค่อยเข้าน่ะค่ะ ในเมื่อมีคนสั่งเยอะ คุณก็รับปากเอาไว้สิคะ พอถึงหน้าใบไม้ผลิก็ไม่ต้องบรรยายเลยว่ามันจะเป็นยังไง” หลินชิงเหอบอก
“อืม” โจวชิงไป๋รับคำและเอ่ยขึ้น “ตอนนี้ดึกมากแล้ว ได้เวลานอนแล้วล่ะ”
หลินชิงเหอเข้านอน บางทีเป็นเพราะชิงไป๋ของเธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยไปกับวันนี้และมีคำแนะนำจากลูกค้าเข้ามามากขึ้น หลินชิงเหอจึงปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ
หลังกินเสร็จแล้ว โจวชิงไป๋ก็เปิดร้านต่อในตอนเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...