หลังกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น โจวชิงไป๋ก็บอกหลินชิงเหอในเรื่องเดิมอีกครั้ง
หลินชิงเหอได้ยินดังนี้ก็ไปหาคุณป้าหม่า เธอยิ้มให้กับนาง “ถ้าคุณลุงหวังเต็มใจ ทางเราก็ไม่มีปัญหาค่ะ ฉันคงต้องรบกวนคุณลุงหม่าหาวันว่างเพื่อที่ทุกคนจะได้ไปกินเกี๊ยวร่วมกันที่ร้านเรานะคะ”
“ตกลงจ้ะ ถ้าเฒ่าหวังมาแล้วฉันจะบอกเขาให้นะ” คุณป้าหม่าเอ่ยอย่างดีใจ
ตระกูลหม่าของพวกเขามีความสัมพันธ์ดีเยี่ยมกับตระกูลหวังมาก่อน จึงไม่ต้องบอกเลย่ว่าพวกเขาเองก็หวังจะได้เห็นเฒ่าหวังผู้เป็นเพื่อนบ้านเก่าแก่ที่ดีคนนี้มีคนมาดูแลเขายามแก่เฒ่า
จากคำพูดของนางก็คือ เขามีเงินมากแล้วอย่างไรล่ะ? ตอนที่เขาอยากให้ใครสักคนมารินน้ำอุ่นแก้วหนึ่งให้ก็คงจะไม่มี การอยู่คนเดียวนับว่าช่างลำบากจริง ๆ
และในสิ้นเดือนพฤษภาคม ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อทูนหัวและบุตรอุปถัมภ์ก็เริ่มต้นขึ้น
โจวข่าย โจวเฉวี่ยน และโจวกุยหลายเปลี่ยนสรรพนามมาเรียกเขาว่าคุณตาหวัง
ส่วนโจวชิงไป๋ยังคงเรียกว่าคุณลุงอยู่เช่นเดียวกับหลินชิงเหอ คุณลุงหวังอ่อนกว่าท่านพ่อโจวไม่กี่ปี แต่สุขภาพของเขาแข็งแรงสู้ท่านพ่อโจวไม่ได้
ช่วยไม่ได้ที่ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้เขาต้องอยู่อย่างลำบาก
หลังรับรู้ความสัมพันธ์นี้ เฒ่าหวังก็เลิกกินอาหารที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย และโจวข่ายก็เป็นคนมารับเขาไปกินข้าวที่ร้านเกี๊ยว
เย็นวันนั้นเอง ทั้งครอบครัวก็ได้มารวมตัวกันกินแกงเนื้อแกะกับหัวไชเท้าเคียงกันกับซาลาเปาฝีมือของโจวชิงไป๋
นับตั้งแต่เปิดร้านเกี๊ยว โจวชิงไป๋ก็ได้ชำนาญในวิชาสองตัวอักษรอย่าง ปรุงอาหาร ตอนนี้แม้แต่อาหารเช้าเขาก็เป็นคนทำ โดยที่หลินชิงเหอใช้ให้โจวข่ายไปบรรจุอาหารเช้าจากที่ร้านกลับมากินที่บ้านในตอนเช้า นับว่าครอบครัวนี้หยุดเปิดเตาทำอาหารที่บ้านไปอย่างสมบูรณ์
อาหารสามมื้อในแต่ละวันล้วนเป็นฝีมือของโจวชิงไป๋
อย่างเช่นแกงเนื้อแกะกับหัวไชเท้าและซาลาเปาไส้ผักของวันนี้ก็เป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของโจวชิงไป๋
หลินชิงเหอพบว่าสามีของเธอช่างเป็นสมบัติล้ำค่า เธอกำลังคิดว่าชิงไป๋ของเธอยังมีทักษะด้านไหนอีกที่เธอยังไม่ค้นพบ?
“ทำไมวันนี้มีเนื้อแกะด้วยล่ะคะ?” หลินชิงเหอถามหลังกินจนอิ่มหนำสำราญแล้ว
ซาลาเปาไส้ผักกับแกงเนื้อลูกแกะหัวไชเท้าช่างอร่อยจริง ๆ
“ผมเห็นตอนไปเดินดูของก็เลยซื้อมาน่ะ” โจวชิงไป๋บอก
บอกได้ว่าเขาเองก็เห็นความเปลี่ยนแปลง เมืองหลวงมีการพัฒนาเปลี่ยนไปทุกวันจริง ๆ คนขายของหาบเร่มีมากขึ้น ทุกอย่างสามารถขายได้หมด
แม้เนื้อแกะนี้จะมีเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ยังมีขาย
ไม่เพียงแต่หลินชิงเหอจะพอใจ เด็ก ๆ กับเฒ่าหวังก็พอใจด้วย
“ทักษะทำอาหารของป๊าดีขนาดนี้ทำไมเราไม่สังเกตมาก่อนนะครับ เป็นเพราะความรักที่มากเกินของม้าล้วน ๆ เลย” โจวกุยหลายเอ่ย
“ม้าน่ะหรือรักมากเกิน? ในอดีตตอนที่อยู่ชนบทป๊าต้องออกไปแต่เช้าตรู่และกลับมามืดค่ำทุกวัน ม้าจะใจจืดใจดำปล่อยให้เขากลับมาทำงานที่บ้านหลังเสร็จจากงานในทุ่งนาได้ยังไงล่ะ?” หลินชิงเหอแย้ง
“ก็เป็นแบบนั้นแหละครับ ตอนที่ป๊าว่าง มือป๊าก็ไม่ได้ห่างจากฝุ่นและความสกปรกเลยนะครับ” โจวกุยหลายเอ่ย
“ม้าไม่เถียงกับลูกแล้ว เถียงไปเดี๋ยวตัวเองโง่ลง” หลินชิงเหอตำหนิกลับ
เฒ่าหวังเห็นแล้วก็ยิ้มและเอ่ยขึ้น “ลุงกลับก่อนล่ะ”
“ไปส่งคุณตาทูนหัวกลับสิลูก” หลินชิงเหอบอก
สองพี่น้องคนเล็กส่งเขากลับมหาวิทยาลัย ส่วนโจวข่ายอยู่ช่วยล้างจานและดูแลร้าน ขณะที่หลินชิงเหอพาโจวชิงไป๋ออกไปดูหนัง
ทั้งคู่มีโอกาสน้อยครั้งที่จะอยู่ด้วยกันแบบโลกนี้มีเราสองเพียงระยะหนึ่ง
เมื่อพวกเขากลับมาในตอนเย็น ก็ได้รับคำบ่นจากเด็กชายทั้งสามเป็นการต้อนรับ
“จะว่าไปแล้วหน้าร้อนนี้ม้าวางแผนจะไปเที่ยวกับป๊า แล้วก็จะฝากร้านให้ลูก ๆ ดูแลล่ะ” หลินชิงเหอบอกพวกเขา
ชั่วพริบตาเดียวก็ถึงเดือนมิถุนายน โดยที่เหลืออีกครึ่งเดือนกว่าก็จะเป็นช่วงวันหยุดยาว หลินชิงเหอจึงวางแผนล่องใต้กับโจวชิงไป๋
ร้านของพวกเขาไม่ได้ปิด แต่ทิ้งให้อยู่ในความดูแลของเด็กหนุ่มซุกซนพวกนี้
“ม้ากำลังจะทิ้งลูกเลี้ยงอย่างเรา ๆ เพื่อไปอยู่ในโลกสองคนกับป๊างั้นเหรอครับ?” โจวเฉวี่ยนเอ่ยด้วยหลากอารมณ์ผสมปนเปกัน
“ลูกโตถึงขนาดนี้แล้ว ป๊ากับม้าที่แก่ตัวลงจะออกไปท่องโลกกว้างในตอนที่ยังเดินเหินไหวไม่ได้หรือยังไง? ตอนที่ลูกโตเป็นผู้ใหญ่เราก็ต้องช่วยดูแลหลาน ๆ ให้ เป็นแบบนี้แล้วเราจะมีเวลาอีกตอนไหนล่ะ? ม้าต้องใช้โอกาสในตอนนี้ล่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยอย่างมั่นใจ
“ดูแลลูก ๆ ของพวกลูกไปเถอะ” โจวชิงไป๋เสริม
เขาวางแผนจะท่องเที่ยวกับภรรยาในอนาคตข้างหน้า และไม่ต้องการถูกก่อกวนโดยหลาน ๆ ของเขา พวกเขาให้กำเนิดหลาน ๆ มาได้ก็ต้องเลี้ยงดูเด็กพวกนั้นเองได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...