ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 310

บทที่ 310 ความอดทน
EnjoyBook
บทที่ 310 ความอดทน

“คุณคะ ฟังพี่สาวสามเถอะนะคะ” เป็นสะใภ้สามตระกูลหลินที่กัดริมฝีปากเอ่ยด้วยแววมุ่งมั่นฉายในดวงตา

คนอื่น ๆ อาจโกงครอบครัวของหล่อน มีแค่พี่สาวสามเท่านั้นที่ไม่ทำ เธอหวังให้ครอบครัวของหล่อนได้สิ่งที่ดีที่สุด

ถ้าการเปิดร้านค้าไม่ใช่เรื่องดี ทำไมพี่สาวสามถึงได้พยายามบอกให้เปิดมากขนาดนี้?

ยิ่งกว่านั้นยังให้ยืมเงินไปเปิดร้านโดยไม่ต้องขอซ้ำอีกด้วย นี่เป็นโอกาสที่หายากนัก

“นายนี่ใจกล้าน้อยกว่าภรรยานายอีกนะ” หลินชิงเหอเอ่ยขณะเหลือบมองน้องชาย “ไม่ใช่ว่าจะให้นายเปิดร้านตอนนี้เลยเสียเมื่อไหร่ล่ะ พี่หมายถึงหลังสิ้นเทศกาลปีใหม่นี้ให้นายไปซื้อร้านเก็บไว้ต่างหาก พี่จะยังไม่ออกจากหมู่บ้านจนกว่าจะถึงวันที่สิบ และก่อนกลับไปเมืองหลวง พี่จะเข้าอำเภอไปกับพี่เขยแล้วซื้อร้านให้นายเอง”

ช่วยไม่ได้นี่นะ น้องชายของเธอเติบโตมาในชนบททั้งชีวิต ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะดำเนินการขั้นตอนนั้นได้ เป็นไปได้มากว่าเขาจะถอยกลับไปตั้งหลักได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเธอจึงต้องช่วยเขา

“ตกลงครับ” น้องชายสามตระกูลหลินอ้ำอึ้งไป จากนั้นก็ตัดสินใจได้และพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน

“นายพยักหน้าตกลงวันนี้ วันหน้านายจะดีใจแน่” หลินชิงเหอให้กำลังใจ

“ฟังพี่นายเถอะ” โจวชิงไป๋พูด

น้องชายสามตระกูลหลินพยักหน้า

“ก่อนจะซื้อ พวกเธอสองคนควรจะกลับไปคิดให้ดีด้วย ว่าอยากจะทำหรือเปล่า? ถึงพี่จะเสนอเต็มที่ว่าให้เปิดร้านสักร้านแล้วในอนาคตพวกเธอจะไม่ลำบาก แต่พี่จะไม่บังคับให้พวกเธอทำหรอกนะ” หลินชิงเหอพูดต่อ

เขาเป็นน้องชายของเธอ เธอจึงอยากช่วยเขา แต่การตัดสินใจนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง

เธอพูดได้แค่นี้

น้องชายสามตระกูลหลินกับภรรยากลับไปแล้ว ไม่เสียแรงที่พวกเขาได้สนทนาอะไรดี ๆ กัน เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย

ในตอนบ่ายหลังน้องชายสามตระกูลหลินและภรรยากลับไปแล้ว ท่านแม่โจวก็เอ่ยกับหลินชิงเหอและโจวชิงไป๋ “ในอนาคตน้าของเจ้าใหญ่จะเปิดร้านขายของในเมืองเหรอ?”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าพวกเขาจะตัดสินใจกันอย่างไร” หลินชิงเหอตอบ

“ถ้าพวกเขาเปิดร้านแล้วจะย้ายเข้าเมืองกันทั้งครอบครัวเลยหรือเปล่า? แล้วงานในทุ่งนาล่ะจะทำอย่างไร” ท่านแม่โจวถาม

“หลังเปิดร้านแล้วครอบครัวนั้นก็คงต้องย้ายไปอยู่ที่นั่นล่ะค่ะ ถ้าถึงตอนนั้นก็ค่อยหาบ้านใหญ่กว่าเดิม เป็นบ้านขนาดใหญ่มากและมีสวนหลังบ้าน ส่วนงานในไร่นาที่บ้านก็ง่ายนิดเดียว แค่ถ่ายโอนให้คนอื่นแล้วเก็บเงินหรือธัญพืชบางส่วนที่เก็บเกี่ยวได้เป็นค่าเช่าก็ได้” หลินชิงเหอตอบ

เมื่อใดที่น้องชายของเธออยากไปอยู่ในเมือง เรื่องที่เหลือก็ไม่เป็นปัญหา

“ไม่รู้ว่าบรรดาพี่ชายแกจะเปิดร้านในเมืองได้ไหมน่ะสิ?” ท่านแม่โจวถามโจวชิงไป๋

โจวชิงไป๋เหลือบมองภรรยาและเอ่ยตอบ “แม่ต้องไปถามเรื่องนี้กับพวกพี่ ๆ ดูแล้วล่ะครับ”

“ใช่แล้วค่ะ คุณแม่ต้องถามพวกเขาในเรื่องแบบนี้นะคะ ฉันบอกน้องชายกับน้องสะใภ้ให้กลับไปคิดและปรึกษากันก่อน พวกเขาจะทำเรื่องนี้หรือไม่ก็ขึ้นกับว่าน้องชายฉันจะเต็มใจรับฟังฉันและลงมือทำตามไหม คุณแม่อยากให้ชิงไป๋ไปหาพี่ชายกับพี่สะใภ้แล้วบอกพวกเขาให้หยุดทำงานในทุ่งนาเพื่อไปเปิดร้านขายของในเมืองเหรอคะ?” หลินชิงเหอเอ่ย

ท่านแม่โจวเอ่ยพึมพำอย่างไม่พอใจนัก “ก็ฉันเห็นว่าเธออยากให้น้าเจ้าใหญ่เปิดร้านเสียขนาดนั้นก็เลยคิดว่า…”

“เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะถ้าพี่ชายกับพี่สะใภ้อยากจะซื้อร้านในอำเภอแล้วเปิดร้านขายของ แล้วถ้าพวกเขาขาดแคลนเงินทุน ชิงไป๋กับฉันก็ให้ยืมได้บางส่วนนะคะ” หลินชิงเหอเอ่ยอย่างยังไว้หน้านางบ้าง

“พวกเธอจะมีเงินมากมายแบบนั้นให้ยืมได้อย่างไร ให้พวกเขาคิดแก้ปัญหากันเองเถอะ” ท่านแม่โจวส่ายหน้า

หลินชิงเหอไม่สนใจจะสนทนาหัวข้อนี้ต่อจึงกลับไปอ่านหนังสือที่ห้อง

ท่านแม่โจวเห็นแล้วก็กระซิบกับลูกชาย “เมียแกบ้าไปแล้วหรือเปล่าน่ะ?”

“ไม่หรอกครับ” โจวชิงไป๋รู้จักภรรยาของเขาดี เธอไม่หดหู่กับเรื่องนี้เลย แต่เขาก็ยังเอ่ยอย่างซื่อตรง “เมื่อวานนี้ผมถามพวกพี่ ๆ แล้วล่ะครับ พวกเขาทั้งหมดพากันบอกว่าจะอยู่ทำงานในทุ่งนาและไม่เปิดร้านใด ๆ ก็ตาม ถ้าคุณแม่อยากพูดเรื่องนี้ก็ไปบอกพวกเขาเองเถอะครับ”

ท่านแม่โจวหวังว่าลูกชายอีกสามคนจะได้ดี นางจึงไปถามพวกเขาจริง ๆ

แต่พี่ชายใหญ่ พี่ชายรอง กับพี่ชายสามต่างไม่มีความสนใจทางด้านนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม