วันต่อมาโจวชิงไป๋ตื่นก่อน ขณะที่หลินชิงเหอยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง
เมื่อคืนเธอถูกเขาจับเกลือกกลิ้งไปมา ทำให้ตอนนี้ยังคงงีบหลับอยู่ใต้ผ้าห่ม
ท่านแม่โจวเห็นเขาแล้วก็กระซิบถามว่า “ชิงไป๋ วิทยุเครื่องนี้เป็นของใครเหรอ?”
“ภรรยาผมซื้อมาให้แม่กับพ่อแต่ลืมหยิบออกมาจากกระเป๋าน่ะครับ พอดีผมเพิ่งนึกขึ้นมาได้เมื่อคืน” โจวชิงไป๋ตอบออกไปหลังจากที่ได้ยินคำถาม
“นี่…นี่มันไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินขนาดนี้เลย” ท่านแม่โจวรู้สึกปลาบปลื้มใจจนแทบตัวลอยเมื่อได้ยินอย่างนั้น แต่ปากนางกลับเอ่ยออกมาอย่างลำบากใจ
เพราะวิทยุเป็นของหายาก
“ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นไม่ง่ายนัก ทำไมถึงได้ใช้เงินอย่างนี้ล่ะ?” ท่านพ่อโจวที่กำลังเอามือไพล่หลังอยู่กล่าวขึ้น
เขารู้สึกว่าวิทยุเครื่องนี้เป็นของที่มีค่ามากเกินไป เขาย่อมคิดเปรียบเทียบว่าวิทยุที่มีค่ามากเช่นนี้ ไม่สู้เก็บเงินไว้ซื้อของใช้จำเป็นยังจะดีเสียกว่า
อย่างไรเสียมันก็ไม่ใช่สิ่งของที่จำเป็นจะต้องซื้อ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ มันไม่ได้แพงอะไรมาก ในเมื่อซื้อมาแล้วก็ใช้มันเถอะนะครับ” โจวชิงไป๋พูด
จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่องให้พ่อกับแม่ของเขาไปคิดถึงเรื่องอาหารแทน
“เมียแกยังไม่ตื่นอีกหรือ?” ท่านแม่โจวเอ่ย
“เดี๋ยวค่อยอุ่นในหม้อก็ได้ครับแล้วให้หล่อนกินหลังจากที่ตื่นขึ้นมาแล้ว” โจวชิงไป๋ตอบ
เมื่อคืนในวันขึ้นปีใหม่เขาทำตามใจตัวเองเต็มที่ ในตอนที่พ่อกับแม่ของเขากลับมาพวกเขาทั้งคู่ยังไม่ได้หลับเลย
พวกเขาทำเรื่องนั้นกันจนเกือบจะห้าทุ่ม แน่นอนว่ามันทำให้ภรรยาของเขาเหนื่อยล้ามาก เธอคงยังไม่ตื่นขึ้นมาในเร็ว ๆ นี้แน่
“หล่อนไม่สบายหรือเปล่า?” ท่านแม่โจวถามอย่างกังวล
“ไม่มีอะไรครับ แค่อ่านหนังสือมากจนเพลีย” โจวชิงไป๋บอกด้วยท่าทีสงบ
“เอาไว้ตอนที่แม่กับพ่อของแกไปที่นั่น แม่จะซื้อสมองหมูไปเพิ่มและจะตุ๋นให้เมียแกกับเจ้าใหญ่กินนะ” ท่านแม่โจวกล่าว
โจวชิงไป๋พยักหน้ารับ ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มกินอาหารกันก่อน
หลังจากกินเสร็จ โจวชิงไป๋ก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกและกลับเข้าไปอ่านหนังสือพิมพ์ในห้อง
หลินชิงเหอตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบจะแปดโมงครึ่งแล้ว พอเห็นโจวชิงไป๋กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้าง ๆ เธอจึงเอ่ยถามขึ้นทันที “กี่โมงแล้วคะ?”
“แปดโมงครึ่งแล้วครับ” โจวชิงไป๋บอก “ตื่นขึ้นมากินอะไรไหม?”
“ฉันอยากจะนอนอีกค่ะ” หลินชิงเหอพูดอย่างเกียจคร้าน
ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่เธอได้มาอยู่ที่นี่ เธอไม่เคยได้นอนตื่นสายอีกเลย ในอดีตนั้น ปกติแล้วเธอนอนจนถึงตอนเที่ยงเลยด้วยซ้ำในวันหยุด
การได้ทำนิสัยแบบนี้ในตอนนี้ช่างเป็นเรื่องที่น่าอิ่มเอมใจ
“นอนต่อเถอะครับ ถ้าเสี่ยวเม่ยมาถึงแล้ว เดี๋ยวผมมาเรียกคุณเอง” โจวชิงไป๋ผงกศีรษะบอก
หลินชิงเหอคิดสักพักแล้วก็คิดในใจว่าช่างมันเถอะ เธอลุกขึ้นมาล้างหน้าและไปหาของกินจากหม้อในห้องครัว
โจวเสี่ยวเม่ยกับซูต้าหลินมาถึงก่อนเป็นรายแรก พวกเขามาถึงตอนสิบโมงเช้า ทั้งยังพาลูกสาวคนสุดท้องมาด้วย แต่ไม่ได้พาลูก ๆ อีกสามคนมา พวกเขาส่งลูก ๆ ให้ไปอยู่กับคุณปู่ของเด็ก ๆ
แล้วตอนเย็นพวกเขาค่อยกลับมารับเด็ก ๆ กลับบ้าน
“แม่คะ พาหลานสาวคนเล็กของแม่ไปเดินเล่นรอบ ๆ สิคะ ขนมหวานสามถุงนี้สำหรับพี่สะใภ้สามคน ครอบครัวละหนึ่งถุงนะคะ” โจวเสี่ยวเม่ยกล่าว
“ไม่เห็นจำเป็นต้องซื้อขนมมาเลย” ท่านแม่โจวตอบ
“หนูซื้อมาแล้ว ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “แล้วนี่พ่ออยู่ที่ไหนคะ?”
“หยิบวิทยุออกไปฟังข้างนอกแล้ว นี่ยังไม่กลับมาเลย” ท่านแม่โจวหัวเราะขึ้นอย่างจนใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...