ในสายตาของโจวเสี่ยวเหมย พี่สะใภ้รองของหล่อนมีนิสัยแบบหมาป่าตาขาว(คนเนรคุณ)
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ทำให้โจวเสี่ยวเหมยไม่สบายใจ เพราะพี่สะใภ้สี่ของหล่อนดีต่อหลานสาวคนนี้มาก
เธอพาหล่อนมาจากบ้านเกิดและให้หล่อนทำหน้าที่แค่เฝ้าร้านเสื้อผ้า เงินเดือนก็เท่ากับคุณป้าหม่าที่ทำงานล้างจาน แต่รวมค่ากินค่าอยู่อาศัยทุกอย่างแล้ว
ของอย่างเสื้อผ้า ผ้านวม พัดลม อื่น ๆ เธอเป็นคนซื้อให้ทั้งหมด
ของกินอะไรที่มีอยู่เธอก็ให้หล่อนกินหมด
ต้องบอกว่าชีวิตในชนบทของโจวเสี่ยวเหมยยังไม่ดีเท่าชีวิตของสวี่เชิ่งเหม่ยที่นี่เลย
แถมพี่สะใภ้สี่ยังอยากฝึกงานให้พวกเขาด้วย เอ้อร์นีกับหู่จือลงเรียนวิชาภาคค่ำเพื่อจะได้ศึกษาต่อสูง ๆ และมีความก้าวหน้าในชีวิต หากสวี่เชิ่งเหม่ยอยากไปเรียนด้วยหล่อนก็ได้ไป
ทั้งหมดที่ได้กลับมาคือคำพูดในคืนนี้ของสวี่เชิ่งเหม่ยงั้นเหรอ?
ยิ่งโจวเสี่ยวเหมยคิดต่อ หล่อนก็ยิ่งโมโห หล่อนรู้สึกว่าสวี่เชิ่งเหม่ยหลานสาวคนนี้เป็นคนเนรคุณไม่น้อย ไม่หัดจดจำอะไรดี ๆ บ้างเลย!
ซูต้าหลินที่ไม่รู้ว่าในใจของภรรยากำลังปั่นป่วนเพียงใดได้แต่เอ่ยขึ้น “คุณ…นอน…แต่หัวค่ำเถอะครับ”
“งั้นนอนกันเถอะค่ะ” โจวเสี่ยวเหมยรู้ว่าเขาต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเปิดร้านในวันรุ่งขึ้นจึงพยักหน้า
“ผมอยาก….อยาก…” ซูต้าหลินเอ่ยขึ้นมา ทำให้หล่อนประหลาดใจ
โจวเสี่ยวเหมยอึ้งไป จากนั้นก็ทุบเขาเบา ๆ ซูต้าหลินที่กินเนื้อแกะเข้าไปก็ยิ้มออกมาและพลิกตัวขึ้นทับ
โจวเสี่ยวเหมยนอนหลับสบายในที่สุดหลังถูกรบกวนแบบนี้แล้ว
หล่อนไม่ได้บอกพี่สะใภ้สี่ในเรื่องนี้ ก็เพราะไม่อยากใส่เชื้อไฟให้พี่สะใภ้สี่
ช่วงนี้หลินชิงเหออารมณ์ดีมาก แกงเนื้อแกะที่โจวชิงไป๋เป็นคนตุ๋นช่างมีรสชาติดีและหอมน่ารับประทานจริง ๆ
ยิ่งกว่านั้นเขายังปรุงน้ำแกงเก๋ากี้ให้เธอกินก่อนนอนอีกด้วย
“กินแบบนี้บ่อย ๆ เดี๋ยวฉันต้องอ้วนแน่ ๆ เลยค่ะ” หลินชิงเหอพึมพำ
“อวบหน่อยสิครับถึงจะดี คุณผอมเกินไปแล้ว” โจวชิงไป๋บอก
หลินชิงเหอกลอกตา เธอจะผอมเกินไปได้อย่างไรล่ะ? เธอก็หุ่นแบบนี้แหละ ถึงจะใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายแบบ
“กินอีกหน่อยนะครับ” โจวชิงไป๋เอ่ยด้วยดวงตาเป็นประกาย
หลินชิงเหอทำเพียงดื่มน้ำแกงแต่ไม่ได้กินเนื้อ แต่ด้วยการคะยั้นคะยอของโจวชิงไป๋ เธอจึงได้แต่เล็มไปเล็กน้อยและให้โจวชิงไป๋กินส่วนที่เหลือ
ทั้งคู่แปรงฟันหลังกินอาหารเสร็จจากนั้นก็พักผ่อน
ไม่รู้ว่าที่นี่เป็นฤดูหนาวหรือเป็นเพราะพวกเขากินเนื้อแกะกันมากเกินไปกันแน่ เพราะโจวชิงไป๋ถึงกับนอนกระสับกระส่ายทั้งคืน และเขาจะไม่หยุดจนกว่าหลินชิงเหอจะยอม
หลินชิงเหอปล่อยให้เขาเป็นคนควบคุม แต่แล้วในวันหนึ่งหญิงสาวก็จู่ ๆ นึกขึ้นมาได้
เดือนนี้รอบเดือนของเธอมาช้าไป 2 วันไม่ใช่เหรอ?
หลินชิงเหอนิ่งไป จนโจวชิงไป๋ต้องถามขึ้นมา “มีอะไรเหรอ?”
“ไม่มีอะไรค่ะ” หลินชิงเหอส่ายหน้า แต่ในใจของเธออดคิดกังวลไม่ได้
รอบเดือนของเธอจะมาตรงเวลาตลอด หลังลองนับดูแล้วจนถึงวันนี้มันกลับยังไม่มางั้นเหรอ? ช้าไป 2 วันแล้วนะ
เมื่อคิดไปว่าช่วงนี้โจวชิงไป๋คึกขนาดไหน เธอก็พบว่าเขาทำทุกวัน…
หัวใจของหลินชิงเหอเต้นช้าลงไปหนึ่งจังหวะ
โจวชิงไป๋จะรู้ได้อย่างไรว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่? เขาอยากจะนัวเนียกับเธออีกรอบ
หลินชิงเหอปฏิเสธทันควัน “คืนนี้ฉันเหนื่อยแล้ว เรารีบนอนกันเถอะค่ะ”
โจวชิงไป๋เหลือบมองเธอ เมื่อเห็นว่าหลายวันที่ผ่านมานี้เธอเหนื่อยมากจริง ๆ ก็เอ่ยขึ้น “งั้นเรานอนกันนะครับ”
เขาจึงนอนกอดภรรยาอย่างอิ่มเอมใจ
หลินชิงเหอรู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอท้องหรือเปล่านะ? แต่ไม่น่าจะใช่ เธอทำหมันไปแล้วนี่ จะเป็นไปได้อย่างไรที่เธอยังท้องได้?
หลินชิงเหอครุ่นคิดอยู่อย่างนั้นจนถึงเที่ยงคืน ส่วนโจวชิงไป๋หลับสบายหายห่วงราวกับหมูไปแล้ว
หลินชิงเหออดไม่ได้ที่จะบีบหน้าของเขา คนไม่ดี…เขาช่างไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรดี ๆ ลงไปแล้วยังหลับสบายได้อยู่อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...