โจวชิงไป๋ลาหยุดหนึ่งวัน ส่วนวันต่อมาเขาก็เปิดร้านตามปกติ
เขารู้สึกผิดหวังเมื่อนึกถึงเรื่องเข้าใจผิดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่จะทำอย่างไรได้? ชีวิตต้องดำเนินต่อไป
แต่เขาก็ปฏิญาณกับตัวเองในใจว่าอนาคตจะกินของดี ๆ มากขึ้น และมุ่งมั่นที่จะสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดในท้องของภรรยาให้ได้
นับจากนั้นเป็นต้นมา หลินชิงเหอก็สังเกตว่าชิงไป๋ของเธอให้ความเอาใจใส่กับสุขภาพของเขาเป็นพิเศษ
เขาถึงกับไปหาแพทย์แผนจีนให้สั่งยาจีนมาบำรุงร่างกายหลายขนาน
ดังนั้นหลังจากรอบเดือนของหลินชิงเหอหมดไปได้ 3 วัน เธอก็ได้ประสบกับพลังแห่งยาโป๊วที่ชิงไป๋ของเธอรับประทานเข้าไป
หญิงสาวแทบจะน้ำตาตกใน
ไม่ทำก็ไม่ตาย ในเมื่อทำไปแล้ว เธอก็ต้องชดใช้ให้แม้จะต้องคุกเข่าก็ตาม
เมื่อถึงเทศกาลล่าปา โจวชิงไป๋ก็ต้มโจ๊กล่าปาหม้อใหญ่ ทั้งครอบครัวมารวมตัวกันกินโจ๊กล่าปาในตอนเช้า
ในวันหิมะตกหนักแบบนี้ กิจการร้านค้าได้รับผลกระทบอย่างมากจริง ๆ
เช่นเดียวกับร้านเสื้อผ้าของหลินชิงเหอที่ลูกค้าบางตาลงเล็กน้อย
หลินชิงเหอจึงถามโจวเอ้อร์นี หู่จือ และสวี่เชิ่งเหม่ย “พวกเธอสามคนอยากกลับบ้านไหม? ถ้าอยากกลับ น้าก็จะให้หยุดตั้งแต่วันที่ยี่สิบ แล้วค่อยกลับมาปีหน้าหลังเทศกาลโคมไฟ”
“หนูไม่กลับหรอกค่ะ” โจวเอ้อร์นีส่ายหน้า
“ผมก็ไม่อยากกลับครับ เพราะยังต้องเรียนหนังสืออยู่” หู่จือเอ่ยเช่นกัน
เขากับโจวเอ้อร์นียังต้องเรียนหนังสือ แม้การเรียนภาคค่ำจะปิดในวันที่สิบห้า แต่หู่จือก็ยังไม่อยากกลับ เพราะเขาอยากจะอยู่รอดูเทศกาลปีใหม่ในเมืองหลวง
“แต่…แต่ว่าหนูอยากกลับน่ะค่ะ” สวี่เชิ่งเหม่ยอึ้งไปและเอ่ยตะกุกตะกัก
“พี่อยากกลับเหรอ? เราไม่มีเวลากลับไปพร้อมกับพี่หรอกนะครับ พี่กลับเองได้หรือเปล่า?” หู่จือมองเธอ
“ถ้าเชิ่งเหม่ยอยากกลับ หู่จือ เธอก็กลับไปพร้อมหล่อนเถอะ” หลินชิงเหอโบกมือ
หู่จือถอนหายใจ “แต่ผมไม่อยากกลับจริง ๆ นี่ครับ”
“เธอไม่อยากกลับไป ก็เลยจะปล่อยให้เชิ่งเหม่ยกลับไปคนเดียวเหรอ?” หลินชิงเหอตำหนิ “เธอรู้จักการให้เกียรติเพศตรงข้ามบ้างไหมเนี่ย? เป็นแบบนี้แล้วอนาคตจะหาภรรยาได้เหรอ?”
“ผมยังเด็กอยู่แต่คุณน้าก็พูดเรื่องนี้กับผมเสียแล้ว” หู่จือยิ้มกริ่ม
“ยังเด็กอยู่งั้นเหรอ เธอเชื่อไหมล่ะว่าถ้าเธอไม่ได้มาที่นี่แม่เธอก็คงเริ่มหาคู่ให้แล้วในปีใหม่นี้? ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น บางทีตอนนี้ในปีหน้า เธออาจกลายเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้วก็เป็นได้” หลินชิงเหอบอก
หู่จือเชื่อเรื่องนี้ เพราะว่าตอนที่เขาอายุ 16 ปี แม่ของเขาก็เริ่มพูดเรื่องนี้แล้ว
แต่เขาไม่คิดเลยว่าแผนนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเขามาถึงเมืองหลวง มันก็เป็นอันพับลงไปเอง
“ก็ได้ ปีนี้ผมจะกลับไปพร้อมพี่ แต่ต้องบอกก่อนนะว่าถ้าปีนี้ผมกลับไป ปีหน้าผมก็จะไม่กลับ ผมยังไม่รู้เลยว่าปีใหม่ในเมืองหลวงเป็นอย่างไร” หู่จือบอก
คำพูดนี้ฟังคล้ายกับสิ่งที่โจวข่ายเคยบอกไว้
“งั้นก็พาเชิ่งเหม่ยกลับไปดี ๆ ล่ะจะได้ไม่มีปัญหา” หลินชิงเหอตอบ
ความจริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก แม้แต่เด็กสาวตัวเล็ก ๆ อย่างโจวลิ่วนียังหาทางมาที่นี่ด้วยตัวเองได้ นับประสาอะไรกับคนที่อยู่ที่นี่มาจนเกือบจะถึงปี
เป็นเพราะเธอตัดสินใจให้หู่จือกับสวี่เชิ่งเหม่ยได้หยุดแล้ว หลินชิงเหอจึงไปแจ้งกับหวังหยวนเถ้าแก่รุ่นเยาว์ว่าหลังจากการผลิตเสื้อผ้าล็อตปัจจุบันเสร็จสิ้น ก็ให้พักการผลิตส่วนที่เหลือไว้ก่อน
ขณะเดียวกัน ศูนย์ตัดเย็บเสื้อผ้าเล็ก ๆ ของเธอก็มีวันหยุดเหมือนกัน
ทุกวันนี้การลาพักร้อนแบบไม่หักค่าจ้างไม่ใช่สิ่งที่นิยมทำกันนัก เธอวางแผนให้พวกเขาทำงานจนกระทั่งถึงวันที่ 15 ธันวาคมก่อนจะให้ทุกคนได้หยุด
พวกเขาจะได้หยุดพักจนกระทั่งถึงวันที่ 15 มกราคม
ไม่มาก ไม่น้อย เป็นช่วงพักงานหนึ่งเดือนพอดี
เมื่อสิ้นสุดเทศกาลโคมไฟ พวกเขาก็จะมาทำงานต่อในศูนย์ตัดเย็บเสื้อผ้า
หลินชิงเหอมาที่ศูนย์ตัดเย็บเสื้อผ้าในวันนี้เพื่อประกาศเรื่องนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...