ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 364

บทที่ 364 งานเลี้ยงอาหารเย็นสิ้นปี 1981
EnjoyBook
บทที่ 364 งานเลี้ยงอาหารเย็นสิ้นปี 1981

ร้านเกี๊ยวของโจวชิงไป๋เปิดอยู่จนกระทั่งสองทุ่มของวันที่ยี่สิบแปดธันวาคม จากนั้นก็ปิดอย่างเป็นทางการเนื่องในวันเทศกาลปีใหม่

ในเย็นนั้นเอง สองสามีภรรยาก็ช่วยกันคำนวณบัญชีร้านค้าของปีนี้อยู่ภายในห้อง

ร้านเสื้อผ้าของหลินชิงเหอทำผลประกอบการได้อย่างยอดเยี่ยม

รายได้โดยเฉลี่ยของปีนี้อยู่ที่ 2,000 หยวนต่อเดือนหลังหักค่าจิปาถะต่าง ๆ แล้ว

ร้านเสื้อผ้าผู้ชายที่เปิดภายหลังไม่ค่อยทำรายได้ดีเหมือนกับร้านเสื้อผ้าผู้หญิง แต่กิจการก็ยังถือว่าดีอยู่ มันเปิดมาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็ยังมีรายได้ ซึ่งเกือบเท่ากับรายได้ประจำปีของร้านเกี๊ยวของโจวชิงไป๋เลยทีเดียว

ซึ่งความจริงแล้วปีนี้ร้านเกี๊ยวของโจวชิงไป๋ก็ทำรายได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้ เขาได้เงินไป 300 หรือเกือบ 400 หยวนในแต่ละเดือน

ช่วงสิ้นปีนับว่าเป็นเวลาที่วุ่นวาย เมื่อเพิ่มเกี๊ยวไส้เนื้อแกะที่ทุกคนชื่นชอบอย่างมากเข้าไปแล้ว กิจการในเดือนสุดท้ายก็เฟื่องฟูที่สุด

มันทำรายได้ไปเกิน 400 หยวน

มันมีข้อจำกัดตรงรายจ่ายของปีนี้ ส่วนใหญ่หมดไปกับการซื้อร้านเสื้อผ้าผู้ชาย ส่วนที่เหลือก็ไม่มีอะไรบกพร่อง

พวกเขาหาเงินได้มหาศาล

หลังคำนวณบัญชีแล้ว เงินเก็บของทั้งครอบครัวถือว่ามหาศาลเป็นกอบเป็นกำทีเดียว

“ทำไมถึงไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับเรือนสี่ประสานเลยนะ?” หลินชิงเหอเอ่ย

เพื่อเรือนสี่ประสานที่เธออยากได้มานานแล้ว เธอจึงไม่ได้ซื้อบ้านหรือร้านค้าที่อื่นอีก

แน่นอนว่าทำเลของมันก็ไม่ใช่ที่เธอต้องการด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงหลับหูหลับตาซื้อไปแล้วถ้ามันมี

“คุณอย่ากังวลเลย เรารอดูไปเรื่อย ๆ เถอะ” โจวชิงไป๋รู้ว่าภรรยาอยากได้เรือนสี่ประสานมาก

แต่ว่าตามความจริงแล้ว เขาเองก็ชอบมันเหมือนกัน

เขาเคยไปช่วยเฒ่าหวังเก็บค่าเช่าจากเรือนสี่ประสานของชายชรา ซึ่งเรือนสี่ประสานของเฒ่าหวังเป็นแบบมีทางเข้าสองทาง ดูยิ่งใหญ่อลังการมาก

แต่นั่นเป็นเรือนของเฒ่าหวัง ต่อให้โจวชิงไป๋จะนับถือเขาเป็นพ่อทูนหัวก็ตาม เขาก็ไม่เคยอยากเอาเปรียบชายชราเลย เขากับภรรยาต้องการซื้อมันด้วยเงินของพวกเขาเอง

หลินชิงเหอพยักหน้า “ถ้าปีหน้ายังไม่มีให้ซื้อ ฉันก็จะซื้อร้านค้าและอสังหาริมทรัพย์อื่นแล้วล่ะค่ะ”

ตอนนี้เศรษฐกิจกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ และสถานการณ์ก็กำลังเป็นไปในทางที่รุ่งเรืองขึ้น แต่โอกาสมีไม่มากนัก เนื่องจากมีเจ้าของกิจการมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นร้านค้าทำเลดี ๆ จึงไม่ใช่สิ่งที่จะหาซื้อได้โดยง่าย

หากใครต้องการจะซื้อร้าน พวกเขาต้องชิงลงมือก่อน

โจวชิงไป๋ไม่คัดค้านอะไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับภรรยาของเขา

“ในอนาคตเราไปซื้อบ้านที่อื่นไว้ดีกว่าค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยอีกครั้งหลังนอนลงบนเตียง

“ที่ไหนเหรอคุณ?” โจวชิงไป๋เอ่ยอย่างงุนงง

“ไห่หนานน่ะค่ะ” หลินชิงเหอตอบ

ในอนาคตถ้าพวกเขาเห็นว่าที่นี่หนาวเกินไป พวกเขาก็สามารถไปพักตากอากาศที่เมืองไห่หนานได้ เพราะอากาศที่นั่นอุ่นกว่า ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี

โจวชิงไป๋พยักหน้า “งั้นเราต้องขยันทำงานมากกว่านี้แล้วล่ะครับ”

หลินชิงเหอยิ้ม จากนั้นก็เอ่ยด้วยสายตาเชิญชวน “ชิงไป๋ มาขยันทำงานเผื่อว่าสวรรค์จะประทานลูกสาวให้เราดีไหมคะ?”

โจวชิงไป๋หรือจะไม่ให้ความร่วมมือ? ไม่เพียงแต่เขาจะร่วมมือ แต่เขายังทุ่มเทพลังทั้งหมดลงไปด้วย

ในเมื่อพรุ่งนี้ไม่ต้องเปิดร้านแล้ว ดังนั้นในคืนนั้น….ทั้งคู่จึงนอนดึก

พวกเขาหลับไปจนถึงสิบโมงเช้าของอีกวันหนึ่ง พอถึงเวลาจึงได้ลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน

โจวข่ายออกไปแล้ว โจวกุยหลายเองก็ไม่อยู่บ้าน มีเพียงโจวเฉวี่ยนที่อยู่คนเดียว

“ป๊า ม้า อยากกินอะไรกันบ้างครับ?” โจวเฉวี่ยนถาม

“ม้าไม่อยากอะไรหรอก นึ่งซาลาเปาสักสองสามลูกกับอุ่นแกงเนื้อแกะให้ป๊าชามหนึ่งก็พอแล้ว” หลินชิงเหอบอก

ไม่ใช่ว่าเมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้ายที่เปิดร้านหรอกเหรอ? หลินชิงเหอคิดแล้วก็ให้เจ้ารองส่งเกี๊ยวจำนวนหนึ่งมาให้ ซึ่งพวกมันถูกปรุงสุกและทิ้งให้เย็นแล้ว เมื่อใดที่พวกเขาอยากจะกินก็แค่นำมาอุ่นจนพร้อมกินเท่านั้น นับว่าสะดวกสบายมากทีเดียว

หลินชิงเหอเองก็เตรียมอาหารให้ครอบครัวเป็นจำนวนมากด้วย ซึ่งทั้งหมดถูกแช่แข็งเอาไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม