การมีรถบรรทุกคันใหญ่อยู่ในมิติ นั่นเป็นเงินมากเท่าไหร่กันละ
หลังการคำนวณขั้นสุดท้าย รถบรรทุกคันนี้และของชิ้นใหญ่อื่น ๆ ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาได้มาจากการค้าแบบซื้อมาขายไปในปีนี้ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ยังมีเงินเหลืออยู่อีก 2,000-3,000 หยวน รวมกับรายได้ที่ได้จากการทำธุรกิจที่สุจริตในเมืองหลวงอีก
หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋มาที่ตลาดมืดเพื่อเดินเล่น
หลินชิงเหอต้องการจะสะสมทองคำ ในเวลานี้แม้ปฏิรูปประเทศและเริ่มมีทองคำให้เห็นอยู่ในตลาดทั่วไปแล้ว แต่มันก็ยังคงมีราคาที่สูงมากทีเดียว
เนื่องจากยังไม่อนุญาตให้ทำการซื้อขายทองคำในตลาดได้ ถ้าต้องการจะซื้อขายมันก็ต้องทำอย่างไม่เปิดเผย ด้วยเหตุนี้ส่วนต่างของกำไรจึงสูงมาก
เป้าหมายคือทองคำก็จริง แต่มีเหตุไม่คาดฝันที่มักจะสร้างความประหลาดใจได้เสมอ
เหรียญต้าหยวนโถว(1) มีปรากฏให้เห็นในตลาดมืดของเทศบาลมณฑลอย่างคาดไม่ถึง
เหรียญที่เรียกว่าต้าหยวนโถวนี้ถูกใช้ในช่วงเวลาที่ประเทศยังเป็นสาธารณรัฐจีน เป็นสกุลเงินที่ใช้กันในยุคนั้น หลินชิงเหอเก็บสะสมสิ่งของไว้หลายอย่าง แต่ยังไม่เคยเก็บเหรียญชนิดนี้
มีเหรียญต้าหยวนโถวอยู่ทั้งหมด 10 เหรียญ ซึ่งทุกเหรียญถูกเก็บไว้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก แต่ราคาของพวกมันก็ไม่ได้ถูกเลย ราคาขายอยู่ที่ 40 หยวนต่อ 1 เหรียญ
10 เหรียญก็เท่ากับ 400 หยวน
“ตอนนี้ข้างนอกเริ่มนิยมสะสมของเก่าพวกนี้กันแล้วครับ เก็บสะสมไว้ก่อน ต่อไปมันจะต้องมีค่ามากแน่นอนครับ” เด็กหนุ่มชี้ชวน
“ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าในอนาคตมันจะมีค่ามากหรือเปล่า แต่ว่าในตอนนี้เธอกำลังทำเหมือนพวกเราเป็นคนโง่” หลินชิงเหอพูดอย่างเฉยเมย
“ทำเหมือนพวกคุณเป็นคนโง่อะไรกันครับ? เหรียญเงินทั้ง 10 เหรียญของผมอยู่ในสภาพดีทุกเหรียญ แต่ละเหรียญก็ไม่เหมือนกันเลยด้วย ถือว่าเป็นของแปลกใหม่นะครับ!”
“ถ้ามันเป็นของแปลกใหม่ขนาดนั้น ทำไมถึงยังขายไม่ได้อีกล่ะ?” หลินชิงเหอแย้งขึ้น
“ผมลดให้ได้มากสุด 5 หยวนต่อเหรียญ ถ้าคุณอยากได้ ก็ซื้อไปได้เลย แต่ถ้าไม่ ก็ลืมมันไปซะ” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว
เนื่องด้วยทั้ง 10 เหรียญแตกต่างกันหมดเลย หลินชิงเหอจึงต้องการซื้อเหรียญเงินเหล่านี้ไว้ ทว่าเธอยังไม่พอใจกับราคา
เห็นได้ชัดว่ามันแพงมาก
โจวชิงไป๋เป็นคนเข้ามายุติเรื่องนี้ให้ด้วยคำพูด 1 ประโยค ซื้อทั้งหมด 10 เหรียญในราคา 200 หยวน
ถึงแม้จะตัดราคาลงไปถึงครึ่งหนึ่ง แต่เมื่อเด็กหนุ่มได้เห็นโจวชิงไป๋หยิบธนบัตรใบละ 10 หยวน 20 ใบออกมานับแล้ว นัยน์ตาของเขาก็ฉายแววละโมบขึ้น
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงกัดฟันตอบตกลง
หลินชิงเหอหยิบเหรียญเงินทั้ง 10 เหรียญมาแล้วกล่าวว่า “เก็บเหรียญพวกนี้เอาไว้เป็นของสะสมต่อไปนะคะ”
หากมันแพงเกินไป เธอก็อาจจะซื้อทองคำเก็บไว้แทน แต่ในเมื่อตอนนี้ราคาเหลือแค่ 200 หยวน จึงซื้อเก็บเอาไว้ให้ลูกหลานได้เห็น
อย่างไรก็ตาม ตลาดมืดในปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณของความรุ่งเรืองแสดงออกมาให้เห็น
ไม่มีคนจากตลาดข้างนอกมาติดประกาศห้ามและให้คนมาคอยจับกุมพวกเขาอีกต่อไปแล้ว กระนั้น การที่ยังมีตลาดมืดอยู่ก็เนื่องมาจากมีของหลายอย่างที่ไม่สามารถหาได้ง่าย ๆ ตามท้องตลาดทั่วไป ตลาดมืดจึงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะไปหาซื้อของเหล่านี้
โจวชิงไป๋พาเธอเดินไปรอบ ๆ ตลาดมืด ท้ายที่สุด พวกเขาได้แลกเปลี่ยนสินค้าเป็นปิ่นปักผมทอง 2 อันจากแม่เฒ่าคนหนึ่ง และกำไลข้อมือทอง 1 วงกับแหวนทองอีก 2 วงจากชายหนุ่มคนหนึ่ง
มีทองคำจำนวนมากถูกเก็บเอาไว้ในมิติของหลินชิงเหอ ก่อนหน้านี้เธอเคยไปเมืองหลวงเพื่อซื้อมาเก็บไว้ ต่อมาก็ไปที่อำเภอ และก็ยังเก็บสะสมมาเรื่อยตอนที่กำลังเรียนอยู่
เมื่อนำทั้งหมดมารวมกัน ตามมูลค่าของทองคำในยุคต่อมา พวกเขาน่าจะมีทองคำเกิน 1 ล้านหยวน
บอกตามตรงว่าตั้งแต่ที่เธอซื้อเรือนสี่ประสาน บ้านและร้านค้าในปักกิ่งแล้ว เธอก็ไม่แยแสกับพวกสินค้าสีทองและสีขาวเหล่านี้อีกต่อไป
วิสัยทัศน์ของเธอยกระดับขึ้นไปแล้ว
ทองคำเป็นสิ่งมีค่าอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าสำหรับคนในยุคต่อมา ทองคำที่ได้มาก่อนหน้านี้ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาอยู่ดี
การเก็บทองคำไว้มากมาย อาจจะแค่พอซื้อบ้านขนาด 100 ตารางเมตรในเมืองเล็กระดับ 3 หรือ 4 (2)ได้เท่านั้นเองในยุคต่อมา
แต่ในเมื่อไหนไหนพวกเขาก็มีทองคำเก็บไว้แล้ว เช่นนั้นก็เก็บมันไว้ต่อไปเถอะ
เท่ากับได้มีสินทรัพย์ 2 ประเภทที่แตกต่างกัน อีกทั้งพวกกำไลข้อมือ แหวนและปิ่นปักผมที่ทำมาจากทองเหล่านี้ก็เป็นของที่เรียบง่ายและสวยงาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...