เห็นชัดว่าหลินชิงเหอไม่ได้ให้ค่ากับจางเหมยเหลียนเลย
ทุกครั้งที่หล่อนทักทายหลินชิงเหอ หล่อนก็ไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากเธอ ถ้าเธอรู้เข้า เธอจะต้องห้ามแบบหัวเด็ดตีนขาดแน่
“อย่ากังวลไปเลยจ้ะ ฉันไม่บอกเรื่องของเธอหรอก ยิ่งกว่านั้น ฉันจะช่วยพูดกับหู่จือให้เธอเอง แต่เธอต้องสัญญากับฉันก่อนนะว่าถ้าเธอแต่งงานกับหู่จือแล้ว เธอต้องอยู่กินกับเขาให้ดี ๆ ฉันหวังว่าเขาจะแต่งงานนกับสาวเมืองหลวงได้” สวี่เชิ่งเหม่ยบอก
“แน่อยู่แล้วค่ะ” เมื่อจางเหมยเหลียนได้ยินว่าอีกฝ่ายเต็มใจช่วยเหลือหล่อน หล่อนก็รีบตกปากสัญญา “สิ่งที่คนข้างนอกพูดล้วนโกหกทั้งเพ ผู้หญิงปากมากพวกนั้นใส่ร้ายฉันก็เพราะว่าก่อนหน้านั้นตระกูลจางมีอำนาจแล้วไม่ช่วยเพื่อนบ้านอย่างพวกหล่อนน่ะค่ะ!”
สวี่เชิ่งเหม่ยแค่นเสียงในใจ ถ้าเธอไม่ใช่คนไม่ดี แล้วคนอื่นจะพูดแบบนี้กับเธอเหรอยะ?
“ฉันเชื่อเธออยู่แล้วล่ะจ้ะ” สวี่เชิ่งเหม่ยเม้มปากและคลี่ยิ้ม จากนั้นก็เอ่ยอำลาหล่อน
เดิมทีหล่อนอยากจะเดินขึ้นไปที่ชั้นบน แต่ตอนนี้หล่อนได้หันหลังกลับและมุ่งหน้าตรงไปที่ร้านเกี๊ยว
เมื่อเห็นหล่อนเดินออกมาท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ โจวชิงไป๋ก็ย่นคิ้ว “วันนี้เป็นวันเทศกาลโคมไฟ เธอควรจะอยู่กินเกี๊ยวที่บ้านนะ ออกมาทำไมกัน?”
“วันนี้เป็นวันเทศกาลโคมไฟ หนูกินอาหารเช้ากับอาหารกลางวันที่บ้านตระกูลจ้าวมาแล้วน่ะค่ะ หนูก็เลยอยากมากินอาหารเย็นที่นี่แทน”สวี่เชิ่งเหม่ยยิ้ม
“พี่เชิ่งเหม่ยไปกินเกี๊ยวที่บ้านคุณตาคุณยายเถอะครับ ที่นี่หลังจากนี้จะมีแขกมาหาหลายคน แล้วคนก็จะแน่นร้านเลยล่ะครับ” หู่จือบอก
คุณพ่อเวิงกับคุณแม่เวิงจะมาหาในภายหลัง เฒ่าหวังด้วยเหมือนกัน และตอนนี้โจวเอ้อร์นีได้ไปหาหวังหยวนที่โรงงานเสื้อผ้า หลังจากนั้นเขาจะตามมาสมทบด้วย
ดังนั้นจะมีคนจำนวนมากมายอยู่ที่นี่
“ใครจะมาเหรอจ๊ะ?” สวี่เชิ่งเหม่ยถาม
“เป็นคุณป้าเวิงกับคนอื่น ๆ ครับ” หู่จือตอบ
สวี่เชิ่งเหม่ยไม่ใส่ใจมากนักและเอ่ยตอบ “ถ้างั้นพี่ไปบ้านของคุณตาคุณยายก็ได้จ้ะ” ไม่ว่าอย่างไร หล่อนก็ได้มาเสนอหน้าที่บ้านตระกูลโจวพอแล้ว
“อากาศเย็นมากนะ จ้าวจวินไม่ได้มากับหนูเหรอ?” โจวชิงไป๋ถาม
เขาไม่พอใจนักอย่างเห็นได้ชัด ต่อให้รู้สึกผิดหวังกับหลานสาวคนนี้ เขาก็ไม่อยากให้หล่อนได้รับการปฏิบัติแบบนั้นจากจ้าวจวิน
สวี่เชิ่งเหม่ยรู้ว่าอาของหล่อนยังเป็นห่วงหล่อนอยู่จึงตอบไปว่า “จ้าวจวินยุ่งนิดหน่อยน่ะค่ะ”
ความจริงแล้วหล่อนอยากจะขอให้จ้าวจวินมาด้วยกันกับหล่อนในวันนี้ แต่เป็นเพราะจ้าวจวินได้นั่งบนตั่งเย็นในช่วงปีใหม่ไปแล้วแถมตัวเขาเองยังมีความถือตัวสูง เขาจึงไม่เต็มใจมาด้วยในวันนี้
โจวชิงไป๋เหลือบมองหล่อนและไม่ได้พูดอะไรอีก
สวี่เชิ่งเหม่ยมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของท่านพ่อโจวกับท่านแม่โจว
เมื่อท่านแม่โจวเห็นหล่อน นางก็เอ่ยอย่างโมโห “ในวันอากาศเย็นแบบนี้ ทำไมเธอถึงได้เสนอหน้ามาที่นี่แทนที่จะไปกินเกี๊ยวที่บ้านตระกูลจ้าวฮึ?”
“คุณยาย หนูรู้ว่าวันนี้เป็นวันเทศกาลโคมไฟ ก็เลยมาที่นี่เพื่อร่วมกินเกี๊ยวกับคุณตาคุณยายน่ะค่ะ” สวี่เชิ่งเหม่ยเอ่ยพลางจับแขนของนางไว้
ตอนแรกท่านแม่โจวไม่อยากให้หล่อนจับมือถือแขนนางเลย แต่นางก็ไม่ได้ว่าอะไรหลังจากนึกเห็นใจว่าหล่อนกำลังตั้งครรภ์อยู่
ในตอนนี้โจวเสี่ยวเหมยกลับมาที่บ้านแล้ว เมื่อเห็นสวี่เชิ่งเหม่ยหลานสาวคนนี้มาหา หล่อนก็ไม่อยากจะเห็นหน้า
หล่อนยังไม่ลืมว่าจ้าวจวินดูถูกต้าหลินของหล่อนอย่างไรบ้างในวันปีใหม่และยังดูถูกอาการพูดติดอ่างของเขา เขาไม่อยากพูดกับต้าหลินของหล่อนเลยสักนิด
เขาคิดว่าทุกคนอยากจะพูดกับเขาหรืออย่างไร? ต้าหลินของหล่อนแค่ใจดีเกินไปและต้องการพูดคุยกับเขานิดหน่อยเท่านั้น!
“สวัสดีค่ะน้าเล็ก” สวี่เชิ่งเหม่ยทักทายหล่อนเมื่อเดินเข้ามาในบ้านจากนั้นก็ไม่เอ่ยอะไร
กับคุณน้าสี่ของหล่อน หล่อนจะพยายามพูดประจบประแจง แต่กับคุณน้าเล็กนั้นไม่จำเป็น ก็แค่ร้านซาลาเปาร้านเดียวจะทำเงินได้เดือนละเท่าไหร่กันเชียว?
โจวเสี่ยวเหมยพยักหน้าอย่างขอไปทีและไม่เอ่ยอะไรมากนัก
ส่วนสวี่เชิ่งเหม่ยก็อยู่นั่งกินเกี๊ยวที่นี่
ฝ่ายหลินชิงเหอได้นอนพักแล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้น ต่อให้เธอไม่อยากจะยอมรับ แต่เธอก็แก่ตัวลงแล้ว
วันนี้โจวชิงไป๋จึงปิดร้านเร็ว หลินชิงเหอมีสอนวันพรุ่งนี้ จึงเป็นธรรมดาที่เธอจะต้องเข้านอนแต่หัวค่ำ
“รอจนกว่าจะถึงวันหยุดก่อนนะ ผมจะพาคุณไปยังสถานที่ดี ๆ แห่งหนึ่ง” โจวชิงไป๋กล่าวแล้วกอดภรรยาเพื่อแสดงว่าช่วงนี้เขาคิดถึงเธอแค่ไหน
“สถานที่ดี ๆ อะไรคะ? ฉันไม่ไปหรอกนะคะถ้ามันไกลเกินไป บางทีอาจจะเจอหิมะตกหนักกับถนนขาดก็ได้” หลินชิงเหอโบกมือ ยุคนี้ช่างเดินทางลำบากไม่น้อย ได้แต่ไป ๆ กลับ ๆ บนถนน สู้อยู่บ้านจะดีกว่าเสียอีก
“ไปบ่อน้ำพุร้อนน่ะ” โจวชิงไป๋ตอบ
“บ่อน้ำพุร้อนเหรอคะ?” หลินชิงเหอมองเขา “ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนด้วยเหรอคะ? ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”
“มันค่อนข้างไกลหน่อยนะ ในวันหิมะตกใช้เวลาเดินทางไป 3 ชั่วโมง ผมประมาณไว้แล้วว่าถ้าหิมะไม่ตกมันจะใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง” โจวชิงไป๋บอก
“คุณรู้ได้อย่างไรคะว่ามันมีอยู่ที่หนึ่ง?” หลินชิงเหอถาม
“หวังหยวนเป็นคนพาเราไปที่นั่นน่ะ” โจวชิงไป๋ยิ้ม แล้วเขาก็เล่าการเดินทางไปบ่อน้ำพุร้อนที่พวกเขาไปมาให้ฟัง
“หวังหยวนช่างสรรหาที่เที่ยวจริง ๆ นะคะ” หลินชิงเหอเอ่ย “เราต้องหาเวลาเอารถบรรทุกของเรามาใช้แล้วล่ะค่ะ”
“อืม” โจวชิงไป๋พยักหน้า ความคิดของเธอตรงกับความคิดของเขาพอดี การนำรถบรรทุกออกมาใช้จะทำให้การเดินทางไกลได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น
ทั้งคู่เจรจากันว่าครั้งหน้าพวกเขาจะไปกันตอนที่หลินชิงเหอมีวันว่าง ช่างเป็นการห่างกันช่วงสั้นเพื่อพบกันอีกโดยแท้ จากนั้นพวกเขาก็เข้านอนแต่หัวค่ำ
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
รู้สึกไม่อยากพิมพ์ชื่อนางคนนี้ขณะที่นั่งแปลเลยค่ะ คนอะไรสะตอมาเป็นสวนเลย แต่ก็ต้องพิมพ์ไปเดี๋ยวเรื่องไม่เดิน ร้านของน้าเล็กถึงจะมีร้านเดียวแต่ก็มีชื่อเสียงแหละจ้ะ ไม่ได้เป็นคุณนายคอตั้งวัน ๆ ไม่ทำอะไรได้แต่เกาะสามีรวยกินแบบเธอนี่
แม่จะงัดรถบรรทุกมาใช้แล้วค่ะ ทีนี้จะต้องมีคนตกตะลึงไปหลายคนแน่
ไหหม่า (海馬)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...