คู่รักมักทะเลาะกันเหนือเตียงและคืนดีกันท้ายเตียง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
หลังนอนหลับฝันดีในคืนนั้น วันต่อมาอารมณ์ของหลินชิงเหอก็เป็นปกติ
หลังกินอาหารเช้าเสร็จ เธอจึงเดินทางไปสอน
หู่จือกับกังจือเพิ่งตื่นนอน ปกติร้านเสื้อผ้าจะเปิดเมื่อเวลาแปดโมงครึ่ง ซึ่งตอนเช้าจะไม่มีลูกค้าเข้าร้าน แต่หลังจากสิบโมงเช้าเป็นต้นไปก็เริ่มมีคนมาซื้อเสื้อผ้า และช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดก็เห็นจะเป็นตอนบ่าย
หู่จือกับกังจือตรงไปที่ร้านเกี๊ยวเพื่อกินอาหารเช้าหลังแปรงฟันเสร็จแล้ว
แต่เมื่อออกจากประตูห้อง พวกเขาก็เจอจางเหมยเหลียนเข้าพอดี
กังจือขยิบตาให้พี่ชายก่อนเดินจากไป หู่จือเหลือบมองจางเหมยเหลียนและเอ่ยขึ้น “มีอะไรเหรอครับ?”
หลังผ่านมาหลายวัน หู่จือก็รู้เจตนาของจางเหมยเหลียนโดยไม่ต้องบอก ก่อนหน้านี้หล่อนพูดว่าจะแนะนำเขาให้ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าหล่อนกำลังพูดถึงตัวหล่อนเอง
จางเหมยเหลียนเม้มปากคลี่ยิ้ม “คุณว่างเมื่อไหร่เหรอคะ? เราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะกันดีไหมคะ?”
“ไม่ว่างครับ” หู่จือส่ายหน้า เขาตอบและทำท่าจะผละจากไป
จางเหมยเหลียนหยุดเขาไว้และพูดกับเขาด้วยแววตาน้อยใจ “ทำไมคุณเป็นอย่างนี้ล่ะคะ? ฉันชวนคุณไปดูหนังกับเดินเล่นตั้งหลายรอบ ครั้งสุดท้ายคุณว่างทั้งวันและฉันก็ขอให้คุณพาไปกำแพงเมืองจีน แต่คุณก็ไม่ไปเหมือนกัน!”
หล่อนรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะหมดความอดทนเต็มที หู่จือคนนี้เป็นคนดื้อด้านทึ่มทื่อโดยแท้ แต่ทุกคนที่หล่อนชอบก็ตีจากกันหมดแล้ว เหลือแค่เขาเท่านั้นที่เหลืออยู่
หล่อนคิดว่าคงจะดีหากได้เข้าห้องกับเขาไปทำเรื่องอย่างว่า แต่ผู้ชายทึ่มนี่ก็ไม่มีเจตนาแบบนั้นตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้
หู่จือเหลือบมองหล่อนและเอ่ยกลับ “ผมไม่เคยคิดจะแต่งงานกับสาวเมืองหลวงเลย”
โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้ที่ดูเหมือนจะรับมือยาก เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ทำตัวขี้น้อยใจตาแดงก่ำเป็นสนิมสร้อยแบบนี้
“แต่…แต่ฉันชอบคุณนะ” จางเหมยเหลียนแสดงสีหน้าเอียงอาย แต่ในใจกลับแค่นดูถูก อย่างน้อยก็รู้ตัวสักทีนะ!
“ทำไมคุณถึงชอบผมล่ะครับ?” หู่จือไม่เข้าใจ เขาไม่ใช่คนที่จะรู้สึกดึงดูดกับผู้หญิงคนไหนง่าย ๆ จึงตอบไปอย่างซื่อตรง “ครอบครัวของผมยากจนมาก ผมยังมีน้องชายและน้องสาวอยู่ที่บ้านอีกหลายคน พ่อแม่ของผมเป็นชาวนาทั้งคู่ และผมก็มีทะเบียนบ้านอยู่ที่ชนบทด้วย”
เมื่อเขามาที่นี่ เขาก็ได้เห็นว่าคนเมืองหลวงดูถูกทะเบียนบ้านในชนบทกี่คนบ้าง หู่จือจึงไม่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงที่นี่เลย
แน่นอนว่าถ้ามีผู้หญิงดี ๆ เต็มใจจะแต่งงานกับเขา เขาก็จะรู้สึกขอบคุณหล่อนไปทั้งชีวิต เขาจะดูแลหล่อนอย่างดีตลอดชีพ แต่ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นแบบที่เขาชอบด้วย
จางเหมยเหลียนไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาชอบเลย โดยเฉพาะตอนที่เขาถามโจวเฉวี่ยนว่าตระกูลจางข้างบ้านเป็นอย่างไรบ้าง เพราะหล่อนชวนเขาไปดูหนังหลายรอบเหลือเกิน
โจวเฉวี่ยนรู้เรื่องราวเน่าเฟะของตระกูลจางอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจางเหมยเหลียนกำลังวางแผนจับหู่จือ เพราะหล่อนมักจะหลีกเลี่ยงผู้คนเสมอ เป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กหนุ่มกำลังโตอย่างเขาจะพูดเรื่องของจางเหมยเหลียนและจางเหมยเหอได้
เมื่อหู่จือถาม โจวเฉวี่ยนก็บอกแค่ว่าคนตระกูลจางนิสัยไม่ดี
เป็นเพราะพวกเขานิสัยไม่ดีนี่เอง คุณน้ากับคุณน้าสะใภ้จึงมีปฏิสัมพันธ์กับแค่ตระกูลหม่าต่อให้ตระกูลจางเป็นเพื่อนบ้านของพวกเขาด้วยเหมือนกัน
ดังนั้นหู่จือจึงไม่คิดมากแต่อย่างใด จางเหมยเหลียนก็ไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาชอบเช่นกัน
หู่จือตอบปฏิเสธไปอย่างชัดเจนมาก แต่ไม่คิดเลยว่าจางเหมยเหลียนจะทำราวกับไม่รับรู้ เรื่องนี้จึงทำให้หู่จือรู้สึกงุนงง
ผู้หญิงจากเมืองหลวงคนนี้ชอบเขาที่ตรงไหนกัน?
“ฉันไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอกค่ะ” จางเหมยเหลียนตอบ แต่ในใจของหล่อนกลับพูดว่า ปิดบังฉันอยู่สินะ สวี่เชิ่งเหม่ยบอกว่าครอบครัวของนายที่ชนบทไม่ได้ยากจนเลย
หู่จือย่นคิ้วและไม่เอ่ยอะไร
“ฉันชอบคุณตรงที่คุณตรงไปตรงมาและขยันทำงาน แถมยังมั่นคงและซื่อสัตย์ด้วยค่ะ” จางเหมยเหลียนเงยหน้ามองเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...