จะให้โจวชิงไป๋สานสัมพันธ์กับลูกชายของตัวเองน่ะเหรอ? ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องสานสัมพันธ์เลยสักนิดเดียว
โจวชิงไป๋ทำเพียงถามขึ้นมาหนึ่งประโยค “ลูกหิวไหม?”
โจวข่ายตอบว่าเขาจะรอกินพร้อมกันในตอนเย็น แล้วก็จบเท่านั้น
ในทางกลับกัน คุณป้าหม่าดีใจมากที่ได้เห็นโจวข่ายกลับมา หล่อนเอ่ยขึ้นว่า “การฝึกนี้ต้องเหนื่อยล้ามาก และเธอก็คล้ำขึ้นมากเลยนะจ๊ะ คุณแม่ของเธอคงต้องรู้สึกเศร้าใจมากเลยที่ได้เห็นเธอเป็นแบบนี้ หล่อนบ่นคิดถึงเธออยู่ตลอดเวลาเลยละจ้ะ”
โจวข่ายหัวเราะแล้วตอบกลับ “ผมก็คิดถึงบ้านมากครับ แต่ผมไม่มีเวลากลับมาเลย” อาชีพที่เขาเข้าไปเข้าร่วมอยู่ไม่อนุญาตให้เขาได้มีอิสระอีกต่อไปในอนาคต
คุณป้าหม่ากล่าวว่า “ฉันได้ยินมาจากคุณย่าของเธอว่าหล่อนเลี้ยงไก่ไว้หลายตัวสำหรับเธอเลยล่ะจ้ะ แค่รอเวลาให้เธอกลับมาก็จะเอามาบำรุงร่างกายให้เธอ”
โจวข่ายตอบกลับอย่างร่าเริง “ถ้าอย่างนั้น ผมคงจะไม่เกรงใจคุณย่าแล้วละครับ”
“มีอะไรต้องเกรงใจกันล่ะจ๊ะ? ไม่ได้กลับมาได้บ่อย ๆ เธอจะต้องบำรุงร่างกายให้มาก ดูเหมือนว่าเธอจะผอมลงไปนะ” คุณป้าหม่าตั้งข้อสังเกต
“น้ำหนักผมไม่ได้ลดลงหรอกครับ ผมแค่ดูผอมลงไปนิดหน่อยเท่านั้น” โจวข่ายบอก
เขาตัวสูงที่สุดในครอบครัว ในตอนที่ใส่รองเท้าแล้ว ตัวจะสูงจนเกือบถึง 190 เซนติเมตร ส่วนสูงของเขาอยู่ที่ 188 เซนติเมตร ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ตรงไหน เขาก็ไม่มีทางถูกมองว่าเป็นคนเตี้ยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้
พูดตามตรง ไม่มีน้องชายคนไหนตัวเตี้ยเลย เจ้ารองก็สูงถึง 185 เซนติเมตรแล้วในตอนนี้ และดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มเติบโตได้ช้าลง แต่นั่นก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเจ้าสามเลย เขาอายุ 15 ปีเท่านั้นและสูงถึง 180 เซนติเมตรแล้ว ในอนาคต เขาจะไม่ตัวเตี้ยไปกว่าพี่ชายคนโตของเขามากนักหรอก
เมื่อเทียบกันแล้ว หู่จือและกังจือยังตัวเตี้ยกว่าอยู่เล็กน้อย พวกเขาตัวสูงน้อยกว่า 180 เซนติเมตร โดยสูงอยู่ที่ราว ๆ 176-177 เซนติเมตร
สรุปได้ว่า ของบำรุงร่างกายที่หลินชิงเหอสรรหากินมาให้ก่อนหน้านี้ ไม่ได้ไร้ประโยชน์เลย
หลินชิงเหอกลับมาพร้อมกับไก่ 1 ตัว นอกจากนี้ยังมีปลากะพง 2 ตัวและของอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
“ไปเชือดไก่ให้หน่อยค่ะ” หลินชิงเหอส่งไก่ไปให้โจวชิงไป๋
โจวชิงไป๋สั่งให้ลูกชายคนโตไปจัดการต่อ หลินชิงเหอจึงพูดขึ้นว่า “เขาเพิ่งกลับมาถึงเองนะคะ ให้เขาพักเถอะค่ะ”
โจวชิ่งไป๋ไม่ได้ทำท่าโมโหใส่ภรรยาเลย เขาแค่หันไปสบตากับลูกชายคนโตเท่านั้น ริมฝีปากของโจวข่ายกระตุกขึ้นอย่างรู้สึกขบขัน จากนั้นจึงไปตักน้ำร้อนมาเพื่อฆ่าและทำความสะอาดไก่
3 วันแรกที่เขากลับมาถึงนั้น แม่จะดูแลเขาราวกับเป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเลยทีเดียว เธอประคองกอดเขาไว้อย่างระมัดระวังเหมือนกลัวว่าเขาจะหล่นแล้วแตกหักไป
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาพิเศษนี้กินเวลาเพียงแค่ 3 วันแรกเท่านั้น หลังจากนั้น สิทธิประโยชน์ทั้งหลายก็หมดไป เขากลับมาได้รับการปฏิบัติเป็นปกติเหมือนเดิม
หลินชิงเหอคัดแยกผักไปด้วยในขณะที่พูดคุยกับเจ้าใหญ่ “ครั้งนี้ลูกกลับมาคนเดียวหรือจ๊ะ หรือว่ากลับมาพร้อมกับคนอื่นด้วย?”
“ผมกลับมาคนเดียวครับ แต่ผมก็ติดต่อกับเวิงกั๋วเหลียงมาตลอดแหละครับ เขายังไม่สามารถปลีกตัวกลับมาได้ในช่วงนี้ แต่จะกลับมาตอนช่วงปลายปี” โจวข่ายตอบ
“ปีนี้ เหม่ยเจี่ยจะไปฝึกงานที่โรงพยาบาลทางนั้นแล้วนะจ๊ะ”
“เร็วขนาดนี้เลยหรือครับ?” โจวข่ายพูดขึ้น
“เหม่ยเจี่ยมีผลการเรียนที่ดีมาก เมื่อหล่อนไปอยู่ที่นั่นแล้ว ลูกต้องคอยดูแลหล่อนนะ เข้าใจไหม? ม้าสนิทกับคุณป้าเวิงของลูกอย่างแน่นแฟ้นมากนะ”
“ผมจะคอยสอดส่องดูแลหล่อนให้ครับ” โจวข่ายกล่าว
“ไม่ใช่แค่คอยสอดส่องดูแล แต่ต้องคอยปกป้องหล่อนด้วย โดยเฉพาะตอนนี้เหม่ยเจี่ยยังเด็กอยู่ ลูกจะต้องไม่ยอมให้พวกเด็กหนุ่มที่นั่นมาตามจีบหล่อนด้วยนะ” หลินชิงเหอสั่ง
โจวข่ายหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ทันที “ไม่มีเรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นหรอกครับ เหม่ยเจี่ยยังเป็นเด็กสาวตัวน้อยอยู่เลย” เขาเฝ้ามองดูหล่อนเติบโตขึ้นมาเชียวนะ
หลินชิงเหอกลอกตา ทำไมเจ้าตัวแสบนี่ยังไม่รู้สึกตัวอีกนะ? เธอพูดชัดถึงขนาดนี้แล้ว เขายังจะคิดว่าเธอพูดเล่นอีก
“ป๊าของลูกอยากจะอุ้มหลานสาวแล้ว ปีนี้เจ้ารองก็อายุแค่ 17 เท่านั้น ยังเป็นผู้เยาว์อยู่เลย เร็วเกินไปที่จะรอจากเขา ยิ่งเจ้าสามแล้วปล่อยไปก่อนได้เลย ฉะนั้น เจ้าใหญ่ ลูกจะว่ายังไง” หลินชิงเหอพูดออกมาอย่างชัดแจ้ง
โจวข่ายถึงได้เข้าใจและรู้สึกขัดเขินขึ้นมา “สาวน้อยเหม่ยเจี่ยนั่นยังเด็กอยู่เลยนะครับ”
“ยังเด็กอยู่อะไรกันล่ะ? หล่อนเป็นสาวแล้วนะ” หลินชิงเหอโต้กลับไปอย่างขุ่นเคือง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...