“จุ๊ จุ๊ ป๊าม้า 2 คนนี่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเอาเสียเลยนะครับ” โจวกุยหลายส่ายหน้า
“ทำไม? มีคนว่าลูกหน้าตาน่าเกลียดหรือยังไง?” หลินชิงเหอถาม
สองคนพี่น้องที่ได้หน้าตาแบบป๊ามา ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่เร็วไปหน่อย พวกเขาไม่ได้น่าเกลียดเลย ในทางตรงข้าม พวกเขาดูเป็นลูกผู้ชายที่แข็งแรงห้าวหาญ
ไม่อย่างนั้น ทำไมจูเจินเจินจากครอบครัวตระกูลจูและจางเหมยเหลียนถึงได้สนใจเจ้าใหญ่ของเธอตั้งแต่แรกเห็นล่ะ?
แต่อย่ามาพูดถึงดอกท้อเน่า(1)เหล่านี้เลย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่คุณแม่เวิงรู้สึกพอใจ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไร
“ใครจะคิดว่าผมอัปลักษณ์ได้ล่ะครับ? ก็แค่ตอนที่ผมส่องกระจกดูตัวเองแล้วรู้สึกว่ามันดูจะรีบเกินวัยไปหน่อย” โจวกุยหลายตอบ
จากนั้นบทสนทนาก็เริ่มเปลี่ยนเรื่องไป เขาเริ่มประณามพี่ชายคนโตของตัวเอง “แต่ตอนนี้พี่ใหญ่ผิวดำปี๋เหลือเกินจนดูอย่างกับอายุรุ่นราวคราวเดียวกับป๊าแน่ะ ม้าครับ ม้าต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุดเลยนะครับ ไม่อย่างนั้นในอนาคตนี้พี่ใหญ่อาจจะได้กลายเป็นคนโสดไปตลอดแน่”
“ก็ปากอย่างนายนี่แหละ ที่ทำให้เทพบุตรหนุ่มโสดอย่างพี่ใหญ่ต้องมาโดนดูถูกเหยียดหยามแบบนี้” โจวเฉวี่ยนพูดแทรกเข้ามา
“พี่รอง อย่าพูดเลย พี่น่ะได้ประโยชน์มากที่สุดแล้ว เข้าใจไหมครับ? ทำไมม้าผมถึงได้คลอดพี่ออกมาดูเหมือนกับม้าเปี๊ยบเลย แต่กลับไม่ให้ผมได้รับกรรมพันธุ์มาจากม้าบ้างเลย”
โจวเฉวี่ยนหัวเราะออกมา
“พวกเธอพี่น้องก็หน้าตาหล่อเหลาทุกคนนั่นแหละจ้ะ ไม่ต้องไปกังวลเรื่องการหาภรรยาหรอก ตราบใดที่ผู้หญิงคนนั้นมีสายตาที่แหลมคม พวกหล่อนจะต้องชอบเธอแน่จ้ะ” คุณป้าหม่าเอ่ยขึ้น
“คุณยายหม่าช่างมีสายตาที่เฉียบแหลมที่สุด ถ้าคุณยายอายุน้อยกว่านี้สัก 40 ปี ผมจะต้องไปหาคุณยายที่บ้านเพื่อกินข้าวด้วยทุกวันเลยครับ” โจวกุยหลายเอ่ย
“ถ้าฉันอายุน้อยกว่านี้ไป 40 ปีจริง ฉันก็คงไม่เลือกเธอหรอกจ้ะ แต่ฉันจะเลือกพี่รองของเธอ” คุณป้าหม่าหัวเราะชอบใจ
โจวกุยหลายฟังแล้วก็หัวใจสลาย
พอถึงเวลาหนึ่งทุ่ม มันก็เป็นเวลาเลิกงานของคุณป้าหม่า หญิงชรามาที่นี่เพื่อล้างจานและมีความสุขมากจริง ๆ ทั้งได้พูดคุยและมีเสียงหัวเราะ วันเวลาผ่านไปอีกหนึ่งวัน ซึ่งหล่อนก็ได้มีช่วงเวลาที่ดี
หลังเลิกงาน โจวเอ้อร์นี หู่จือและกังจือมารับประทานอาหารเย็นกันที่นี่
หลังจากกินเสร็จพวกเขาก็นำอาหารที่บรรจุเตรียมไว้แล้วไปให้คนอื่น ๆ รับประทาน
ในฤดูหนาว ร้านจะปิดเวลา 6 โมงเย็น ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อน ร้านเสื้อผ้าของหลินชิงเหอจะปิดตอนเวลา 3 ทุ่ม
หม่าเฉิงหมินดูแลร้านค้าด้วยตนเองคนเดียวหนึ่งร้าน เฉินซานซานดูแลร้านอยู่อีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ พนักงานใหม่พร้อมที่จะเข้ามาทำงานที่ร้านของโจวเอ้อร์นีแล้ว และร้านของเฉินซานซานก็จะมีพนักงานใหม่มาเข้าทำงานเช่นกัน และพนักงานใหม่อีก 2 คนจะเฝ้าร้าน 1 ร้าน
เฉิงหยางกับเฉิงเยว่เองก็ไม่มีเวลาว่างที่ร้านเครื่องดื่มเลย
ด้วยเหตุนี้ หลินชิงเหอจึงขอให้โจวชิงไป๋ทำอาหารเย็นไว้ให้พวกเขาด้วย
ทางด้านของหม่าเฉิงหมินก็ได้รับเช่นกัน นี่ถือได้ว่าเป็นสวัสดิการอย่างหนึ่ง
หลังจากเพิ่มคนเข้ามาแล้ว พนักงานในร้านค้าของหลินชิงเหอก็ยังไม่พออยู่ดี ในตอนที่ถึงวันหยุดงานของพนักงาน พวกเขาก็จะต้องโยกย้ายพนักงานจากร้านหนึ่งไปทำงานที่อีกร้านหนึ่งแทน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมหลินชิงเหอถึงอยากจะเรียกตัวโจวซื่อนีมาที่นี่
หลังจากที่กินเสร็จแล้ว หู่จือก็ไปส่งอาหารให้ทุกคน อาหารจานเนื้อ 1 อย่างและเครื่องเคียงอีก 2 อย่างถูกบรรจุอยู่ในกล่องอาหาร ปริมาณอาหารเท่านี้มากเพียงพออย่างแน่นอน
หลังจากที่ส่งอาหารไปเสร็จแล้ว หู่จือ กังจือและเอ้อร์นีต้องไปเรียนภาคค่ำต่อ
หลินชิงเหอบอกให้หม่าเฉิงหมินเปิดรับสมัครพนักงาน เธอวางแผนว่าจะรับพนักงานเพิ่มอีก 3 คน เมื่อรวมกับที่เธอกันที่ไว้สำหรับซื่อนีแล้ว ก็จะเป็นทั้งหมด 4 คน
เมื่อถึงเวลานั้น การทำงานจะมีมาตรฐานที่ดีขึ้น งานก็จะไม่รัดตัวมากเหมือนกับที่เป็นอยู่ในตอนนี้
โจวข่ายไปที่บ้านคุณปู่คุณย่าด้วยตนเอง
ตอนที่เขามาถึง ท่านแม่โจวกำลังป้อนอาหารให้กับเถียนเถียนตัวน้อยอยู่ หนูน้อยกำลังเจริญอาหาร ถ้านี่เป็นช่วงปีที่ยังอยู่กันอย่างอดอยาก สาวน้อยคนนี้คงจะนึกรังเกียจเป็นแน่
“คุณย่าครับ” โจวข่ายตะโกนเรียกเมื่อเดินเข้ามา
ท่านแม่โจวตัวแข็งแล้วหันไปมอง จากนั้นความปลาบปลื้มใจก็ปรากฏบนใบหน้าของนาง “เจ้าใหญ่เหรอ?”
“ครับ” โจวข่ายยิ้มกว้างเต็มหน้า
“ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ? อาได้ยินพี่สะใภ้สี่บอกว่าจะต้องอีกสักพักหนึ่ง” โจวเสี่ยวเหมยพูดอย่างดีใจ
“ผมกลับมาล่วงหน้าน่ะครับ” โจวข่ายตอบ
เขาเป็นเด็กหนุ่มที่โตเต็มที่แล้ว ทั้ง ๆ ที่มีสีผิวที่ดำคล้ำ แต่เขามีรูปร่างที่สุดยอด ด้วยกล้ามเนื้อที่หน้าท้อง 8 มัด ในแบบที่ผู้ชายจะต้องรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่า และผู้หญิงจะต้องกรีดร้องเมื่อได้เห็น
“ฮี่ฮี่ ถ้างั้นพี่ก็เดินไปรอบ ๆ เลยสิ ให้พวกเขารู้สึกว่าสู้พี่ไม่ได้” โจวกุยหลายฉีกยิ้มและพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
“ขัดหลังต่อไปซะ” โจวข่ายบอก
โจวกุยหลายขัดหลังต่อ เมื่อเสร็จแล้ว เขาก็ให้พี่ชายขัดหลังให้เขาบ้าง ท่านพ่อโจวกับเฒ่าหวังต่างก็ขัดหลังเช่นเดียวกัน
การมาโรงอาบน้ำก็จะเป็นเช่นนี้ ต้องหาใครสักคนมาร่วมด้วย หรือลองมองหาดูว่ามีใครบ้างที่มาคนเดียวตามลำพัง
แม้ว่า ตอนที่ถูกขัดตัวจะรู้สึกเจ็บบ้าง แต่มันจะรู้สึกสบายตัวขึ้นมากทีเดียวหลังจากที่ขัดตัวเสร็จแล้ว
ท่านพ่อโจวและเฒ่าหวังสอบถามว่าครั้งนี้โจวข่ายจะอยู่ได้นานแค่ไหน โจวข่ายก็บอกให้ฟังอย่างละเอียด
สำหรับการที่โจวข่ายมีสีผิวที่ดำคล้ำ พวกเขาไม่ใส่ใจกับมันเลย ในฐานะที่เป็นผู้ชาย จะผิวคล้ำก็ปล่อยให้คล้ำไปสิ มันสำคัญอะไรล่ะ?
“ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้หวังหยวนจะมีเวลาหรือเปล่า ถ้าเขาว่าง จะได้ให้เขาพาพวกเราไปบ่อน้ำพุร้อนกัน ฉันเป็นเจ้ามือเอง” เฒ่าหวังเปลี่ยนเรื่อง
“หวังหยวนคือใครหรือครับ?” โจวข่ายสงสัย
เขาไม่ได้กลับมาบ้านเกือบปี แม้กระทั่งในตอนนี้ เขาก็ยังไม่รู้เรื่องการแต่งงานของสวี่เชิ่งเหม่ย อย่าว่าแต่ความสัมพันธ์ระหว่างโจวเอ้อร์นีกับหวังหยวนเลย
…………………………………………………………………………………………
(1) หมายถึงเรื่องของความรักที่ไม่มีความสุข
สารจากผู้แปล
รู้สึกเหมือนประเทศแถบเอเชียจะนิยมผิวขาวกันนะคะ ซึ่งอันนี้ก็เป็นค่านิยมที่ถ้าตัดสินกันก็คงจะเถียงกันไม่จบ เอาเป็นว่าเรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคลของแต่ละคนแล้วกันค่ะ ขอแค่ไม่ไปข่มหรือเหยียดใครก็พอ
อยากรู้ว่าพี่เขยเป็นไงล่ะสิเจ้าใหญ่ ถ้าได้รู้จะรู้สึกอยากทำบ้างแบบไม่ให้น้อยหน้าพี่เขาไหมนะ
ไหหม่า(海馬)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...