บทที่ 437 ความสำคัญของภรรยาที่ดี
โจวกุยหลายอธิบายให้เขาฟัง “หวังหยวนเป็นแฟนของพี่เอ้อร์นีครับ”
“พี่เอ้อร์นีมีแฟนแล้วเหรอ?” โจวข่ายถามอย่างประหลาดใจ “เป็นญาติกับคุณปู่ทูนหัวเหรอ?”
พวกเขาต่างก็แซ่หวังด้วยกันทั้งคู่ เขาจึงเอ่ยถามขึ้นมา
“ก็ทำนองนั้นแหละครับ แต่คุณปู่ไม่ได้เป็นคนแนะนำให้พวกเขารู้จักกันหรอกนะครับ เขาเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าที่ร้านเสื้อผ้าของเราติดต่อค้าขายอยู่ด้วย เป็นเถ้าแก่ธุรกิจโรงงานผลิตเสื้อผ้า รวยมาก ๆ เลยครับ จากนั้นก็มาหลงรักพี่เอ้อร์นี ตอนนี้กำลังคบหากันอยู่ ดูเหมือนเขากังวลใจอยากจะแต่งงานกับพี่เอ้อร์นีแล้ว แต่พี่เอ้อร์นียังไม่มีแผนที่จะแต่งงานเลยครับ” โจวกุยหลายเล่า
“เขาเปิดโรงงานเป็นของตัวเองงั้นเหรอ? อายุเท่าไหร่แล้ว?” โจวข่ายถาม
“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปครับ เขาไม่ได้เป็นแบบพวกคุณลุงวัยกลางคนพวกนั้นหรอก อายุมากกว่าพี่เอ้อร์นี 6 ปี ถือว่ายังไม่มากเท่าไหร่” โจวกุยหลายกล่าว
โจวข่ายพยักหน้า 6 ปีถือว่ายังยอมรับได้อยู่
“แล้วเขาปฏิบัติกับพี่เอ้อร์นียังไง?” โจวข่ายตั้งคำถามต่อ
เด็กหนุ่มย่อมรู้สึกเป็นห่วง เพราะเขาเติบโตมากับโจวเอ้อร์นีที่เป็นญาติผู้พี่คนนี้
“พี่ถามคุณปู่ดูสิครับว่าคุณปู่พอใจเขาไหม” โจวกุยหลายตอบ
“หวังหยวนดีมากทีเดียว” ท่านพ่อโจวพยักหน้ายอมรับ
สำหรับหวังหยวนแล้ว ท่านพ่อโจวหาจุดบกพร่องในตัวเขาไม่ได้เลย ถ้าหลานสาวของเขาจะได้แต่งงานกับหวังหยวน ท่านพ่อโจวก็เห็นชอบด้วย เขาเชื่อว่าในอนาคตเอ้อร์นีจะได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดี
“อีกอย่างนะครับ เขามีความสัมพันธ์กับคุณปู่ทูนหัวด้วย เป็นหลานชายของเพื่อนวัยเด็กของคุณปู่ทูนหัวน่ะครับ” โจวกุยหลายเอ่ยถึง
ซึ่งเฒ่าหวังได้บอกว่า “เด็กคนนั้นไม่กล้าทำตัวไม่ดีกับเอ้อร์นีหรอก”
ตอนนี้โจวข่ายโล่งใจแล้ว และเขาก็รู้สึกสนใจในเรื่องไปแช่ตัวที่บ่อน้ำพุร้อนขึ้นมานิดหน่อย
น่าเสียดายที่ไปวันพรุ่งนี้ไม่ได้ เพราะโจวกุยหลายจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ เมื่อเขาสอบเสร็จแล้ว พวกเขาถึงจะสามารถเที่ยวพักผ่อนด้วยกันได้
หลังจากที่สองพี่น้องอาบน้ำเสร็จ พวกเขาก็มาที่บ้านคุณปู่คุณย่าด้วยกัน ท่านแม่โจวทำบะหมี่ 2 ชาม ท่านพ่อโจวกับเฒ่าหวังไม่กินอาหารเพิ่มอีกแล้ว โจวข่ายและโจวกุยหลายจึงกินกัน 2 คน
ไข่ลวก 2 ฟองในบะหมี่หนึ่งชามนั้นอร่อยมากทีเดียว
“ม้าเคยทำแบบนี้ให้พวกเรากินกันด้วยครับ” โจวข่ายบอกยิ้ม ๆ
“แม่ของพวกเธอมักรู้วิธีทำอาหารดี ๆ ให้กินเสมอแหละจ้ะ” ท่านแม่โจวพูด
“ผมยังจำไข่ต้มยางมะตูมที่ม้าเคยทำให้พวกเรากินตอนที่ยังอยู่ที่หมู่บ้านได้อยู่เลยครับ มันอร่อยมาก ๆ เลย” โจวกุยหลายกล่าวขึ้น
“นั่นมันตอนที่นายอายุแค่ 7-8 ขวบเองนี่ใช่ไหม? ทำแค่ครั้งเดียวเอง นายยังจำได้อีกเหรอเนี่ย?” โจวข่ายประหลาดใจ
“ผมจะจำไม่ได้ได้ยังไงล่ะครับ? ก็มันอร่อยมากนี่น่า เสียดายที่หลังจากนั้นม้าไม่เคยทำอีกเลย” โจวกุยหลายคร่ำครวญ
“พอนายสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จแล้ว ก็ไปบอกให้ม้าทำให้กินสิ” โจวข่ายบอก
สองพี่น้องกินบะหมี่จนหมดและรู้สึกแน่นท้องนิดหน่อย เนื่องจากท่านแม่โจวทำในปริมาณที่มาก
“พรุ่งนี้พวกเธอทั้ง 2 คนมาที่นี่อีกนะ จะได้กินไก่ตุ๋นด้วยกัน” ท่านแม่โจวบอก
โจวข่ายและโจวกุยหลายรับปาก จากนั้นเฒ่าหวังก็กลับไปที่มหาวิทยาลัย โจวข่ายและโจวกุยหลายไปส่งเขากลับก่อน แล้วจึงเดินทางกลับบ้าน
ในเวลานี้ โจวเอ้อร์นี หู่จือและกังจือน่าจะเลิกเรียนภาคค่ำแล้ว ดังนั้นทั้งคู่จึงเดินอ้อมทางไปเพื่อรอรับพวกเขากลับบ้านพร้อมกัน
ทั้ง 2 คนไม่เห็นโจวเอ้อร์นี กังจือและหู่จือ แต่กลับเห็นสวี่เชิ่งเฉียงเดินออกมาก่อน
“นั่นมันเชิ่งเฉียงไม่ใช่เหรอ?” มีคนเยอะมากอยู่ที่บริเวณหน้าประตูโรงเรียน โจวข่ายคิดว่าเขาจำคนผิดจึงชะงักไป
สวี่เชิ่งเฉียงขี่จักรยานมาโรงเรียน เขาน่าจะกำลังรีบอยู่ จึงผ่านออกไปโดยที่ไม่ทันเห็นพวกเขา
“ใช่เขานั่นแหละ” โจวกุยหลายพยักหน้า
“เกิดอะไรขึ้น?” โจวข่ายถาม
“พี่ยังไม่รู้เหรอ? พี่เชิ่งเหม่ยแต่งงานออกไปแล้ว” โจวกุยหลายบอก
“เจ้าใหญ่เราก็อายุตั้ง 19 แล้ว แต่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเรื่องแบบนี้อีก? คุณอายุเท่าไหร่คะตอนที่คุณเริ่มอยากจะแต่งงานแล้วน่ะ?” หลินชิงเหอถามขึ้น
โจวชิงไป๋กระแอมเสียงแห้งแล้วตอบกลับ “ปล่อยเขาไปเถอะครับ พอถึงเวลานั้น เขาก็จะคิดถึงมันเองล่ะ”
ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาเองก็ไม่ได้มีความคิดในเรื่องนี้เลย แต่เป็นแม่ของเขาที่รีบร้อนจัดการเรื่องนี้ให้ เขาจึงทำแค่ยื่นใบลาแล้วกลับมาที่หมู่บ้านเพื่อแต่งงาน
รวมเวลาทั้งหมดที่เขากลับไปไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ
บอกตามตรงว่าในตอนนั้นเขาไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น ต่อเมื่อเขากลับมาอยู่ที่หมู่บ้านหลังจากนั้น และเธอมาอยู่ที่นี่แล้วต่างหาก เขาจึงได้ตระหนักถึงข้อดีของการมีภรรยา รวมทั้งเข้าใจว่าภรรยาที่ดีนั้นมีความสำคัญแค่ไหนสำหรับผู้ชายและสำหรับครอบครัว
“พอถึงเวลานั้น ถ้าเหม่ยเจี่ยถูกคนอื่นตามจีบแล้วจะทำยังไงล่ะคะ? ต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดค่ะ” หลินชิงเหอพูด
เธอตัดสินใจจะให้ลูกชายคนโตนำของขวัญไปให้บ้านเวิงในวันพรุ่งนี้ คุณแม่เวิงมักพูดถึงเขาอยู่ตลอด ถ้าเขาได้เป็นลูกเขยของหล่อน ก็จะเท่ากับได้มีคุณแม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคนที่จะรักเอ็นดูเจ้าใหญ่ของเธอ
โจวชิงไป๋ไม่รู้จะพูดอะไร แต่มันถูกต้องแล้ว ถึงแม้ผู้ชายที่ดีจะไม่ต้องกลัวว่าจะหาภรรยาไม่ได้ แต่ถ้าเจอคนที่ดีก็ต้องจัดการให้เรียบร้อยเสียก่อน
“เมื่อไหร่ที่เจ้าใหญ่แต่งงาน ภารกิจของเราก็จะเสร็จสมบูรณ์แล้วละค่ะ” หลินชิงเหอกล่าวพร้อมกับเอนตัวลงไปในอ้อมกอดของเขา
ชีวิตดูเหมือนว่าจะยาวนาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันผ่านไปอย่างรวดเร็วเกินไป
เมื่อย้อนคิดกลับไปถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งมาถึงที่นี่ ส่วนพวกเด็ก ๆ ยังหยาบคายและเป็นหัวผักกาดสกปรกอยู่เลย
แต่ตอนนี้พวกเขาถึงวัยที่สามารถแต่งงานได้แล้ว เธอกับชิงไป๋ของเธอก็แก่ขึ้นด้วยเช่นกัน
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ขอให้สมหวังได้เหม่ยเจียมาเป็นสะใภ้นะคะ ดูเจ้าใหญ่จะยังไม่คิดอะไร
พ่อกับแม่รักกันหวานมากเลยค่ะ มดขึ้นจอแล้ว
ไหหม่า (海馬)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...