ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 438

สรุปบท บทที่ 438 ความรู้สึกของทั้งสองครอบครัว: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

สรุปเนื้อหา บทที่ 438 ความรู้สึกของทั้งสองครอบครัว – ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม โดย Internet

บท บทที่ 438 ความรู้สึกของทั้งสองครอบครัว ของ ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 438 ความรู้สึกของทั้งสองครอบครัว

โจวชิงไป๋ทนฟังคำว่าแก่ไม่ได้

เมื่อได้ยินเธอหวนนึกถึงอดีต เขาก็แสดงให้เธอได้เห็นว่าเขาแก่แล้วหรือยัง

ก่อนที่หลินชิงเหอจะผล็อยหลับไป เธอก็ไม่หวนรำลึกถึงความหลังอีกเลย เหลือเพียงแค่ความคิดเดียวเท่านั้น เอ่อ ชิงไป๋ของเธอยังไม่แก่เลยสักนิด

วันรุ่งขึ้น ทั้งครอบครัวตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ เจ้าสามกำลังจะไปสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นวันสำคัญมากวันหนึ่งในชีวิต ดังนั้น ทุกคนในครอบครัวจึงตื่นกันแต่เช้า

หลังจากกินอาหารเช้าแบบเต็มรูปแบบแล้ว โจวข่ายก็ไปส่งโจวกุยหลายที่โรงเรียน แถมโรงเรียนของเขาเป็นสถานที่สอบด้วย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปสอบที่อื่น

หลังจากที่ไปส่งโจวกุยหลายเสร็จและกลับมาถึงแล้ว หลินชิงเหอได้ตระเตรียมถุงตาข่ายใส่แอปเปิลเอาไว้ให้เขาแล้วบอกว่า “ไปหาคุณป้าเวิงด้วย หล่อนคิดถึงลูกอยู่ตลอดเลย”

“ตกลงครับ” โจวข่ายซึ่งรับรู้ถึงเจตนาของแม่ตนเอง ได้แต่รู้สึกจนปัญญา ทว่าเขาก็ชอบครอบครัวตระกูลเวิง ดังนั้นจึงได้เดินทางไปหา ซึ่งใช้เวลาขึ้นรถโดยสารไปประมาณ 40 นาทีเท่านั้น

คุณแม่เวิงอยู่ที่บ้านพอดี หล่อนดีใจมากเมื่อได้เห็นเขา “เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะ? ครั้งก่อนป้าได้ยินแม่ของเธอบอกว่าต้องอีกสักพักหนึ่งถึงจะกลับ”

“ผมกลับมาล่วงหน้าน่ะครับ คุณลุงเวิงล่ะครับ?” โจวข่ายตอบกลับอย่างร่าเริง

“ไปทำงานน่ะจ้ะ เข้ามาเร็ว เธอไม่ได้กลับมาเลยเป็นปีแล้ว” คุณแม่เวิงระบายยิ้มออกมาเต็มหน้า

“ผมไม่ได้กลับมา 1 ปีแล้วครับ แต่ผมยังติดต่อกับกั๋วเหลียงอยู่ตลอด เขาอาจจะกลับมาตอนปลายปีนะครับ” โจวข่ายกล่าว

“ปลายปีก็ปลายปี ตอนนี้ยังไม่ต้องไปสนใจเขาหรอกนะจ๊ะ เมื่อตอนต้นปี แม่กับน้องชายทั้ง 2 คนของเธอแล้วก็ป้าวางแผนไปเที่ยวฮาเอ๋อร์เพื่อไปดูเมืองน้ำแข็งกัน แต่พอไปถึงที่นั่น พวกเรากลับเจอพายุหิมะ เลยต้องอยู่แต่ในบ้านพักถึง 2 วัน จากนั้นเราก็ทำได้เพียงแค่ต้องกลับมา” คุณแม่หวังเล่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ผมได้ยินแม่บอกว่าเหม่ยเจี่ยจะไปฝึกงานปีนี้หรือครับ” โจวข่ายเอ่ย

“ใช่แล้วจ้ะ พอไปอยู่ที่นั่นแล้ว เธอช่วยดูแลหล่อนให้ด้วยนะ เด็กคนนั้นไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เสียที” คุณแม่เวิงบ่น

“ถ้าอย่างเหม่ยเจี่ยยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ก็คงไม่มีใครเป็นผู้ใหญ่แล้วละครับ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ พวกเราโตมาด้วยกัน ยังไงก็รักใคร่สนิทสนมกันอยู่แล้ว” โจวข่ายตอบ

คุณแม่เวิงพยักหน้าอย่างมีความสุขพลางกล่าวว่า “ครั้งนี้เธอคล้ำแล้วก็ผอมกว่าเดิมอีกนะ กินข้าวกลางวันที่นี่นะจ๊ะ ป้าจะทำอาหารบำรุงร่างกายให้กิน”

“คุณย่าผมจองตัวผมเอาไว้แล้วน่ะสิครับ บอกให้ผมไปที่นั่นตอนบ่าย ท่านจะตุ๋นไก่เอาไว้ให้ผมน่ะครับ” โจวข่ายปฏิเสธออกไป

“คุณย่าเธอนี่รักเธอมากจริง ๆ นะ ครั้งก่อนที่ป้าไปที่นั่น ก็ได้ยินแม่เธอพูดให้ฟังว่าคุณย่าเธอเลี้ยงไก่ไว้หลายตัวเลย เตรียมพร้อมเพื่อเอาไว้ตุ๋นให้เธอกิน ไม่มีใครได้กินเลยนะ ถึงแม้พวกเขาจะอยากกินก็ตาม” คุณแม่เวิงกล่าว

โจวข่ายยิ้ม

หลังจากมานั่งคุยอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน เขาก็กล่าวขอบคุณคุณแม่เวิงที่ชวนกินข้าวด้วย และขึ้นรถกลับไป

เมื่อคุณพ่อเวิงกลับมาจากที่ทำงานในตอนกลางวัน เขาก็พบว่าภรรยาอารมณ์ดีมาก ก่อนที่เขาจะทันได้ถามอะไร หล่อนก็เล่าให้ฟังว่า “เสี่ยวข่ายกลับมาแล้วค่ะ เราอย่าเพิ่งกินอาหารกลางวันกันเลยค่ะ คืนนี้ฉันว่าจะไม่ทำอาหารเย็น เราไปที่บ้านอาจารย์หลินกัน แล้วกินอาหารที่นั่นร่วมกันดีกว่าค่ะ”

“ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก เสี่ยวข่ายเพิ่งจะกลับมา พวกเขายังสังสรรค์กันไม่เสร็จเลย พวกเขาจะมีเวลามาเลี้ยงรับรองคุณได้ยังไงกันเล่า?” คุณพ่อเวิงกล่าวพร้อมกับวางกระเป๋าลง

“จะเป็นปัญหาอะไรล่ะคะ? ฉันกับอาจารย์หลินมีความสัมพันธ์กันในระดับไหนแล้ว? อาจารย์หลินต้องดีใจมากแน่ค่ะที่ฉันจะไปกินมื้อเย็นด้วย คุณจะไปรู้อะไรล่ะ พ่อคนโง่?” คุณแม่เวิงเอ่ยดูถูก

จากนั้น หล่อนก็พูดต่อว่า “ฉันรู้สึกว่ากลับมาครั้งนี้ เสี่ยวข่ายผิวคล้ำขึ้นและก็ผอมลงไปเยอะมากเชียวค่ะ ฉันจะเอาโสมที่หลานชายคุณให้เป็นของขวัญตอนช่วงวันปีใหม่ ไปให้กับเสี่ยวข่ายคืนนี้ พอเอาไปตุ๋นกับไก่แล้วมันจะช่วยบำรุงร่างกายได้ดีมาก”

“คุณยังมีลูกชายอยู่อีก 2 คนนะครับ” คุณพ่อเวิงเอ่ยเตือนอย่างระอาใจ

ช่างตรงกับคำพูดประโยคนั้นจริง ๆ ยิ่งแม่ยายเป็นคนหาลูกเขยเอง หล่อนก็จะยิ่งถูกใจ ในบ้านมีของดีอะไร ก็อยากส่งไปให้ลูกเขยหมด

“สองคนนั้นก็ยังไม่ได้กลับมาจนกว่าจะถึงช่วงปลายปีนี่คะ จะรีบไปทำไม? เอามาใช้บำรุงเสี่ยวข่ายก่อนก็ได้ ดูสิคะ เขาเอาแอปเปิลมาให้ตั้งถุงเบ้อเร่อขนาดนี้” คุณแม่เวิงตอบ

คุณพ่อเวิงแย้งอยู่ในใจ ไม่ว่าในถุงตาข่ายจะมีแอปเปิลอยู่กี่ลูก และใช้เงินซื้อมากสักเท่าไหร่ แต่ของผมเป็นโสมป่าจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมดเลยนะนั่น!

ตอนเย็น ครอบครัวเวิงก็แวะมาหา หลินชิงเหอซึ่งกำลังทำซุปไก่กระเพาะหมูตุ๋นอยู่ ดีใจที่เห็นพวกเขามา

แม้ว่าจะมีคุณพ่อเวิงและคุณแม่เวิงเพิ่มเข้ามา 2 คน แต่หลินชิงเหอก็เตรียมอาหารไว้มากมาย แค่ต้องทำแป้งย่างและซุปมากขึ้นเท่านั้น แถมยังมีอาหารอย่างอื่นอีกเหลือเฟือ

เธอได้กระเพาะหมูมา 2 ชิ้นกับแม่ไก่แก่ที่ท่านแม่โจวส่งมาให้ ซึ่งมีมากกว่า 5 ชั่ง เมื่อนำมาแบ่งกันแล้วก็นับว่าเพียงพอ

โจวชิงไป๋จัดเตรียมโต๊ะอาหารตัวใหญ่ตั้งไว้ตรงกลางร้านเกี๊ยว โชคดีที่ร้านเกี๊ยวมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่สามารถนั่งกันได้หมด

“คุณโจวยังไม่มาเลย” คุณแม่เวิงเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นหลินชิงเหอกำลังจะเริ่มรับประทานอาหาร

“ฉันแบ่งอาหารไว้ให้เขาแล้วละค่ะ ค่อยให้เขากินทีหลัง พวกเรากินกันก่อนเถอะค่ะ” หลินชิงเหอบอก

เธอเก็บอาหารไว้ให้ชิงไป๋แล้ว ปริมาณกำลังพอเหมาะ ยามดึกไม่ควรจะกินมากจนเกินไป มิฉะนั้นจะทำให้อ้วนลงพุงได้ง่าย ๆ

3 คนพี่น้องของครอบครัวโจว โจวเอ้อร์นี หู่จือและกังจือก็อยู่ด้วย พวกเขารับประทานอาหารร่วมกัน ทำให้บรรยากาศครึกครื้นมาก

“ที่นี่ครึกครื้นดีจริง ๆ นะคะ ที่บ้านฉันมีแค่เรา 2 คนเท่านั้น จะซื้ออาหารก็ไม่ง่ายเหมือนกันค่ะ” คุณแม่เวิงกล่าว

“จะมีปัญหาอะไรล่ะคะ? ถ้าคุณ 2 คนไม่รังเกียจว่าลำบาก ก็มากินอาหารด้วยกันที่นี่สิคะ ฉันไม่คิดค่าอาหารหรอกค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ย

คุณแม่เวิงรู้สึกพอใจมากและกล่าวขึ้นว่า “ถ้าอยู่ใกล้กันกว่านี้อีกสักนิด ฉันจะไม่เกรงใจเลยค่ะ รับรองว่าจะมากินข้าวกับครอบครัวใหญ่ที่นี่แน่นอน”

……………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

คุณพ่อเวิงถึงกับใจสลาย โสมป่ามูลค่าพัน ๆ หยวนถูกภรรยาเอาไปแลกกับแอปเปิลของว่าที่ครอบครัวลูกเขยเสียแล้ว เข้าใจหัวอกพ่อบ้านเลยค่ะ

เจ้าใหญ่รู้ใจตัวเองได้แล้วนะคะ ทั้งบ้านเวิงกับบ้านแม่สนิทกันขนาดนี้

ไหหม่า(海馬)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม