ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 448

บทที่ 448 เห็นด้วยอย่างเต็มที่

“ค่ะ พ่อกับแม่ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว” โจวซื่อนีผงกศีรษะ

“หนูอยู่ดูแลบ้านหรือจ๊ะ?” หลินชิงเหอถาม

“หนูต้องคอยดูไก่ เป็ด แล้วก็หมูที่บ้านน่ะค่ะ” โจวซื่อนีพยักหน้ารับ

หล่อนไม่ต้องไปทำงานที่ทุ่งนาก็จริง แต่ก็ยุ่งกับงานเหล่านี้แทน แถมยังมีน้องชายคนเล็กอีกหนึ่งคนด้วย

บ้านสายหลักมีลูกสาว 3 คนแรกคือต้านี เอ้อร์นี และซื่อนี จากนั้นจึงมีลูกชายอีก 2 คนตามมา

อย่างไรก็ตาม โจวซื่อนีเป็นคนรับผิดชอบงานที่บ้านทั้งหมด ส่วนลูกคนที่ 5 ซึ่งเป็นคนสุดท้องน้้นไปโรงเรียน

ถึงกระนั้นหลินชิงเหอก็รู้สึกว่าสะใภ้ใหญ่คงไม่ปฏิเสธให้โจวซื่อนีลูกสาวคนนี้ไปปักกิ่งกับพวกเขา

เพราะถ้าโจวซื่อนียังอยู่ที่หมู่บ้านเช่นนี้ หล่อนก็อยู่ได้แค่อีก 2-3 ปีเป็นอย่างมาก จากนั้นหล่อนจะต้องแต่งงานออกไป ไม่สามารถอยู่ช่วยงานที่บ้านไปตลอดชีวิตได้อยู่ดี

บางครั้งการตัดสินใจเลือกอะไรสักอย่างก็เป็นสิ่งที่จำเป็น

แต่โจวซื่อนีจะไปหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสะใภ้ใหญ่ ถ้าสะใภ้ใหญ่ไม่ต้องการให้ไป นั่นก็ไม่เป็นอะไร เธอจะไม่บังคับ

แต่ถ้าสะใภ้ใหญ่เห็นด้วย เธอจะจัดให้ซื่อนีไปเรียนภาคค่ำเหมือนคนอื่น ๆ พร้อมกับทำงานไปด้วย หล่อนจะได้พัฒนาตัวเองขึ้น และจะได้รับการดูแลอย่างดี

ถึงกระนั้นหลินชิงเหอก็ต้องถามความคิดเห็นของหล่อนก่อน “อาสะใภ้สี่กำลังขาดคนทำงาน ไม่รู้ว่าหนูอยากไปที่นั่นหรือเปล่าจ๊ะ ซื่อนี?

“ไปที่ปักกิ่งหรือคะ?” โจวซื่อนีตะลึงงันไป

“ใช่ ไปอยู่กับพี่สาวรองของหนูน่ะจ้ะ” หลินชิงเหอพยักหน้า

“หนู…หนูอยากไปค่ะ แต่หนูกลัวว่าจะไม่มีใครอยู่ทำงานที่บ้าน” ตอนแรกโจวซื่อนีรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่เพียงชั่วอึดใจต่อมา หล่อนก็รู้สึกลังเลขึ้นมาเล็กน้อย

หล่อนจะไม่อยากไปปักกิ่งได้อย่างไร? พี่สาวคนรองของหล่อนอยู่ที่นั่น น้องชายและอู่นีก็เคยได้ไปที่นั่นทั้งคู่ ตอนที่กลับมา พวกเขาเล่าให้ฟังว่าที่นั่นยอดเยี่ยมมาก แน่นอนว่าหล่อนย่อมอยากไป

แต่หล่อนไม่เคยพูดมันออกมา เพราะที่นั่นมีคนอยู่เยอะมากแล้ว หล่อนจึงกลัวว่าจะได้รับแรงกดดันมากเกินไป

ดังนั้นหล่อนจึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ในขณะที่คุณอาสะใภ้สี่ก็ไม่เคยเอ่ยปาก แต่หล่อนก็อยากไปที่นั่นจริง ๆ

ทว่าหล่อนก็กังวลเช่นกัน ถ้าหล่อนไปที่นั่น แล้วที่บ้านจะทำอย่างไร?

ตอนนี้ที่บ้านมีไก่และเป็ดอยู่หลายสิบตัว และมีหมูอีก 2 ตัว ซึ่งหล่อนต้องคอยดูแลทั้งหมด

และยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากทั้งในบ้านและนอกบ้าน โดยปกติแล้วหล่อนจะไม่มีเวลาว่างตลอดทั้งวัน

ต้องกล่าวว่าเป็นเพราะมีเด็กสาวที่มีความสามารถเช่นหล่อนอยู่ สะใภ้ใหญ่ถึงได้ทำงานแค่ในทุ่งนากับพี่ชายใหญ่เท่านั้น และสามารถวางใจได้เมื่อกลับมาถึงที่บ้าน ซึ่งเรื่องนี้ช่วยผ่อนแรงลงไปได้มาก

“ถ้าหนูอยากไปกับอาสี่กับอาก็ไปได้จ้ะ ส่วนเรื่องที่เหลือก็แค่เราต้องรอดูแม่ของหนูว่าหล่อนจะว่ายังไง” หลินชิงเหอกล่าว

เธอรู้ว่าสะใภ้ใหญ่จะไม่ห้ามหล่อน

หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋จึงปล่อยให้ซื่อนีไปทำงานต่อ ส่วนพวกเขากลับไปที่บ้านกันก่อน และทำความสะอาดบ้านทั้งด้านในและด้านนอก

สะใภ้ใหญ่และพี่ชายใหญ่กลับมาที่บ้านประมาณ 10 โมงเช้า

แม้ว่าจะเป็นเวลา 10 โมงเช้า แต่ในเวลานี้แสงแดดก็แผดเผาแรงมาก พวกเขาอาศัยการออกจากบ้านก่อนรุ่งสางและรีบทำงานของตนให้เสร็จโดยเร็ว

เมื่อกลับมาถึง พวกเขาจึงได้รู้ว่าหลินชิงเหอและโจวชิงไป๋กลับมาที่นี่

“ไปจับไก่ที่หลังบ้านมาเชือดด้วยนะคะ ฉันจะไปหาชิงเหอก่อน” สะใภ้ใหญ่พูดกับพี่ชายใหญ่

“ครับ” พี่ชายใหญ่เดินไปจับไก่ที่หลังบ้าน พร้อมกับบอกลูกสาวให้ต้มน้ำเพื่อถอนขนไก่ออก

ตอนที่สะใภ้ใหญ่มาถึงที่บ้าน หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋ได้ทำความสะอาดบ้านกันเสร็จแล้ว เมื่อเห็นสะใภ้ใหญ่เดินเข้ามา เธอก็ระบายยิ้มออกมาเต็มใบหน้าทันที “ฉันคิดไว้อยู่แล้วเชียวค่ะว่าอีกไม่นานพี่กับพี่ใหญ่ต้องกำลังจะกลับมาแล้ว แดดแรงมากจริง ๆ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม