ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 456

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 456 มีครอบครัวทางแม่หนุนหลัง
บทที่ 456 มีครอบครัวทางแม่หนุนหลัง

นอกจากนี้โจวซานนียังได้ไปหาคุณอาสะใภ้สาม ซึ่งอีกฝ่ายพาหล่อนไปโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้

สำหรับบ้านแม่ของตนนั้น โจวซานนีไม่ได้กลับไป

หลังจากที่โจวซานนีตามหลี่อ้ายกั๋วกลับมาที่หมู่บ้านแล้ว หล่อนเลยอยากให้หลี่อ้ายกั๋วมีใครอีกคน จากนั้นทั้งคู่ก็ทะเลาะกันในเรื่องนี้

หลังจากการทะเลาะและร้องไห้ในครั้งนี้แล้ว โจวซานนีก็สงบสติอารมณ์ลงได้ กระนั้นหญิงสาวคนนี้ก็ยังเป็นคนจิตใจดีเสมอมา

ครั้งนั้นหล่อนยังไม่รู้ว่าแม่สามีไม่สามารถทนตนเองได้ หล่อนยังคงตั้งความหวังไว้ โดยคิดว่าหลี่อ้ายกั๋วเป็นลูกชายของหล่อน โจวซานนีไม่รู้ว่าคนรุ่นนั้นให้ความสำคัญกับลูกเหนือสิ่งใด

ดังนั้นหล่อนจึงไปหาแม่ของอ้ายกั๋วเพื่อพูดถึงเรื่องนี้

แล้วจะไปรู้อะไรได้ล่ะ เรื่องนี้ได้ถูกป่าวประกาศไปทั่วหมู่บ้านหลี่เจี่ย โจวซานนีถูกแม่ของหลี่อ้ายกั๋วด่าว่าอย่างรุนแรง

นางพูดว่าครอบครัวของแม่หล่อนเป็นพวกคดโกง พวกเขาเอาเด็กสาวขี้โรคเช่นนี้แต่งออกมาและยังกล้าเรียกเงินสินสอดถึง 400 หยวน นี่เป็นเหมือนสิงโตที่อ้าปากกว้าง(1)ชัด ๆ

ข่าวถูกแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านหลี่เจี่ย

โจวซานนีรู้สึกโมโหมาก หลี่อ้ายกั๋วจึงได้ไปคุยกับแม่ของตนเองหลังจากที่รู้เรื่องนี้

แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ คนทั้งหมู่บ้านหลี่เจี่ยต่างก็รู้เรื่องนี้กันหมด ผู้คนพาพูดถึงเรื่องนี้ลับหลังอยู่บ่อย ๆ

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าที่หลี่อ้ายกั๋วจะแต่งงาน ชื่อเสียงของเขาได้ถูกทำลายมาตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวกับการที่จะต้องเกิดปัญหา ใครก็ตามที่กล้าพูดลับหลังพวกเขา เขาจะไปเผชิญหน้าตอบโต้ในทันทีโดยไม่มียั้ง

แม้จะเป็นผู้หญิง เขาก็สามารถโต้กลับไปจนกระทั่งพวกหล่อนต้องเสียหน้า เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ผู้คนพากันพูดว่า เขาเป็นคนพิการที่เหมาะกันแล้วกับแม่ไก่ที่ออกไข่ไม่ได้ เกือบจะเหมือนกับอีกาที่เกาะอยู่บนหลังหมู ที่แต่ละฝ่ายไม่มีทางที่จะไม่ชอบซึ่งกันและกัน

แต่หมู่บ้านหลี่เจี่ยก็ยังมีครอบครัวที่จิตใจดี และให้คำแนะนำดี ๆ มากมายแก่โจวซานนี

นอกจากนี้หลี่อ้ายกั๋วก็นับว่าเป็นคนที่มีฐานะค่อนข้างดีในหมู่บ้านหลี่เจี่ย ดังนั้นนอกเหนือจากการถูกนินทาจากคนที่ไม่ประสงค์ดีบางคนแล้ว ชีวิตของโจวซานนีก็ยังถือว่าดีอยู่

ติดเพียงเรื่องที่ว่าพวกเขาแต่งงานกันมาเกือบ 1 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีข่าวดีเสียที โจวซานนีซึ่งได้รับการปลอบประโลมจากหลี่อ้ายกั๋วไม่ได้แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมาให้เห็นก็จริง ทว่าเหตุการณ์นี้ได้ฝังแน่นอยู่ในจิตใจของเธอไปแล้ว

การไม่สามารถมีลูกได้เป็นความเจ็บปวดของผู้หญิงทุกคน

เมื่อหลินชิงเหอได้ยินว่าแม่ของหลี่อ้ายกั๋วไม่ได้ช่วยเหลือลูกสะใภ้ แต่กลับออกไปโพนทะนาเรื่องนี้ สีหน้าของเธอก็บูดบึ้งอย่างไม่พอใจ

เดิมทีเธอกำลังคิดว่าจะไปเยี่ยมเยียนนางเนื่องจากไม่ค่อยมีโอกาสได้มาที่นี่ ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์จะเป็นไปแบบธรรมดา แต่ถึงอย่างไรเธอต้องไปในฐานะที่เป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง

แต่ตอนนี้หลินชิงเหอไม่คิดจะรักษามารยาทอีกแล้ว เธอขี้เกียจเกินกว่าจะทำตามหน้าที่นี้ได้

“อาได้ยินว่าอ้ายกั๋วอยากจะไปเปิดร้านเหมือนทางอาสามของหนูหรือจ๊ะ?” หลินชิงเหอถาม

“เขาจะทำเพื่อหนูน่ะค่ะ เขาอยากให้หนูได้อยู่ใกล้กับโรงพยาบาล ขาของเขาไม่ดี แล้วเขาจะไปทำธุรกิจในเมืองได้ยังไงกันคะ? หนูเองก็ไม่ได้ความเลย การทำอย่างนั้นไม่ได้ผลหรอกค่ะ” โจวซานนีสั่นหน้า

“ถ้าอย่างนั้น หนูคิดจะตัดใจหรือจ๊ะ?” หลินชิงเหอพูด

“เปล่าค่ะ ตอนนี้หนูกำลังพยายามทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น หนูเชือดไก่และเอามาตุ๋นทุก ๆ ครึ่งเดือน ไม่มีใครในหมู่บ้านฟุ่มเฟือยเท่าหนูอีกแล้วละค่ะ” โจวซานนียิ้ม

แม้ว่าจะเป็นการฝืนยิ้ม แต่ก็ยังดูสดใส

“ไม่มากหรอกจ้ะ 40 หยวนต่อคน 80 หยวนสำหรับ 2 คนก็ถูกต้องแล้ว อีกอย่าง เมื่อไปที่นั่น หนูจะต้องเช่าบ้านและรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายเอง ดังนั้นหนูจะสามารถเก็บเงินได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นเองละจ้ะ” หลินชิงเหออธิบาย

ปีนี้เป็นปี 1983 แล้ว ค่าแรงเพิ่มสูงขึ้นทุกที่ สุดท้ายแล้วราคาสินค้าต่าง ๆ ก็เพิ่มขึ้นด้วย แต่เงิน 40 หยวนก็ไม่ใช่จำนวนเงินที่น้อยเลย เพียงแต่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ราคาของต่าง ๆ จะเพิ่มเหมือนกำลังบินทะยานขึ้นเรื่อย ๆ

“ถ้าอาสะใภ้สี่ขาดคนจริง ๆ หนู..หนูก็เต็มใจจะไปค่ะ อ้ายกั๋วจะไม่คัดค้านแน่ค่ะ” โจวซานนีไม่ลังเลใจใด ๆ เลย

“หนูยังต้องถามอ้ายกั๋วในเรื่องนี้นะจ๊ะ” หลินชิงเหอเอ่ย

“ถ้าโรงพยาบาลในปักกิ่งดีกว่าเขาคงไม่มีเรื่องให้ต้องบ่นอะไร อีกอย่างอาสะใภ้สี่ก็จัดหางานไว้ให้เราแล้วด้วยนี่ค่ะ เรามีหลักประกันเมื่อไปอยู่ที่นั่น ทุกอย่างคิดมาให้เราไว้หมดแล้ว ยังมีอะไรที่จะต้องลังเลใจอีกล่ะคะ?” โจวซานนีตอบ

หล่อนกลัวว่า ถ้าช้าไปก้าวหนึ่ง หล่อนจะไม่สามารถไปปักกิ่งได้

หล่อนไม่ได้ต้องการจะไปที่นั่นเพื่อได้มีชีวิตที่ดี แต่ครอบครัวทางแม่ของหล่อนและโรงพยาบาลของปักกิ่งอยู่ที่นั่น ยิ่งไปกว่านั้นหมู่บ้านหลี่เจี่ยต่างก็รู้เรื่องการเจ็บป่วยของหล่อน ดังนั้นในเมื่อมีทางเลือก หล่อนก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกแล้ว

………………………………………………………………………………………………

(1) หมายถึง การเรียกร้องเงินหรือราคาที่สูงเกินจริง

สารจากผู้แปล

ต้องอย่างนี้ค่ะซานนี เจอแม่สามีนิสัยเสียแบบนี้ต้องโต้กลับด้วยการทำตัวให้ดีมีฐานะกว่า เอาให้หน้าชาไปทั้งหมู่บ้านเลยค่ะ แถมสามีก็ปากแจ๋วด้วย หน้าชาคูณสองกันถ้วนหลี่เจี่ยแน่

ไหหม่า(海馬)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม