บทที่ 464 หนทางที่ดี
“ใช่ค่ะ ร้านนี้เป็นของเราเอง ถ้าคุณมีเรือนสี่ประสานเมื่อไหร่ก็มาบอกเราได้ที่นี่นะคะ ถ้าเรารู้ทันทีเราจะจ่ายทิปให้ไม่ขาดเลยค่ะ” หลินชิงเหอพูด
เธอไม่คิดว่าตอนนี้จะมีเรือนสี่ประสานให้ซื้อได้ เพราะเธออาจไม่สามารถซื้อมันได้ต่อให้มีเงินมหาศาลอยู่ในมือก็ตาม มันต้องมีราคาแพงกว่านี้แน่นอน
แถมในบรรดาคนเหล่านั้นที่มีเรือนสี่ประสานมีใครบ้างที่ร้อนเงิน? แล้วเหตุใดพวกเขาถึงจะขายมันภายใต้สถานการณ์ปกติด้วย?
เรือนสี่ประสานที่เธอซื้อมาคราวที่แล้วก็เกือบจะซื้อมาไม่ได้เหมือนกัน
ดังนั้นจึงต้องเอ่ยปากกับผู้จัดการไว้ล่วงหน้าก่อน ส่วนผู้จัดการหญิงเมื่อคราวที่แล้วก็ปล่อยหล่อนไป มีอสังหาริมทรัพย์มากมายขนาดนี้ คน ๆ เดียวคงไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด จึงไม่มีผลกระทบอะไรมากนัก
ยิ่งกว่านั้นเธอก็ยุ่งและโจวชิงไป๋ก็ต้องดำเนินกิจการร้าน เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมาติดต่อเดินเรื่องบ่อย ๆ
แม้พวกเขาจะซื้อเรือนสี่ประสานสองวงระดับชั้นยอดที่กินพื้นที่มากกว่า 800 ตารางเมตรไปแล้ว แต่หลินชิงเหอก็ยังไม่พอใจกับเรือนสี่ประสานสองวงหลังเดียวที่มีอยู่
หลินชิงเหอจึงทำได้เพียงขอให้ผู้จัดการมาแจ้งพวกเขา
หลังซื้อร้านค้าไป 2 ร้าน หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ก็กลับมาที่บ้าน
ขณะที่เดินไปตามถนน หญิงสาวก็เอ่ยขึ้น “ร้านนั้นยังเล็กไปหน่อยนะคะ มีทางที่จะสร้างเป็นที่อยู่อาศัยได้ไหมคะ?”
“ได้สิ” โจวชิงไป๋ตอบ
มันมีทางเป็นไปได้แน่นอน แค่ต้องใช้เงินสักหน่อยเท่านั้น พื้นที่ร้านนั้นมีแค่ 40 ตารางเมตรหรือราว ๆ นั้น จึงไม่มีปัญหาหากจะกั้นพื้นที่สัก 20 ตารางเมตรมาสร้างเป็นห้องเดี่ยวแคบ ๆ ที่มีห้องน้ำห้องส้วมครบครันห้องเล็ก ๆ และห้องครัวห้องน้อยไว้กินอาหาร
ในช่วงยุคนี้ ผู้คนก็อาศัยอยู่กันแบบนี้โดยไม่ตั้งแง่มากนัก
และมันใช้เงินมหาศาลในการปรับปรุงบูรณะห้องใหม่
แต่เขาไม่สนใจเรื่องนี้อีกต่อไป โจวชิงไป๋ไปที่ร้านเกี๊ยว ส่วนหลินชิงเหอแยกไปที่ร้านเสื้อผ้าผู้ชายเพื่อมาหาหม่าเฉิงหมิน
พนักงานสองคนที่หม่าเฉิงหมินพามาด้วยต่างทำงานวุ่นวายอยู่ที่นี่ ทั้งคู่กำลังรอเธออยู่ ซึ่งทั้งสองคนล้วนเป็นเด็กสาว
หลังตรวจสอบพวกหล่อนแล้ว หลินชิงเหอก็เอ่ยขึ้น “สองวันแรกฝึกงานไปก่อนนะจ๊ะ ถ้าผ่านงานแล้วก็อยู่ต่อได้เลย”
หม่าเฉิงหมินคงบอกพวกหล่อนในเรื่องข้อปฏิบัติไปแล้ว เธอจึงไม่สาธยายรายละเอียดมากนัก
เธอจึงพาพวกหล่อนทั้งคู่ข้ามถนนไปที่ร้านเสื้อผ้าผู้หญิงที่โจวเอ้อร์นีดูแลอยู่ ไม่นานนักโจวเอ้อร์นีก็มาถึง
“หนูรับไว้ที่นี่คนหนึ่งนะ อีกคนหนึ่งให้ไปทำงานที่ร้านของซานซาน” หลินชิงเหอพูด
“ทางฝั่งหนูยังมีซื่อนีอยู่นะคะ” โจวเอ้อร์นีเอ่ยขึ้น
ก่อนหน้านั้นมีหล่อนและเด็กสาวอีกคนหนึ่งอยู่ในร้าน ตอนนี้มีซื่อนีมาอยู่ด้วย ถ้าเพิ่มคนอีกหนึ่งคน ร้านนี้ก็จะมีคน 4 คน
“อาวางแผนว่าจะให้ซื่อนีไปช่วยงานเฉิงหยางกับเฉิงเยว่ที่ร้านเครื่องดื่มน่ะจ้ะ” หลินชิงเหอบอก
โจวเอ้อร์นีพยักหน้าเมื่อได้ยินดังนี้ หลินชิงเหอจึงกล่าวต่อ “กลับไปทำงานแล้วก็เรียกให้ซื่อนีมาหาด้วยนะจ๊ะ อาจะพาหล่อนไปที่นั่นครู่หนึ่ง”
ตอนนี้มีร้านเสื้อผ้าทั้งหมด 3 ร้านแล้ว ทางฝั่งของโจวเอ้อร์นีมีคน 3 คน ฝั่งของเฉินซานซานก็มีคน 3 คนเช่นกัน ทันทีที่ซื่อนีไปที่นั่น ก็จะมีคนที่ร้านเครื่องดื่ม 3 คนเช่นกัน
คน 3 คนผลัดกันดูแลในแต่ละร้าน ซึ่งนี่นับว่าสมบูรณ์แบบทีเดียว เป็นการจัดการหน้าที่การทำงานที่ผ่อนคลายมากกว่าเดิมนัก
ร้านเสื้อผ้าผู้ชายมีหู่จือ กังจือ และหม่าเฉิงหมินดูแลอยู่ แม้หม่าเฉิงหมินจะต้องดูแลร้านหลายร้าน แต่เมื่อใดที่เขาไม่จำเป็นต้องออกไปตรวจ เขาก็จะมาเฝ้าที่ร้านนี้
เขาเป็นคนซื่อตรงมาก หากเขาไม่ได้ออกไปทำงานคนเดียว มันก็เป็นเรื่องยากที่จะหางานที่ได้เงินเดือนและการปฏิบัติต่อพนักงานเหมือนอย่างที่หลินชิงเหอทำ
หลินชิงเหอมาบอกหม่าเฉิงหมินเกี่ยวกับการเปิดร้านขายอาหารแห้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...